xs
xsm
sm
md
lg

ทั้งยืม ทั้งซื้อ? “ปค.” MOU “สรรพวุธ” ยืมต่อ “HK 33” 2,160 กระบอก หลังเพิ่งทุ่ม 38 ล้าน จัดซื้อปีนี้ 495 กระบอก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



มท.(ปค.) & ทบ.(สรรพวุธ) MOU ขยายเวลายืมต่ออีก ปืนเล็กยาว “HK 33” ขนาดกระสุน 5.56 มม. กว่า 2,160 กระบอก พ่วงอุปกรณ์ครบชุด หลังจากหมดสัญญายืมเมื่อปีก่อน เผย เป็นโครงการเดิม ที่ คปต.-กอ.รมน.-หัวหน้า คสช. เห็นชอบ จัดหา HK 33 แจก อส.ชายแดนใต้ 2,700 กระบอก พบปีงบ 65 ปค. เพิ่งจัดซื้ออีก 495 กระบอก วงเงิน 38.6 ล้าน

วันนี้ (29 มิ.ย.) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (28 มิ.ย.) นายธนาคม จงจิระ อธิบดีกรมการปกครอง ในฐานะหัวหน้าฝ่ายอำนวยการ กองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดน (บช.อส.) มอบหมายให้ นายสมศักดิ์ เจริญไพฑูรย์ รองอธิบดีกรมการปกครอง /รองหัวฝ่ายอำนวยการ กองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดน

เป็นผู้ลงนามในบันทึกข้อตกลง (MOU) ฝ่ายกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับ พลโท นพดล ศรีจันทร์สุข เจ้ากรมสรรพาวุธทหารบก เป็นผู้ลงนามในบันทึกข้อตกลงฝ่ายกองทัพบก กระทรวงกลาโหม ที่ห้องรับรอง กองบัญชาการกรมสรรพาวุธทหารบก ชั้น 2 กรมสรรพาวุธทหารบก

“เป็นพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงการสนับสนุนยุทโธปกรณ์อาวุธ จำนวน 2,160 กระบอก (ห้วงที่ 2) ระหว่าง กองทัพบก กระทรวงกลาโหม กับ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย”

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการขยายระยะเวลาการเบิกยืมอาวุธปืนเล็กยาว ขนาด 5.56 มม. HK 33 พร้อมอุปกรณ์ครบชุด จำนวน 2,160 กระบอก ต่อเนื่องจากบันทึกข้อตกลงการสนับสนุนยุทโธปกรณ์อาวุธ (ห้วงที่ 1)

ระหว่าง กองทัพบก กระทรวงกลาโหม กับ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ 2 พฤษภาคม 2561 ซึ่งได้ (ห้วงที่ 1) ได้สิ้นสุดระยะเวลาลงในวันที่ 30 กันยายน 2564

สำหรับสักขีพยาน การลงนามเมื่อวานนี้ มี นายสมชาย เกียรติก้องแก้ว ผู้อำนวยการ สน.อส./ผู้ช่วยหัวหน้าฝ่ายอำนวยการ กองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดน พร้อมคณะผู้แทนกรมการปกครอง และคณะนายทหารของกรมสรรพาวุธทหารบก

ทั้งนี้ บันทึกข้อตกลง (MOU) การสนับสนุนยุทโธปกรณ์อาวุธ ทั้งฉบับที่ 1 และ 2 ถูกระบุว่า เป็นเอกสารลับ โปรดติดต่อหน่วยงานที่รับผิดชอบ (สน.อส.)

สำหรับโครงการดังกล่าว เมื่อปีงบประมาณ 2557 ในยุคต้นรัฐบาล คสช. ที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (คปต.) ซึ่งมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ขณะนั้นยังอยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในการประชุม

“ได้รับทราบ แนวทางการสนับสนุนอาวุธปืนเล็กยาว แบบ 11 หรือ HK 33 จำนวน 2,700 กระบอก ที่กระทรวงมหาดไทย เสนอ เพื่อแจกจ่ายให้สมาชิกกองกำลังอาสารักษาดินแดน (อส.) ใช้”

ขณะที่ กอ.รมน. ขณะนั้น ชี้แจงว่า โครงการดังกล่าวที่กระทรวงมหาดไทย เสนอในที่ประชุม คปต.ครั้งที่ 1/2557 เมื่อ วันที่ 30 มิ.ย. 2557

เป็นโครงการเร่งด่วนต่อการปฏิบัติภารกิจของกระทรวงมหาดไทยในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อใช้เป็นอาวุธประจำกายให้กับสมาชิก อส.ที่จัดตั้งใหม่

กระทรวงมหาดไทย ได้เสนอโครงการต่อ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ผ่านทาง กอ.รมน.

ซึ่ง “หัวหน้า คสช.” ได้อนุมัติในหลักการให้กระทรวงมหาดไทย โอนให้กองทัพบกเป็นหน่วยดำเนินการจัดหาปืนเล็กยาว ขนาด 5.56 มม. และพิจารณาปรับโอนอาวุธที่ใช้ประจำการให้กระทรวงมหาดไทย และให้เสนอเรื่องไปยังสำนักงบประมาณพิจารณาดำเนินการ

ต่อมา กองทัพบกได้อนุมัติหลักการให้กรมการปกครอง (ปค.) เบิกยืมปืนเล็กยาวแบบ 11 (ปลย.11) หรือที่ใช้ชื่อว่า HK-33 จำนวน 2,700 กระบอก เพื่อใช้เป็นอาวุธประจำกายในการปฏิบัติงานของสมาชิก อส.ทดแทนการจัดซื้อใหม่

โดยเมื่อวันที่ 8 ก.ย. 2557 กรมสรรพาวุธทหารบก ได้ดำเนินการลงนาม MOU กับกรมการปกครองและได้ส่งมอบให้กับหน่วยในพื้นที่ จชต.เรียบร้อยแล้ว “ห้วงแรก” ตั้งแต่ 11 ก.ย. 2557

ทั้งนี้ ตาม พ.ร.บ.กองอาสารักษาดินแดน พ.ศ. 2497 กำหนดให้จัดตั้งสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) ในทุกจังหวัด/อำเภอ ทั่วประเทศ

สำหรับอาวุธปืนที่สนับสนุนให้แก่สมาชิก อส.ในพื้นที่ จชต. เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ส่วนภูมิภาคระดับจังหวัดและอำเภอ ที่ต้องมีไว้ใช้ปฏิบัติภารกิจการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชน

ทั้งนี้ มีระเบียบการใช้อาวุธประจำกายที่เคร่งครัด สามารถควบคุมตรวจสอบได้ สมาชิก อส.ถือว่าเป็นกำลังกึ่งทหารของฝ่ายปกครอง มีการควบคุมบังคับบัญชา และรักษาระเบียบวินัยเช่นเดียวกับทหาร ตำรวจ

กำลังพลทุกนายจะได้รับการฝึกอบรมในเรื่องการใช้อาวุธประจำกายเป็นอย่างดี

ขณะที่ปีงบประมาณ 2565 ยังพบว่า เมื่อเดือน มิ.ย. กรมการปกครอง (ปค.) กระทรวงมหาดไทยโดย นายสมศักดิ์ เจริญไพฑูรย์ รองอธิบดี รักษาการแทนอธิบดีกรมการปกครอง (ปค.) กระทรวงมหาดไทย

ได้ลงนามในประกาศประกวดราคาซื้ออาวุธปืน HK 33 ขนาด 5.56 มิลลิเมตร (5.56 มม.) จำนวน 495 กระบอก ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding)

โครงการดังกล่าว ดำเนินการโดยสำนักอำนวยการกองอาสารักษาดินแดน กรมการปกครอง (อส.ปค.) กำหนดราคากลาง วงเงินทั้งสิ้่น 38,610,000 บาท

อีกฉบับลงนามโดย นายสมศักดิ์ เช่นกัน เป็นการประกวดราคาซื้อกระสุนปืน 3 รายการ ด้วยวิธี e-bidding กำหนดราคากลาง วงเงินทั้งสิ้่น 6,457,387.99 บาท

เป็นกระสุนปืน ขนาด 9 มิลลิเมตร (9 มม.) 132,990 นัด กระสุนปืน ขนาด 5.56 มิลลิเมตร ชนิดธรรมดา 159,959 นัด และกระสุนปืนลูกซอง ขนาด 12 เกจ 41,234 นัด
กำลังโหลดความคิดเห็น