xs
xsm
sm
md
lg

“ป้าหมวย” ลูกกตัญญูดูแลแม่ชราตาบอด สู้ความยากจน ยอมอดมื้อกินมื้อ เพื่อให้แม่ได้อิ่ม!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ 18 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา พาคุณผู้ชมไปรู้จัก “ป้าหมวย” ที่ต้องใช้ชีวิตกินอยู่อย่างอัตคัตขัดสนกับแม่ที่แก่ชราและตาบอด แม้ยากจน ต้องอดมื้อกินมื้อ หรือไม่มีกิน ป้าหมวยพร้อมยอมอด เพื่อให้แม่มีกิน



"ป้าหมวย" บัวทอง แซ่ซิ้ม ใช้ชีวิตอยู่กับแม่ชราตาบอดและหลานสาวที่ร่างกายไม่ค่อยสมประกอบในห้องเช่าเล็กๆ ที่ค่อนข้างทรุดโทรมและไร้ประตูห้องน้ำ เพราะผุพัง ที่ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ความยากจนทำให้ป้าหมวยและครอบครัวต้องใช้ชีวิตอยู่ที่นี่แบบตามมีตามเกิด


"เคยไม่มีเงินซื้ออะไรกิน มีข้าวอยู่หน่อย ก็ต้มข้าวต้ม ไม่มีน้ำปลา ก็ใส่เกลือเอา"


เคยมีบ้านอยู่ แต่ถูกไล่ที่!!

ก่อนมาเช่าห้องอยู่ที่นี่เมื่อไม่กี่ปีก่อน ป้าหมวยเคยมีบ้านอยู่มาหลายสิบปีตั้งแต่ทำงานเป็นแม่บ้านที่โรงปูนแห่งหนึ่ง แต่แล้ว! ชีวิตกลับพลิกผัน เมื่อถูกนายทุนไล่ที่


“ทำงานพออายุเกิน 60 เขาก็ให้ออก ก็มาขายของชำอยู่บ้าน รับผลไม้มาขายหน้าบ้านด้วย รายได้ก็ดี แต่พอมีนายทุนมา เขาบอกเขาเป็นเจ้าของที่ เขาเลยมาขับไล่ เขาไม่ให้อยู่แล้ว ก็มีหมายศาลมา ก็ขึ้นศาลหลายรอบ ป้าไปขอความช่วยเหลือถึงกรุงเทพฯ ไปที่สภาทนายความ..."


หลังแพ้คดีที่ถูกไล่ที่ ป้าหมวยพร้อมแม่และหลาน จึงย้ายมาอยู่ห้องเช่าที่อยู่ปัจจุบัน เงินทุนที่เคยพอมี ก็หมดไปกับการลงทุนขายของที่บ้านหลังเดิม แม้ชีวิตเหมือนไม่เหลืออะไร ต้องเริ่มต้นใหม่ แต่ป้าหมวยก็ยังสู้ ทั้งทำขนมขาย ทำข้าวแกงขาย ถึงขนาดเดินเท้าไปขายในโรงปูนด้วย แต่สุดท้าย ก็ไปไม่รอด!


"คือช่วงนั้นเขามีร้านค้าทำในโรงปูน มีแม่ค้าไปตั้งร้านขายกัน และมี รปภ. เขาไม่ให้ป้าเข้า เขากลัวป้าไปแย่งแม่ค้าข้างในเขา ทีนี้ก็ทำเดินขายในหมู่บ้าน ก็ขายไม่ดี กับข้าวเหลือ ขนมเหลือ มันก็เสีย ก็หันมาอบ ทำขนมปังอบใส่เนยใส่งา ส่งตามร้านและวางขายที่บ้านด้วย ตอนแรกก็ขายดี ตอนหลังก็ขายไม่ได้..."


หลังจากแม่ตาบอดเพราะโรคต้อหิน ป้าหมวยยิ่งไม่มีทางเลือกมากนักในการทำงานหารายได้ เพราะห่วงแม่ ต้องคอยดูแล ทำให้ไปไหนไกลไม่ได้ ป้าหมวยจึงเลือกขายของชำเล็กๆ น้อยๆ ที่หน้าห้องเช่า แต่ด้วยทุนไม่ค่อยมี จึงซื้อของมาขายได้ไม่มาก แถมยังขายแบบเอากำไรแค่ชิ้นละ 1-2 บาทเท่านั้น


"(ถาม-ดูแล้วไม่น่าจะขายได้เยอะต่อวัน รายได้เป็นยังไงบ้าง?) บางวันก็ขายได้ 100-200 บางวันก็ไม่ถึง 100 บางวันเงียบ ขายไม่ได้เลย (ถาม-สมมุติขายได้ 100 กำไรกี่บาท?) ก็ได้ 20 บาท เพราะของบางชิ้นกำไร 1 บาท บางชิ้น 2 บาท"


ดูยอดกำไรจากการขายของต่อวันแล้ว อดสงสัยไม่ได้ว่า ป้าหมวยและครอบครัวจะใช้ชีวิตอยู่อย่างไร?

"ไม่พอ ก็ประหยัดเอา มีเงินของผู้สูงอายุช่วยด้วย ประหยัดไว้ วันๆ ป้าก็ไม่ซื้ออะไร จะซื้อข้าวให้แม่เท่านั้น"


ไม่ใช่แค่ไม่มีทุนขายของ แต่เวลาของจะหมด ป้าหมวยต้องซื้อของมาเติม ซึ่งต้องเดินเท้าไป-กลับไกลเกือบ 2 กม. เนื่องจากร้านอยู่ไกล

ขณะที่แม่ของป้าหมวย กับวัย 83 และตามองไม่เห็น ยอมรับว่า สงสารลูกที่ต้องทำทุกอย่าง ทั้งดูแลแม่ ทำงานบ้าน และหาตังค์เพื่อซื้อข้าวให้แม่กิน


ด้านทิวา พันนาม หลานสาวของป้าหมวย (ลูกของน้องสาวแม่) วัย 50 กว่า แม้ร่างกายจะไม่ค่อยสมประกอบ มือและเท้ามีเนื้องอกออกมาเป็นไตแข็งๆ ลักษณะคล้ายตาปลาจำนวนมาก ซึ่งหมอไม่สามารถวินิจฉัยได้ว่าเป็นโรคอะไร แต่โชคดีที่หลานยังสามารถทำงานรับจ้างล้างจานพอเลี้ยงตัวเองได้ นอกจากนี้หลานยังมีภาวะภูมิแพ้และหอบ หากอาการกำเริบ จะแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก


"ถ้าเขาเป็นอยู่บ้าน ก็ไม่เป็นไร เพราะป้าคอยดูแล คอยกดท้อง นวด พอโล่งแล้วเขาจะหายใจออก"


แม้หลานจะมีรายได้จากการทำงาน แต่ป้าหมวยซึ่งหารายได้ได้อย่างจำกัดและอัตคัตขัดสน ก็ไม่เคยคาดหวังว่าหลานต้องมาช่วยเหลือหรือดูแล แค่เห็นหลานทำงานได้ เอาตัวรอดได้ ก็ดีใจแล้ว


ป้าหมวยไม่เพียงมีแม่เป็นโรคต้อหินจนตาบอด แต่ป้าหมวยเองก็เป็นต้อไม่ต่างกับแม่เช่นกัน เพียงแต่วันนี้ดวงตาป้าหมวยยังมองเห็นอยู่เท่านั้น


"เคยไปหาหมอ เขาก็ให้ยามาหยอด ถ้าจะให้ไปลอก ไปผ่า กลัวกลับมา ทำอะไรไม่ได้ ไหนจะซักเสื้อผ้า ไหนจะกับข้าว บางทีเราไปยกของหนัก มันไม่ได้ เขาต้องให้พักผ่อน เห็นบางคนเขาไปลอกมาแล้วมองไม่เห็น พอมาก็ทำโน่นทำนี่มันสะเทือน เลยไม่อยากทำตรงนั้น ก็ช่างมันเถอะ..."


ไม่ใช่แค่เรื่องสุขภาพ แต่เรื่องที่อยู่อาศัยกำลังสร้างปัญหาให้ป้าหมวยอีกครั้งหลังเคยถูกไล่ที่เมื่อไม่กี่ปีก่อน

"เพราะว่าเจ้าของห้องเช่านี้ เขาจะกลับไปอยู่บ้านเขาที่ต่างจังหวัด เขาเลยจะขายให้คนใหม่ คนใหม่เขาก็จะมาซ่อมแซมทำใหม่ แล้วเขาจะให้ออก ถ้าไม่ออก ก็ต้องซื้อ ถ้าจะเช่าอยู่ ก็ต้องเพิ่มค่าเช่า ถ้าเขาบอกว่า ต้องเพิ่มค่าเช่าเป็น 2,000 หรือมากกว่านั้น เราไม่ไหว ก็ต้องออกไปอยู่ห้องที่ถูกกว่านี้หน่อย”


ลำพังค่าเช่าห้องปัจจุบัน 1,400 (ยังไม่รวมค่าไฟ) ป้าหมวยก็ต้องอดมื้อกินมื้อ กินวันละมื้ออยู่แล้ว หากต้องหาที่อยู่ใหม่ แถมแพงกว่าเดิม จะเอาตังค์ที่ไหนไปสู้ค่าเช่า

"วันหนึ่งป้ากินครั้งเดียว บางวันกินเช้าทีเดียว บางทีก็กินเย็นทีเดียว (ถาม-ยอมอดเพื่อให้แม่ได้กิน?) ค่ะ (ถาม-เคยไหมไม่มีอะไรกินเลย เราทำยังไง?) ก็กินน้ำ หิวก็กินน้ำ มันไม่มีก็คือไม่กิน ก็หาให้แต่แม่ มีข้าวมีกับข้าวให้แม่ก็พอแล้ว"


หากท่านใดต้องการช่วยเหลือป้าหมวยและแม่ให้มีทุนปัจจัยในการดำรงชีพสามารถโอนไปได้ที่ธนาคารกรุงไทย สาขาแก่งคอย ชื่อบัญชี บัวทอง แซ่ซิ้ม เลขบัญชี 900-0-39329-9 หรือหากต้องการช่วยเหลือเป็นสิ่งของ สามารถส่งไปได้ที่ บัวทอง แซ่ซิ้ม 45/2 หมู่ที่ 5 ต.ทับกวาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี 18260 หรือติดต่อป้าหมวยได้ที่ 092-421-3878


คลิกชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ตอน “ยอมอด...เพื่อแม่อิ่ม”
https://www.youtube.com/watch?v=iFlBjd7d5x4&t=425s


ติดตามรับชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ได้ ทุกวันเสาร์ เวลา 09.00-09.30 น. ทางสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ( IPM ช่อง 64 / PSI ช่อง 211 )

หรือรับชมรายการย้อนหลังได้ที่เพจ ฅนจริงใจไม่ท้อhttps://web.facebook.com/KonJingJaimaitor/
หรือยูทูบฅนจริงใจไม่ท้อhttps://www.youtube.com/channel/UCsb4sLqdHs35km4uQ_tOCjQ/videos
กำลังโหลดความคิดเห็น