xs
xsm
sm
md
lg

เดือด! โร่แจ้งความเอาผิดร้านดังขายอาหารไม่ตรงปก พอทักท้วงปาเงินใส่หน้า-ไล่ออกจากร้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



บุรีรัมย์ - นทท.ชาวกรุงเทพฯ เดือดโร่แจ้งความเอาผิดร้านอาหารดังที่บุรีรัมย์ ขายอาหารไม่ตรงปกตามเมนูสั่ง พอทักท้วงเจ้าของร้านกลับไม่พอใจ บอกเอาภาพมาจากอินเทอร์เน็ตจะทำให้เหมือนได้ยังไง แถมปาเงินใส่หน้า และไล่ออกจากร้าน ตร.เตรียมเรียกสอบร้านอาหาร

วันนี้ (5 ส.ค.) นายกันตพงศ์ เมลวิน อายุ 53 ปี นักท่องเที่ยวชาวกรุงเทพมหานคร ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.อ.ประจักษ์ คำนาค รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองบุรีรัมย์ ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือถูกทำร้ายจิตใจจากผู้ประกอบการร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่งในตัวเมืองบุรีรัมย์ กรณีที่ไปรับประทานอาหารร้านดังกล่าวแล้วได้รับเมนูอาหารไม่ตรงปกตามที่สั่ง พอทักท้วงเจ้าของร้านกลับแสดงอาการไม่พอใจ แถมปาเงินที่ตนเองจ่ายค่าอาหารใส่หน้าต่อหน้าลูกค้าคนอื่นที่อยู่ในร้าน ทำให้เกิดความอับอาย


นายกันตพงศ์เล่าว่า ตนเดินทางมาจากกรุงเทพฯ เพื่อมาทำธุรกรรมเรื่องอสังหาริมทรัพย์ที่ จ.สุรินทร์ เดินทางมาคนเดียว ขากลับแวะพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในตัวเมืองบุรีรัมย์ ช่วงเย็นก็ออกไปกินข้าว จึงถามพนักงานโรงแรมให้ช่วยแนะนำร้านอาหาร ซึ่งเขาแนะนำให้ไปกินที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเพราะอยู่ไม่ไกลจากที่พัก

เมื่อเข้าไปถึงได้สั่งอาหาร 2 อย่าง คือ ปลาหมึกผัดไข่เค็ม และหมูผัดพริกแกง กับข้าวเปล่า 1 จาน เมื่อพนักงานเอาอาหารมาเสิร์ฟ ปรากฏว่าปลาหมึกผัดไข่เค็มที่สั่งหน้าตาไม่ตรงปกกับที่โชว์ในเมนู ที่สำคัญไม่เห็นมีไข่เค็มเหมือนกับรูปในเมนู ซึ่งอาหารที่ได้เหมือนปลาหมึกผัดพริกหยวกมากกว่า ไม่มีไข่เค็มในจาน จึงเรียกพนักงานมาสอบถามว่าเอาอาหารมาวางผิดโต๊ะหรือไม่ จากนั้นพนักงานเสิร์ฟ กลับไปที่แคชเชียร์ ได้คำยืนยันมาว่าไม่ผิดโต๊ะ ระบุว่า “ไข่เค็มน่าจะยังไม่สุก” จึงกินแค่ผัดพริกแกงเพียงอย่างเดียว ตอนคิดเงินได้ถามพนักงานเสิร์ฟว่าปลาหมึกผัดไข่เค็มเอาอย่างไร พนักงานบอกว่า ให้ไปคุยกับเจ้าของร้าน ตนจึงเดินไปหาเจ้าของร้าน เมื่อดูราคาแล้วเจ้าของร้านคิดราคาหมึกไข่เค็ม 150 บาท, หมูผัดพริกแกง 130 บาท น้ำกับข้าวเปล่ารวมกัน 30 บาท รวมเป็นเงิน 310 บาท


จึงสอบถามเรื่องหมึกผัดไข่เค็มจากเจ้าของร้าน บอกว่า “ปลาหมึกไข่เค็มทำไมไม่เหมือนกับภาพในเมนู” ก็ได้รับคำตอบจากแคชเชียร์ว่า ภาพที่เห็นในเมนู เป็นภาพที่เอามาจากอินเทอร์เน็ตจะเหมือนในร้านได้อย่างไร ตนจึงถามกลับไปอีกว่า ทำไมไม่ถ่ายภาพอาหารภายในร้านใส่เมนู เพราะจะได้ตรงปก ทำให้เจ้าของร้านซึ่งเป็นผู้หญิงไม่พอใจบอกว่า งั้นไม่คิดเงิน ตนจึงตอบกลับไปว่าต้องคิดเพราะผมสั่งผมต้องจ่ายเงิน


จึงขอจ่ายเงินแค่ที่กินไปคือ 180 บาท บวกค่าทิปเด็กเสิร์ฟอีก 40 บาท รวมเป็น 220 บาท เมื่อเอาเงินให้ไป เจ้าของร้านได้เอาเงินทั้งหมดปาใส่หน้าตนเอง พร้อมไล่ออกจากร้านต่อหน้าลูกค้าคนอื่นที่นั่งอยู่ในร้านด้วย จากนั้นสามีเจ้าของร้านซึ่งเป็นชาวต่างชาติได้เก็บเงินให้ 120 บาท ตนรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมและเหมือนถูกเหยียดหยามจิตใจ และทำให้อับอาบ เพราะมีแขกในร้านเป็นจำนวนมาก ซึ่งที่มาแจ้งความต้องการเอาผิดร้านอาหารดังกล่าว และให้เป็นกรณีตัวอย่างว่าไม่ควรจะทำแบบนี้กับลูกค้าคนอื่น เพราะเป็นการเอาเปรียบลูกค้า และควรจะเปลี่ยนรูปในเมนูอาหารให้ตรงปกไม่ควรนำภาพจากอินเทอร์เน็ตมาลง เพราะเป็นการหลอกลวงผู้บริโภค และอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบร้านอาหารดังกล่าวด้วยเพราะเป็นเมืองท่องเที่ยว


เบื้องต้นพนักงานสอบสวนก็ได้สอบปากคำผู้เสียหายไว้ จากนั้นจะเรียกผู้ประกอบการร้านอาหารที่ถูกกล่าวหามาสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหาตามขั้นตอน โดยพฤติการณ์เข้าข่ายความผิด “ทำให้อับอายขายหน้าต่อหน้าธารกำนัล

ขณะที่พาณิชย์จังหวัดบุรีรัมย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงร้านอาหารดังกล่าวตามที่ถูกร้องเรียนกล่าวหา




กำลังโหลดความคิดเห็น