เจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงของจีน ไม่รับสายโทรศัพท์จากบรรดานายทหารระดับสูงของสหรัฐฯ ท่ามกลางวิกฤตความตึงเครียดที่ปะทุขึ้น ตามหลังการเดินทางเยือนไต้หวันของนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรอเมริกา ตามรายงานของ Politico สื่อมวลชนสหรัฐฯ อ้างอิงแหล่งข่าว 3 คนที่เกี่ยวข้องกับความพยายามติดต่อสื่อสารดังกล่าว
รายงานข่าวของ Politico ระบุว่า ความพยายามติดต่อสื่อสารของ ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ และ พล.อ.มาร์ค มิลลีย์ ประธานเสนาธิการทหารร่วม เกิดขึ้นในขณะที่จีนยังคงเดินหน้ายิงขีปนาวุธ ประจำการกองเรือรบและอากาศยาน ในการซ้อมรบครั้งใหญ่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนรอบๆ ไต้หวัน เจ้าหน้าที่และพวกผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การนิ่งเงียบของจีนเป็นความคิดตื้นเขินและเป็นความเคลื่อนไหวที่ขาดความยั้งคิด ที่เพิ่มความเสี่ยงทำให้สถานการณ์ที่ตึงเครียดอยู่ก่อนแล้ว ลุกลามบานปลายหนักหน่วงขึ้นไปอีก
"ถ้าทหารจีนปฏิบัติการก้าวร้าวยิ่งขึ้น เข้ามาใกล้กองกำลังสหัฐฯ มากขึ้นและถี่ขึ้น เราต้องการกลไกเหล่านี้มากกว่าเคย เพื่อส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่สามารถปฏิบัติการได้อย่างปลอดภัย" แรนดี ชริเวอร์ อดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเพนตาน ด้านนโยบายเอเชีย สมัยอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุ
Politico ระบุว่า บรรดาผู้นำทหารสหรัฐฯ มุ่งมั่นที่จะรักษาช่องทางการสื่อสาร แม้กระทั่งกับบรรดาว่าที่คู่อริทั้งหลายอย่างเช่น จีน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุต่างๆ และการคำนวณผิดพลาด ซึ่งอาจลุกลามบานปลายกลายเป็นความขัดแย้งเต็มรูปแบบ
อย่างไรก็ตาม ครั้งสุดท้ายที่มีการพูดคุยระหว่าง พล.อ.มิลลีย์ กับหลี่ จั๊วะเฉิง ประธานเสนาธิการทหารของกองทัพจีน เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม โดยคราวนั้นทั้งสองพูดคุยทางไกล เกี่ยวกับความจำเป็นต้องเปิดช่องทางการสื่อสารเอาไว้ เช่นเดียวกับลดความเสี่ยงต่างๆ ส่วนการพบปะกันแบบเจอหน้ากับ พล.อ.เว่ย เฟิ่งเหอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของจีน เกิดขึ้นในเดือนมิถุนายน รอบนอกการประชุมหนึ่งในสิงคโปร์
จีนเมื่อวันศุกร์ (5 ส.ค.) แถลงว่ากำลังระงับการทูตอย่างเป็นทางการบางอย่างกับบรรดาผู้บัญชาการระดับสูงของกองทัพสหรัฐฯ ในนั้นรวมถึงบรรดาผู้บัญชาการระดับภูมิภาค เช่นเดียวกับการเจรจาเกี่ยวกับความปลอดภัยทางทะเล แต่ถ้อยแถลงดังกล่าวไม่ได้เจาะจงถึงออสติน และมิลลีย์ และเจ้าหน้าที่บอกว่าการสื่อสารระหว่างบรรดาผู้นำเหล่านี้ยังไม่ถูกตัด
จอห์น เคอร์บี โฆษกทำเนียบขาว กล่าวว่าแม้ถ้อยแถลงไม่จำกัดโอกาสที่ "บรรดาเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงของเราจะพุดคุยกัน" แต่ "มันเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุการณ์หนึ่งมากยิ่งขึ้น"
"ช่องทางการสื่อสารเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง สำหรับช่วยคุณลดความเสี่ยงของการคำนวณพลาดและความเข้าใจผิด" เคอร์บีกล่าวเมื่อวันศุกร์ (5 ส.ค.) "คุณมียุทโธปกรณ์ทางทหารที่กำลังปฏิบัติการในพื้นที่หนึ่ง มันจะเป็นเรื่องดี โดยเฉพาะในตอนนี้ถ้าช่องทางการติดต่อสื่อสารยังคงเปิดอยู่"
รายงานข่าวของ Politico ระบุว่า กองทัพจีนกำลังปฏิบัติการซ้อมรบทางทหารรอบๆ ไต้หวัน ครั้งใหญ่ที่ไม่เคยมีมาก่อนและกำลังเปลี่ยนแปลงสภาพปัจุบันในภูมิภาค โดยเมื่อช่วงปลายสัปดาห์ ปักกิ่งยิงขีปนาวุธเข้าสู่อาณาเขตของไต้หวัน ในนั้นรวมถึงลูกหนึ่งที่พุ่งข้ามเกาะ และส่งเรือและฝูงบินข้ามเส้นกลางที่กั้นระหว่างน่านน้ำอาณาเขตของไต้หวันกับจีนแผ่นดินใหญ่
สหรัฐฯ ซึ่งไม่ได้รับรองเอกราชของไต้หวันอย่างเป็นทางการ แต่ขายอาวุธให้เกาะแห่งนี้ ต้องการหลีกเลี่ยงสถานการณ์หนึ่ง ดังเช่นที่เคยเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2001 คราวนั้น เครื่องบินสอดแนม EP-3 ของกองทัพเรือสหรัฐฯ และเครื่องบินขับไล่ J-8 ชนกันกลางอากาศ โหมกระพือประเด็นพิพาทระหว่างประเทศ
(ที่มา : Politico)