xs
xsm
sm
md
lg

คนอยู่เครียด! จีนซ้อมรบจำลองโอบล้อมโจมตีไต้หวัน ตอบโต้ 'เพโลซี' เดินทางเยือนไทเป

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



เจ้าหน้าที่ไต้หวันเปิดเผยว่า ฝูงบินและกองเรือจีนฝึกซ้อมโจมตีเกาะในวันเสาร์ (6 ส.ค.) ส่วนหนึ่งในมาตรการตอบโต้ของปักกิ่ง ต่อการเดินทางเยือนไทเปของนางแนนซี เพโลซี ประธานรัฐสภาสหรัฐฯ ในนั้นรวมถึงระงับการเจรจากับสหรัฐฯ ในประเด็นต่างๆ รวมถึงด้านกลาโหมและโลกร้อน

การเดินทางเยือนเกาะปกครองตนเองไต้หวันสั้นๆ ของเพโลซีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โหมกระพือความขุ่นเคืองแก่ตน ซึ่งมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน และกระตุ้นให้ปักกิ่งจัดการซ้อมรบทางทหารรอบไต้หวัน ในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน ในนั้นรวมถึงการยิงขีปนาวุธแบบทิ้งตัวข้ามกรุงไทเป

แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวหาจีนกำลังใช้มาตรการไร้ความรับผิดชอบ ด้วยการระงับช่องทางการสื่อสารหลักกับวอชิงตัน และบอกว่าพฤติกรรมของจีนเกี่ยวกับไต้หวัน แสดงให้เห็นว่าปักกิ่งกำลังเปลี่ยนจากการให้ความสำคัญกับการหาทางออกอย่างสันติและมุ่งหน้าสู่การใช้กำลัง

กระทรวงกลาโหมไต้หวันเปิดเผยว่าเรือรบและเครื่องบินจีนหลายลำ ทำการซ้อมรบในช่องแคบไต้หวันในวันเสาร์ (6 ส.ค.) เส้นกลางหรือแนวกันชนอย่างไม่เป็นทางการที่กั้นระหว่างสองฝ่าย ในความเคลื่อนไหวที่ทางกองทัพไต้หวันระบุว่า เป็นการจำลองโจมตีเกาะแห่งนี้

ในเวลาต่อมา กระทรวงกลาโหมเปิดเผยว่าไต้หวันได้ส่งฝูงบินรบขึ้นเตือนเครื่องบินจีน 20 ลำ ในนั้น 14 ลำบินข้ามเส้นกลางเข้ามา นอกจากนี้ ยังตรวจพบเรือของกองทัพจีน 14 ลำกำลังเคลื่อนไหวอยู่แถวๆ ช่องแคบไต้หวัน

การซ้อมรบของจีน ซึ่งมีขึ้น 6 จุดรอบเกาะ เริ่มตั้งมาตั้งแต่วันพฤหัสบดี (4 ก.ค.) และมีกำหนดสิ้นสุดในช่วงเที่ยงวันของวันอาทิตย์ (7 ส.ค.) ขณะที่กองบัญชาการยุทธบริเวณภาคตะวันออกของจีน เผยว่า ได้ทำการซ้อมรบทางทะเลและทางอากาศ ทางเหนือ ตะวันตกเฉียงใต้และทางตะวันออกของไต้หวัน โดยมุ่งเส้นไปที่การทดสอบศักยภาพการโจมตีทางภาคพื้นและจู่โจมทางทะเล

สหรัฐฯ เรียกความเคลื่อนไหวนี้ว่าทำให้สถานการณ์ลุกลามบานปลาย "ความเคลื่อนไหวนี้เป็นการยกระดับความพยายามของจีนในการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ที่เป็นอยู่ พวกเขายั่วยุ ไร้ความรับผิดชอบและเพิ่มความเสี่ยงคำนวณพลาด" โฆษกทำเนียบขาวระบุ "พวกเขายังขัดแย้งกับเป้าหมายที่มีมาอย่างยาวนานของเรา สำหรับการธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและเสถียรภาพทั่วช่องแคบไต้หวัน ซึ่งเป็นสิ่งที่โลกคาดหมายไว้"

เพโลซี ซึ่งวิพากษ์วิจารณ์จีนมาช้านานและเป็นพันธมิตรทางการเมืองของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เดินทางมาถึงไต้หวันในช่วงค่ำวันอังคาร (2 ส.ค.) กลายเป็นเจ้าหน้าที่อเมริการะดับสูงสุดที่เดินทางเยือนเกาะแห่งนี้ในรอบหลายทศวรรษ แม้มีคำเตือนจากจีน เพโลซี บอกว่าการเดินทางเยือนของเธอแสดงถึงพันธสัญญาที่ไม่เปลี่ยนแปลงของอเมริกาต่อการสนับสนุนประชาธิปไตยไต้หวัน พร้อมเน้นว่าโลกกำลังเผชิญตัวเลือกระหว่างเผด็จการกับประชาธิปไตย

ไม่นานหลังจากคณะผู้แทนของเธอเดินทางออกจากญี่ปุ่นในวันศุกร์ (5 ส.ค.) ประเทศสุดท้ายของโปรแกรมทัวร์เอเชียของเธอ จีนแถลงระงับด้านการทูตกับสหรัฐฯ ในขอบเขตต่างๆ

ช่องแคบไต้หวันคือบ่อเกิดความตึงเครียดด้านการทหารบ่อยครั้ง นับตั้งแต่รัฐบาลสาธารณรัฐจีน หลบหนีไปยังเกาะไต้หวันเมื่อปี 1949 หลังพ่ายแพ้ในสงครามกลางเมืองให้แก่ฝ่ายคอมมิวนิสต์ ซึ่งก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน

ปักกิ่งบอกว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขากับไต้หวันเป็นเรื่องกิจการภายใน และสงวนไว้ซึ่งสิทธิการดึงเกาะแห่งนี้ให้กลับมาอยู่ภายใต้การควบคุม และอาจใช้กำลังถ้ามีความจำเป็น ส่วนไทเปปฏิเสธคำกล่าวอ้างของจีน โดยบอกว่ามีเพียงประชาชนชาวไต้หวันเท่านั้นที่สามารถตัดสินใจอนาคตของตนเอง

รอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดระบุว่า เรือรบ และเครื่องบินของจีนเดินหน้ากดดันเข้าไปยังเส้นกลางของช่องแคบไต้หวันในช่วงบ่ายวันเสาร์ (6 ส.ค.) ส่วนบริเวณชายฝั่งตะวันออกของไต้หวันและใกล้กับหมู่เกาะญี่ปุ่น เรือรบและโดรนของจีนจำลองการโจมตีเรือรบสหรัฐฯ และญี่ปุ่น

สถานีโทรทัศน์กองทัพไต้หวันได้เผยแพร่คำเตือน พร้อมประจำการกองกำลังลาดตระเวนทางอากาศและกองเรือเพื่อคอยสังเกตการณ์ และสั่งให้เตรียมพร้อมขีปนาวุธที่ติดตั้งอยู่บนชายฝั่ง

กระทรวงกลาโหมของไต้หวันระบุว่า พวกเขาได้ยิงพลุแฟลร์เมื่อช่วงค่ำวันศุกร์ (5 ส.ค.) เพื่อเตือนและขับไล่โดรน 7 ลำที่บินอยู่เหนือเกาะจินเหมิน และอากาศยานที่ไม่สามารถระบุเอกลักษณ์ที่บินอยู่เหนือเกาะหม่าจู ซึ่งทั้ง 2 หมู่เกาะ อยู่ใกล้ชายฝั่งของจีน

ระหว่างเดินทางเยือนฟิลิปปินส์ บลิวเคน บอกว่าสหรัฐฯ ได้ยินคำบอกเล่าจากพันธมิตรเกี่ยวกับสิ่งที่เขาเรียกว่าพฤติกรรมที่เป็นอันตรายและบั่นทอนเสถียรภาพของจีนรอบๆ ไต้หวัน แต่วอชิงตันจะยังคงมั่นคงในการรับมือกับสถานการณ์ และหวังหลีกเลี่ยงไม่ให้สถานการณ์ลุกลามบานปลาย

เขาบอกว่าความเคลื่อนไหวของจีนที่ระงับการทูตทวิภาคีใน 8 ขอบเขตสำคัญๆ จะกลายเป็นการลงโทษโลก

หวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน แถลงกับสื่อมวลชนในวันศุกร์ (5 ส.ค.) ระบุว่า บลิงเคน กำลังเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือน พร้อมบอกว่า "เราปรารถนาส่งคำเตือนไปยังสหรัฐฯ อย่าทำอะไรด้วยความบุ่มบ่าม อย่าสร้างวิกฤตใหญ่โตกว่านี้"

จีนไม่ได้พาดพิงถึงการระงับพูดคุยทางทหารในระดับสูงที่สุด อย่างเช่นกับ ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ และนายพลมาร์ค มิลลีย์ ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วม โดยทั้งสองฝ่ายมีการพูดคุยกันในระดับนี้บ่อยครั้งและบรรดาเจ้าหน้าที่บอกว่ามันมีความสำคัญอย่างมากโดยเฉพาะในกรณีฉุกเฉิน

หลังจากพบปะกับนายกรัฐมนตรีฟูมิโอ คิชิดะ แห่งญี่ปุ่น เพโลซี เน้นย้ำอีกรอบว่าการเดินทางเยือนเอเชียของเธอ "จะไม่เปลี่ยนสถานการณ์ปัจจุบันในไต้หวันหรือในภูมิภาค"

อย่างไรก็ตาม กระทรวงกลาโหมของญี่ปุ่นรายงานว่ามีขีปนาวุธอย่างน้อย 4 ลูก ที่พุ่งข้ามเมืองหลวงของไต้หวัน ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน นอกจากนี้ ขีปนาวุธ 5 จาก 9 ลูกที่พุ่งเข้าหาเขตแดนของพวกเขา ได้ตกลงในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของประเทศ

(ที่มา : รอยเตอร์)
กำลังโหลดความคิดเห็น