เรือพิฆาตของกองทัพสหรัฐฯ ซึ่งจมหายนอกชายฝั่งฟิลิปปินส์ระหว่างยุทธนาวีในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ถูกค้นพบที่ความลึกเกือบ 7,000 เมตร และกลายเป็นซากเรือจมที่อยู่ “ลึกที่สุดในโลก” เท่าที่เคยมีการสำรวจมา
เรือพิฆาต ยูเอสเอส ซามูเอล บี โรเบิร์ตส (USS Samuel B Roberts) จมหายที่นอกชายฝั่งเกาะซามาร์ (Samar) ทางตอนกลางของฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 25 ต.ค. ปี 1944 ระหว่างที่ทหารสหรัฐฯ เข้าต่อสู้เพื่อปลดปล่อยฟิลิปปินส์จากการยึดครองของกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่น
วิกเตอร์ เวสโกโว ผู้ก่อตั้งบริษัทเทคโนโลยีสำรวจใต้ทะเล คาลาดัน โอเชียนิก (Caladan Oceanic) ที่มีฐานอยู่ในรัฐเทกซัส ประกาศความสำเร็จในการค้นพบซากเรือ ‘แซมมี บี’ หลังจากที่ได้ส่งยานดำน้ำลงไปทำการสำรวจหลายครั้งในเดือนนี้
ทีมค้นหาได้บันทึกภาพแท่นยิงตอร์ปิโด 3 ลำกล้อง ปืน และโครงสร้างตัวเรือซึ่งยังอยู่ในสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ แม้จะนอนสงบนิ่งอยู่ในสุสานใต้ทะเลลึกมานานเกือบ 80 ปี
“ณ ความลึก 6,985 เมตร มันคือซากเรือจมซึ่งอยู่ลึกที่สุดในโลก เท่าที่เคยมีการสำรวจและค้นพบมา” เวสโกโว ระบุ พร้อมสดุดีวีรกรรมของเรือพิฆาต “ลำเล็กๆ ที่ต่อสู้กับกองทัพเรือญี่ปุ่นอย่างกล้าหาญ จนวาระสุดท้ายของมัน”
ตามบันทึกของกองทัพเรือสหรัฐฯ ลูกเรือ ‘แซมมี บี’ ต้องลอยคออยู่กลางทะเลนานเกือบ 3 วันเพื่อคอยความช่วยเหลือ และมีหลายคนที่เสียชีวิตลงเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหวหรือถูกฉลามกัด
เรือพิฆาตลำนี้มีลูกเรือประจำการทั้งหมด 224 นาย และเสียชีวิตไป 89 นาย
การรบซามาร์เป็นส่วนหนึ่งของยุทธนาวีที่อ่าวเลย์เต (Leyte) ซึ่งเป็นการเผชิญหน้าที่ดุเดือดและกินเวลาหลายวันระหว่างกองทัพสหรัฐฯ และญี่ปุ่น โดยเรือ ‘แซมมี บี’ เป็นหนึ่งในเรือรบอเมริกัน 4 ลำ ที่ถูกยิงจมเมื่อวันที่ 25 ต.ค. ปี 1944
ก่อนหน้านี้ ทีมค้นหาของ เวสโกโว เคยค้นพบซากเรือยูเอสเอส จอห์นสตัน (USS Johnston) ที่ความลึกเกือบ 6,500 เมตร และในภารกิจล่าสุดนี้ทีมงานยังหวังที่จะตามหาซากเรือยูเอสเอส แกมเบียร์ เบย์ (USS Gambier Bay) ซึ่งคาดว่าจมอยู่ที่ความลึกกว่า 7,000 เมตร ทว่ายังหาไม่พบ
อย่างไรก็ตาม ทีมค้นหาไม่ได้ติดตามร่องรอยของซากเรือยูเอสเอส โฮล (USS Hoel) เนื่องจากไม่มีข้อมูลที่น่าเชื่อถือว่าจุดที่เรือจมน่าจะอยู่บริเวณไหน
สำหรับซากเรือ “ไททานิก” อันโด่งดังนั้นจมอยู่ก้นมหาสมุทรแอตแลนติกที่ความลึกประมาณ 4,000 เมตร
ที่มา : เอเอฟพี
