รายการ “ถอนหมุดข่าว”เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP และสถานีโทรทัศน์ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันเสาร์ที่ 6 สิงหาคม 2565 นำเสนอรายงานพิเศษ ต้นเพลิงเผาผับเมาเท่นบีพิษระบบส่วย-เงินใต้โต๊ะ
แค่สอบเบื้องต้น ก็เห็นภาพชัดแล้ว ผับเมาเท่นบี อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ที่เกิดเหตุไฟนรกย่างสดนักท่องราตรี อย่างน้อย 14 ศพ บาดเจ็บจากไฟคลอก สูดควันพิษ อีกร่วม 40 ราย
ผับแห่งนี้ กระทำผิดกราวรูดแทบทุกข้อ หาอะไรที่ถูกต้องตามกฎหมาย แทบไม่เจอเอาเสียเลย
เรียกว่าเปิดผับแบบกร่างสุดขีด เย้ยฟ้าท้าดิน
เริ่มจากใบอนุญาตผิด ขอเปิดเป็นร้านอาหาร และจำหน่ายสุรา แต่กลับดัดแปลงเป็นสถานบริการ
ตามด้วยต่อเติมอาคารผิด ไม่มีช่องทางหนีไฟที่ถูกต้อง
หรือมีก็โดนกุญแจล็อกไว้เสียอีก กลายเป็นขังคนให้ตายหมู่ในกองเพลิง
ไหนจะเปิดผับในพื้นที่โซนนิ่ง ที่ห้ามมีผับ จนเกิดปัญหาเสียงดังรบกวนชาวบ้าน
เปิดให้นักเที่ยวยัดทะนานเข้าไปเบียดเสียดกัน เกินจำนวนที่เหมาะสม
รวมถึงความผิดพื้นฐาน อย่างการเปิดเกินเวลา
หากตรวจพิสูจน์หลักฐานลงไปถึงระบบไฟฟ้าภายในผับ ก็น่าจะเจออะไรผิดๆ หรืออุปกรณ์ด้อยคุณภาพ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้
เช่นเดียวกับระบบดับเพลิงของผับ ก็คาดเดาได้เลยว่า คงไม่ได้มาตรฐาน มีติดไว้พอเป็นพิธี ตามมีตามเกิด
แค่ 2 เดือนเท่านั้นที่เปิดบริการมา ผับเมาเท่นบีก็กลายเป็นซากในกองเพลิง
ผับที่กล้าแหกกฎหมายทุกข้อแบบนี้ สื่อให้รู้เป็นนัยว่า ณ ที่แห่งนี้ มีอิทธิพลดูแลอยู่
อะไรที่จะทำให้เจ้าหน้าที่รัฐทุกหน่วยในพื้นที่ เอาหูไปนา เอาตาไปไร่ คำตอบก็คงเป็นวังวนเดิมๆ ของเมืองไทย นั่นคือ การยัดเงินใต้โต๊ะ และการส่งส่วย ซึ่งเสมือนเป็นต้นตอไฟไหม้ผับมรณะนี้
เบื้องต้น นายอำเภอสัตหีบ ถูกคำสั่งเด้งฟ้าผ่าไปแล้ว ตามมาด้วย 5 เสือ สภ.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ
ซึ่งผับใหญ่ขนาดนี้ ไม่ใช่แค่เพิงยาดอง ไม่มีทางที่ตำรวจท้องที่ จะไม่รู้จัก หรือไม่รู้เลยถึงการแหกกฎหมายสารพัดข้อ
ความพิเศษของพื้นที่สัตหีบ ตรงนั้นเป็นถิ่นของทหารเรือ ทหารเรือเมากร่างบางรายที่เคยเป็นข่าวอื้อฉาว ยังเคยประกาศลั่น “ที่นี่สัตหีบ”
ภาพสยองจากเหตุการณ์นี้ คล้ายคลึงกับเหตุการณ์ไฟไหม้ผับซานติก้า ย่านเอกมัย เมื่อค่ำคืนวันสิ้นปี 2551 ซึ่งมีนักเที่ยวโดนย่างสดไป 67 ศพ
ครั้งนั้น รัฐบาลอภิสิทธิ์ก็สั่งขึงขังล้อมคอกกันวุ่น และก็ตามเอาผิด “เสี่ยขาว” เจ้าของผับซานติก้า จนได้รับโทษจำคุกไป 3 ปี เมื่อพ้นโทษออกมา เสี่ยขาวก็หลบหายไปจากสังคม และหลบหนีการจ่ายเงินเยียวยา
ครั้งนี้ รัฐบาลบิ๊กตู่ก็สั่งล้อมคอกสถานบริการทั่วประเทศทันที ต้องไม่ให้มีเหตุซ้ำรอย ทำลายภาพลักษณ์ประเทศอีก
และคงมีการเช็กบิลผู้รับผิดชอบระดับต่างๆ รวมไปถึงดำเนินคดีกับ “เสี่ยพงษ์ศิริ เมาเท่นบี” ตามรอย “เสี่ยขาว ซานติก้า”
อีกคนที่ออกมาแสดงความเป็นห่วง โดยโฟกัสพื้นที่กรุงเทพฯ เป็นพิเศษ ก็คือ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ผู้รอบรู้ธุรกิจราตรี
อดีตเสี่ยอ่าง ชี้ว่า ทุกวันนี้มีผับทุนใหญ่จากจีน รุกมาเปิดใจกลางกรุงมากมาย ไม่ว่าจะย่านเอกมัย ทองหล่อ อาร์ซีเอ
อยากให้นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. “วิ่ง” ไปดูว่าใบอนุญาตก่อสร้าง ใบอนุญาตเปิดผับถูกต้องหรือไม่
อย่างที่นายชูวิทย์ชี้ว่า ทุกวันนี้ ใครนึกอยากจะเปิดผับ ก็เปิดได้เลย โดยการอนุญาตของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น และตำรวจ ร้านอาหารเลยกลายเป็นผับเนียนๆ กันทุกที่
อาจสรุปได้ว่า การทุจริตประพฤติมิชอบของข้าราชการนั่นเอง ที่จุดไฟย่างสดนักท่องราตรี ให้ตายทุรนในกองเพลิงนรก จาก “ซานติก้า” ถึง “เมาเท่นบี”
--------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android
สมัครสมาชิกได้แล้ววันนี้
รายเดือนเพียง เดือนละ 99 บาท
รายปี 990 บาท (10 เดือน แถม 2เดือน )
ถ้ามีปัญหาการใช้งาน app หรือการสมัครสมาชิกใน app ติดต่อสอบถามได้ที่ Line id : @sondhitalk หรือ https://lin.ee/Skns1k1