xs
xsm
sm
md
lg

“อัษฎางค์” เผย “สามกีบ” ขู่คุกคาม “หมอวรงค์” ถูก “เฟกนิวส์” เล่นงาน “ไพศาล” ชี้ “โรม” พลาด! ร้องยกเลิก 112

เผยแพร่:   ปรับปรุง:


ภาพ ใครว่า “สลิ่ม” ไร้การศึกษา ยกตัวอย่าง 3 ดร. เปรียบเทียบแกนนำ 3 กีบ ขอบคุณข้อมูล-ภาพจากเพจเฟซบุ๊ก เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค
ยกเป็นบทเรียน! “เอ็ดดี้ อัษฎางค์” เผย “สามกีบ” ข่มขู่ คุกคาม แต่จบลงด้วยความเข้าใจ ถือเป็นบทเรียนอุทาหรณ์กับคนอื่น “หมอวรงค์” ซัด เฟกนิวส์ จ้องทำลาย “กลัวผมใช่มั้ย” “ไพศาล” ชี้ “โรม” พลาด ร้องยกเลิก 112

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (19 มิ.ย. 65) เพจเฟซบุ๊ก เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค ของ นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการประวัติศาสตร์ โพสต์ข้อความระบุว่า

“ก่อนอื่น ขอเรียนกับทุกท่านก่อนว่า
เรื่องการถูกข่มขู่ คุกคาม ที่เกิดขึ้นกับผมในวันนี้ จบลงด้วยความเข้าใจ

จึงขอความกรุณาทุกท่าน ที่จะคอมเมนต์แสดงความคิดเห็นในโพสต์นี้ ได้โปรด อย่าคอมเมนต์ ด้วยการดูหมิ่นดูแคลน ด้วยความหยาบคาย หรือด้วยอารมณ์
แต่ขอให้คอมเมนต์แสดงความคิดเห็นด้วยความเข้าใจ และเห็นอกเห็นใจ ให้โอกาสคนที่กลับตัวกลับใจ

อย่าลืมว่าพวกเราคนไทย ทั้งประเทศเป็นญาติพี่น้องกัน ร่วมกันให้ข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อทำให้คนที่หลงเข้าใจผิด ได้มีโอกาสกลับตัวกลับใจ

ปัญหาที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองเรานั้น เกิดจากผู้ไม่หวังดี ที่หวังจะทำลายความสามัคคีของคนไทย ทำให้เราไม่เข้าใจกัน โกรธเกลียด และเข่นฆ่ากัน เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของกลุ่มคนบางกลุ่มเท่านั้น

ขอให้พวกเราดำเนินการตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๑๐ ที่พระองค์ทรงตรัสว่า “เอาความจริงออกมา”

ดังนั้น พวกเราต้องเอาความจริงมาลบล้าง ข้อมูลข่าวสารที่บิดเบือนเหล่านั้น
……………………………………………………………….

เรื่องราวเริ่มต้น ที่ผมโพสต์เรื่องพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ ต่อมาผมโพสต์เรื่องพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี โอบอุ้มช่วยเหลือคนไทยมาตลอด ๒๔๐ ปี ไม่ใช่ประชาชนต้องเสียภาษีเลี้ยงราชวงศ์อย่างที่ปลุกปั่นกัน

แต่มีคนมาคอมเมนต์ว่า “สลิ่มมีแต่คนไร้การศึกษา”

ผมจึงยกตัวอย่าง ด้วยการเอาภาพ 3 ดอกเตอร์ ที่ถูกตราหน้าว่า เป็นสลิ่ม มาเป็นตัวอย่าง ว่า ไร้การศึกษาจริงหรือไม่

ปรากฏว่า ตลอดหลายวันที่ผ่านมามีทัวร์ลงเยอะมาก

ภาพ ข้อความตอบโต้ของ อัษฎางค์กับคู่กรณี ขอบคุณข้อมูล-ภาพจากเฟซบุ๊ก เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค
หนึ่งในนั้น ส่งข้อความมาในอินบ็อกซ์ ด้วยข้อความทีเล่นทีจริง แต่อ่านแล้วรู้สึกได้ว่า ผมกำลังถูกข่มขู่และคุกคาม

ผมจึงแจ้งน้องคนนั้นไปว่า ผมคงต้องดำเนินคดี
……………………………………………………………….
ผมเขียนถึงน้องเพื่ออธิบาย
ขอเอามาลงตรงนี้ เผื่อเป็นประโยชน์กับคนอื่น
๑. ผมโพสต์ด่าใคร หรือแสดงความหยาบกับใครหรือเปล่า ผมข่มขู่ คุกคามใครหรือไม่

๒. พวกคุณเรียกร้องหา ประชาธิปไตย
อยากทราบว่า เข้าใจประชาธิปไตย กันดีแค่ไหน
ประชาธิปไตย คือ ทุกคนสามารถมีความเห็นต่าง และสามารถแสดงออกถึงความเห็นต่างของตนเองได้
แต่ที่สุดแล้ว ถึงจะเห็นต่างยังไงก็ตาม สุดท้ายต้องมีความเคารพที่จะยอมรับและยอมทำตามเสียงส่วนใหญ่
ไม่ใช่เป็นเสียงส่วนน้อย ที่แพ้เสียงส่วนใหญ่แล้ว กลับไม่ยอมรับ และไม่ยอมแพ้ แต่ใช้วิธีป่าเถื่อนตอบโต้
สรุปว่า สลิ่มหรือสามกีบ ใครกันแน่
ที่ไม่มีความเป็นประชาธิปไตย

๓. เรียกร้องว่า เมืองไทยไม่พัฒนา
คำว่าบ้านเมืองพัฒนาหรือไม่ ไม่ได้หมายถึง สภาพบ้านเมืองทึ่ทันสมัย สวยงาม หรือการกินดีอยู่ดีของประชาชนเท่านั้น

แต่มันยังหมายถึง นิสัยใจคอ พฤติกรรม การแสดงออกของประชาชนในประเทศด้วย

พฤติกรรม ข่มขู่ คุกคาม ต่อผู้ที่มีความเห็นไม่เหมือนกับตนเอง คือ สิ่งที่บ่งบอกถึง การไม่ได้รับการศึกษา ไม่รับการอบรม และความเป็นประเทศที่ไม่พัฒนาด้วยเช่นกัน
……………………………………………………………….

คำตอบที่น้องเขียนกลับมา
เป็นการเปิดอกพูด ออกมาจากใจ
ซึ่งผมยินดีที่น้อง พูดออกมาตรงๆ จากใจ
ผมถือว่า น้องมีความเป็นลูกผู้ชายมาก น่านับถือ
ขออนุญาตนำมาลงในโพสต์ เพื่อเป็นบทเรียนและอุทาหรณ์กับคนอื่นๆ ต่อไป”

ภาพ “เฟกนิวส์” ที่ “หมอวรงค์” เชื่อว่า ถูกขบวนการจ้องทำลายทำขึ้น ขอบคุณข้อมูล-ภาพจากเพจเฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom ของ “หมอวรงค์”
ขณะเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom ของ “หมอวรงค์” นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความระบุว่า

“#กลัวผมใช่ไหม
มีขบวนการจ้องทำลายผม หมอวรงค์ และพรรคไทยภักดี เพื่อให้ประชาชนเข้าใจผิด มาอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุดปล่อยแบนเนอร์ปลอม มีข้อความ
พระอาจารย์แจ้-พุทธะอิสระ ร่วมปลุกเสก!!
“พระอาจารย์แจ้” เตรียมนั่งปรกปลุกเสก รูปถ่ายเหมือน “รุ่นบูชาครู”
หมอวรงค์จัดสร้าง แจกเฉพาะ “สมาชิกไทยภักดี”
เพื่อเป็นเกราะป้องกัน ในการป้องกันชาติ ศาสน์ กษัตริย์
ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะเราใช้ความจริง อุดมการณ์ นโยบายที่ดี เป็นอาวุธในการต่อสู้
เราเชื่อว่า ขณะนี้กระแสความนิยม ของพรรคไทยภักดี ได้รับความสนใจจากพี่น้องประชาชน นับวันจะสูงมากขึ้น เพราะพวกเราจริงใจต่อประชาชน และประเทศชาติ
พวกคิดร้ายต่อประเทศชาติ จึงพยายามจ้องทำลาย ลดความน่าเชื่อ ด้วยการปล่อยเฟคนิวส์ เพื่อทำลายพวกเรา
แต่ไม่มีทางสำเร็จ...........”

ภาพ นายไพศาล พืชมงคล ชี้ ส.ส.โรม พลาด! ร้องยกเลิก 112 ขอบคุณข้อมูล-ภาพจากสยามรัฐออนไลน์
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย โพสต์ข้อความระบุว่า

“ท่าน ส.ส.โรม พลาดท่าที่เรียกร้องให้เลิกมาตรา 112

1. ต้องเข้าใจว่า กฎหมายอาญาคุ้มครองการประทุษร้าย 4 ประเภทคือ

~ชีวิต

~ร่างกาย

~ทรัพย์สินและ

~ชื่อเสียงเกียรติคุณ

2. กฎหมายเกี่ยวกับการหมิ่นประมาทเป็นการคุ้มครองชื่อเสียงเกียรติคุณ

และคุ้มครองคน 5 ประเภทคือ

~ คุ้มครองประชาชนทุกคน

~ คุ้มครองเจ้าพนักงานที่ปฏิบัติการตามหน้าที่ทุกคน

~ คุ้มครองทูตต่างประเทศทุกประเทศทุกคน

~ คุ้มครองประมุขรัฐต่างประเทศทุกประเทศทั่วโลก

~ คุ้มครองพระมหากษัตริย์สมเด็จพระราชินีและพระรัชทายาท ของประเทศไทย นั่นคือ มาตรา 112

3. ส.ส.โรมท่านเรียกร้องให้เลิกมาตรา 112

แต่ไม่ได้เรียกร้องให้เลิกมาตราอื่นที่คุ้มครองคนอีก 4 ประเภทที่เหลือ

แสดงว่า ท่านไม่เข้าใจหลักกฎหมายเหล่านี้ หรือถ้าเข้าใจก็แสดงว่าท่านไม่มีมาตรฐานในการพิจารณาเรียกร้องเพราะในเมื่อกฎหมายคุ้มครองคนถึง 5 ประเภท ตั้งแต่ชาวบ้านธรรมดาแม้กระทั่งประมุขรัฐอื่นในต่างประเทศ แล้วไฉนเล่าท่านจึงเรียกร้องให้ยกเลิกเฉพาะการคุ้มครองพระมหากษัตริย์ สมเด็จพระราชินี และพระรัชทายาท ของประเทศไทยเท่านั้น

ท่านประณามการเลือกปฏิบัติ ในหลายกรณีมาแล้ว ที่ท่านเรียกร้องนี้ก็คือการเลือกปฏิบัติ

แต่เป็นการเลือกปฏิบัติที่เกิดจากความไม่เข้าใจในหลักแห่งกฎหมายที่ใช้กันอยู่ในอารยประเทศ

ขอเสนอให้ ส.ส.โรมท่านพิจารณาทบทวนข้อเรียกร้องนี้เสีย” (จากสยามรัฐออนไลน์)

แน่นอน, ประเด็นที่น่าสนใจ คือ ความเห็นต่างที่เลยเถิด จนกลายเป็นการ “ละเมิด” บุคคลอื่น (ที่เป็นฝ่ายตรงข้าม) ซึ่งถือว่า ทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะการเอาทัวร์ไปลง การข่มขู่คุกคาม รวมถึงการสร้าง “เฟกนิวส์” หรือ “ข่าวปลอม” ขึ้นมาทำร้ายทำลายกันในทางการเมือง

เรื่องนี้มีแนวโน้มเกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในโลกออนไลน์ ซึ่งมี “พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์” คุ้มครอง และจะทำให้คนที่ไม่เข้าใจกฎหมาย หรือ ไม่รอบคอบในการตอบโต้ด่าทอ ข่มขู่คุกคามกันในโลกออนไลน์ ต้องจ่ายค่าเสียหายเป็นจำนวนมาก ถ้าหากคู่กรณีที่แจ้งความเอาผิด ต้องการเอาผิดจนถึงที่สุด ไม่ใช่เรื่องสนุกแต่อย่างใด

ส่วนประเด็นที่ นายไพศาล พืชมงคล หยิบยกมาท้วงติง ส.ส.โรม ก็นับว่าน่าสนใจไม่แพ้กัน โดยเฉพาะที่บอกว่า การร้องยกเลิกแต่เฉพาะ ม.112 ถือว่า เป็นการเลือกปฏิบัติ ซึ่งเป็นสิ่งที่ “ขบวน 3 นิ้ว” เรียกร้องมาตลอดในเรื่องความเท่าเทียม ไม่สองมาตรฐาน ไม่เลือกปฏิบัติ แต่ทำไม เรื่องนี้ ฝ่ายนี้จึงจงใจเลือกปฏิบัติเสียเอง จะให้ประชาชนคนไทยคิดอย่างไร?
กำลังโหลดความคิดเห็น