เชียงราย - ทางการท้องถิ่น สปป.ลาว ส่งหนังสือทักท้วงไทย หลังพบ จนท.ไทยล่องเรือ 2 ลำ ใช้เครื่องสแกนโลหะพร้อมนักประดาน้ำอีก 6 คนออกค้นหา “พระเจ้าล้านตื้อ” พระพุทธรูปในตำนานเมืองเชียงแสน กลางน้ำโขง ระบุทำโดยพลการ เสี่ยงกระทบเขตแดน
รายงานข่าวจากแดนไทย-สปป.ลาว ด้าน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย แจ้งว่า นายคำแยง ดอนไชยะกิด เจ้าเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำโขงกับ อ.เชียงแสน ได้มีหนังสือถึงนายคฑาสิทธิ์ เนื่องหล้า นายอำเภอเชียงแสน ช่วงต้นเดือน ก.ค. 2565 ทักท้วงการขุดค้นพระเจ้าล้านตื้อ (พระเจ้าทองทิพย์) ในแม่น้ำโขง ระหว่างเมืองต้นผึ้งกับ อ.เชียงแสน
หนังสือทักท้วงระบุเนื้อหาว่าทาง สปป.ลาว ได้รับแจ้งว่าเมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมาได้มีเจ้าหน้าที่ไทยนำเรือจำนวน 2 ลำ แต่ละลำมีนักประดาน้ำประมาณ 6 คน พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือสำรวจ ค้นหาพระพุทธรูปพระเจ้าล้านตื้อ กลางแม่น้ำโขงบริเวณหน้าที่ว่าการ อ.เชียงแสน ตรงข้ามกับเมืองต้นผึ้ง หรือบ้านดอนของเมืองต้นผึ้ง หลังจากนั้นเรือได้มีการใช้เครื่องสำรวจโลหะใต้น้ำตั้งแต่เวลา 10.15-11.30 น.ก่อนหยุดการค้นหา
การดำเนินการดังกล่าวทาง อ.เชียงแสน ไม่ได้แจ้งให้ทางฝ่ายเมืองต้นผึ้งได้รับทราบตามความร่วมมือระหว่างประเทศเลย ดังนั้นทางเมืองต้นผึ้งจึงเสนอมายัง อ.เชียงแสน ให้ช่วยพิจารณาและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้หยุดการค้นหาดังกล่าวก่อน เพราะเห็นว่าอยู่บริเวณขอบเขตเส้นชายแดนระหว่างไทย-สปป.ลาว ไม่ให้กระทบถึงความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศ
อย่างไรก็ตาม หากทาง อ.เชียงแสน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังต้องการขุดค้นต่อก็ขอให้แจ้งทางฝ่ายแขวงบ่อแก้ว เพื่อให้คณะกรรมการชายแดนระหว่างประเทศตรวจสอบร่วมกัน รวมทั้งมีการจับจุดพิกัดเส้นชายแดนตามร่องน้ำลึกเพื่อไม่ให้กระทบแนวชายแดนและตลิ่งของทั้ง 2 ประเทศ
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ก่อนหน้านี้หน่วยงานในประเทศไทยเคยทำการตรวจและค้นหาองค์พระพุทธรูป ที่เชื่อกันว่ามีขนาดใหญ่และจมอยู่กลางแม่น้ำโขงบริเวณหน้าที่ว่าการ อ.เชียงแสน มาแล้วหลายครั้ง ครั้งล่าสุดมีรายงานว่าหน่วยงานของไทยนิมนต์พระสงฆ์มาจาก จ.ขอนแก่น เป็นองค์ประธานในการค้นหา จากนั้นมีการตรวจวัดระดับ-ความเร็วของกระแสน้ำ และสแกนผิวน้ำบริเวณดังกล่าว ก่อนจะทำการดำค้นหา ซึ่งหากพบวัตถุต้องสงสัยเป็นพระพุทธรูปก็มีแผนจะใช้ถังขนาด 200 ลิตรผูกมัดเพื่อให้ลอยและนำขึ้นฝั่งไทยต่อไป อย่างไรก็ตาม จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่ปรากฏว่ามีองค์พระพุทธรูปดังกล่าวจึงยังไม่สามารถนำขึ้นมาบนฝั่งได้
อนึ่ง พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงแสนมีรายงานว่าชาวเชียงแสนซึ่งตั้งถิ่นฐานมานาน 25-65 ปี เชื่อว่ามีพระเจ้าล้านตื้อหรือพระเจ้าทองทิพย์ จมอยู่กลางแม่น้ำโขงตามที่บรรพบุรุษเคยเล่าให้ฟัง ทำให้มีการค้นหากันมาตั้งแต่ปี 2549 นอกจากนี้ยังปรากฏเรื่องเล่ามากมาย เช่น พรานหาปลาที่ทอดแหและได้เห็นเศียรพระพุทธรูปขนาดใหญ่โผล่ขึ้นมากลางน้ำโขง แต่ไม่มีพระรัศมีบนพระเกตุมาลา ฯลฯ สอดคล้องกับหลักฐานที่ค้นพบเมื่อประมาณ 100 ปีก่อน ซึ่งมีผู้พบพระรัศมีสำริดขนาดใหญ่สูงประมาณ 70 ซม. ปัจจุบันถูกเก็บรักษาเอาไว้ภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงแสน โดยมีการคำนวณกันว่าพระพุทธเจ้าดังกล่าวจะสูงถึงกว่า 9 เมตร
ชาวบ้านยังเล่าว่า เดิมหน้าที่ว่าการ อ.เชียงแสน มีเกาะกลางแม่น้ำโขงชื่อ “เกาะดอนแท่น หรือดอนแห้ง” อันเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปดังกล่าว แต่เกาะได้ล่มลงก่อนที่จะมีการทำสนธิสัญญาปักปันเขตแดนระหว่างสยาม-ฝรั่งเศส เมื่อปี 2469
