xs
xsm
sm
md
lg

'ลูกศร' รองโฆษกประจำตัว หน.ไทยศรีวิไลย์ แจงคิว 'พี่เต้' อภิปรายไม่ไว้วางใจ 40 นาที ลั่นจะไม่ทำให้ ปชช.ผิดหวัง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



วันนี้(16 ก.ค.)นางสาวอรศศิพัชร์ มามีเกตุรัตน์  รองโฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์    กล่าวถึง การอภิปรายไม่ไว้วางใจ 11 รัฐมนตรี ที่จะมีขึ้นในวันที่ 19-22 กรกฏาคม  และลงมติในวันที่ 23 กรกฏาคมนี้ ว่า  พรรคไทยศรีวิไลย์  ได้สัดส่วนเวลาในการอภิปราย 40 นาที(ไม่รวมเวลาประท้วง)  ซึ่ง นายมงคลกิตติ์  สุขสินธารานนท์   สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรแบบบัญชีรายชื่อ และ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์  จะเป็นผู้อภิปราย ไม่ไว้วางใจ  แบ่งเป็น 2 ช่วง ดังนี้

ช่วงที่ 1 ในวันที่  19 กรกฏาคม 2565 แบ่งมา 20 นาที จะอภิปราย  นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย พร้อมกับ นายนิพนธ์  บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  แต่ความผิดจะรวมไปถึง พลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กับ พลเอกอนุพงษ์  เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ฐานะผู้กำกับนโยบาย และ อภิปรายไม่ไว้วางใจ  

ช่วงที่ 2 วันที่ 21 กรกฏาคม 2565 เวลา 20 นาที จะอภิปราย  พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม คนเดียวล้วนๆ  ซึ่งทราบว่า หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ จะอภิปรายแบบไม่ไว้หน้า หลักฐานชัดเจน สไตล์ดุเด็ดเผ็ดร้อน เปี่ยมด้วยเนื้อหา สาระ ซึ่งหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ   ทาง พรรคฯก็จะดำเนินคดีกับ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ที่ถูกอภิปรายทุกคนตามกฏหมายต่อไป  รับรองว่าจะไม่ทำให้ประชาชน แฟนคลับFC  ผิดหวังเด็ดขาด  เพราะถือเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบลงมติเป็นครั้งสุดท้ายของรัฐบาลชุดนี้  
           
นางสาวอรศศิพัชร์  กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีพรรคเศรษฐกิจไทย ที่ออกมาเป็นพรรคฝ่ายค้าน นั้นถือเป็นเรื่องดี สำหรับประชาชน ในเมื่อไม่มีส่วนร่วมเป็นฝ่ายบริหารแล้วก็ควรมาอยู่ฝ่ายค้านเป็นฝ่ายตรวจสอบ ก็จะทำให้พรรคร่วมฝ่ายค้านมีเสียงเข้มแข็งขึ้น แม้การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้จะไม่สามารถคว่ำ นายกรัฐมนตรีหลุดจากตำแหน่งในสภาได้ก็ตาม แต่สามารถเช็คบิลคดีความต่อไป     ตามที่คาดไว้ว่าหลังจากการอภิปรายรัฐบาลผ่านพ้นไป รัฐบาลจะมี 2 ช่วงเวลาในการยุบสภา คือ ช่วง 1 ยุบสภาหลัง  ประเทศไทยร่วมเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปค ปี 2565  (APEC 2022) ในวันที่ 14-19 พฤศจิกายน 2565 ก็สามารถจัดการเลือกตั้งใหม่ในช่วง ต้น มกราคม 2566 หรือ ช่วงที่ 2  ยุบสภา ต้นเดือน กุมภาพันธ์  2566    ก็จะจัดการเลือกตั้งใหม่ ช่วง ปลาย มีนาคม 2566 แน่นอน  ซึ่งพรรคไทยศรีวิไลย์  ได้เตรียมนโยบายเก่าแบบปรับปรุง นโยบายใหม่ บุคคลากร ผู้สมัคร ส.ส.ทั้งแบบระบบเขต-ระบบบัญชีรายชื่อ พอสมควร พอที่พรรคฯจะเติบโตเป็นพรรคขนาดกลางได้ต่อไปในอนาคต และจะเป็นพรรคตัวแปรที่ทุกฝ่ายจะต้องเชิญพรรคไทยศรีวิไลย์ ไปร่วมรัฐบาล ตามความมุ่งหมายของทุกคนในพรรคฯ ที่ต้องการที่ผลักดันนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน ที่เป็นรูปธรรม
กำลังโหลดความคิดเห็น