ตัวแทนชาวไร่อ้อย 4 องค์กรเตรียมนัดรวมพลที่กระทรวงอุตสาหกรรม 13 ก.ย.นี้เพื่อรอฟังมติ ครม.ในวันดังกล่าวจะเคาะเพิ่มค่าอ้อยสด 120 บาทต่อตันหรือไม่หลังปิดหีบมานานแต่ไม่คืบ จี้รัฐถึงเวลาปรับราคาหน้าโรงงานหลังต้นทุนพุ่ง จับตาเริ่มมีกระบวนการลักลอบขนน้ำตาลออกนอกประเทศหลังราคาเพื่อนบ้านสูงกว่า
นายนราธิป อนันตสุข หัวหน้าสำนักงานสหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตัวแทน 4 องค์กรชาวไร่อ้อย ประกอบด้วย สหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย ชมรมสถาบันชาวไร่อ้อยภาคอีสาน สหสมาคมชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทยเบื้องต้นราว 300 คนได้นัดที่จะเดินทางไปรอฟังคำตอบของมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 13 ก.ย.นี้ที่กระทรวงอุตสาหกรรม เกี่ยวกับความคืบหน้าเงินช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่ที่ตัดอ้อยสดเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 อัตราตันละ 120 บาท
นายธีระชัย แสนแก้ว ประธานชมรมสถาบันชาวไร่อ้อยภาคอีสาน กล่าวว่า 4 องค์กรชาวไร่อ้อยที่ประกอบด้วย 37 สมาคมฯ จะนำตัวแทนชาวไร่อ้อยทั้งหมดสมาคมฯ ละ 1 รถตู้ไปรอฟังคำตอบ ครม. 13 ก.ย. หากมีมติจ่ายค่าอ้อยสดเราก็จะขอบคุณนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม แต่หาก ครม.ไม่อนุมัติก็คงจะหารือกำหนดท่าทีกันต่อไป
“วันนี้ชาวไร่อ้อยลำบากเราตัดอ้อยสดตามนโยบายทั้งที่ต้นทุนต่างๆ ขึ้นไปมากจนปิดหีบมานานแล้วเงินนี้ก็ยังไม่อนุมัติ และฤดูผลิตปี 65/66 ต้นทุนทั้งปุ๋ย ค่าแรง น้ำมันทุกอย่างขึ้นไปอย่างมาก ต้นทุนเราสูงถึง 1,400 บาทต่อตัน มันถึงเวลาแล้วที่รัฐเองก็ต้องมองในเรื่องของการปรับขึ้นราคาหน้าโรงงาน ขณะที่ราคาตลาดโลกรวมพรีเมียมเฉลี่ย 22 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) แล้ว” นายธีระชัยกล่าว
นายบุญถิ่น โคตรศิริ ที่ปรึกษาบริษัทอ้อยและน้ำตาลไทย จำกัด (อนท.) กล่าวว่า จากระดับราคาน้ำตาลทรายขายปลีกประเทศเพื่อนบ้านที่มีราคาสูงกว่าไทยทำให้เริ่มพบกระบวนการลักลอบนำน้ำตาลทรายในประเทศออกไปตามแนวชายแดนมากขึ้น ซึ่งหากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อไปอาจกระทบต่อปริมาณน้ำตาลทรายบริโภคในประเทศเกิดภาวะขาดแคลนได้เช่นอดีตที่เคยเป็นมาดังนั้นจึงต้องติดตามใกล้ชิด
“ราคาน้ำตาลทรายตลาดโลกเฉลี่ยรวมพรีเมียม 21-22 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) ราคาน้ำตาลทรายขาวขายปลีกประเทศเพื่อนบ้านเฉลี่ยขณะนี้มีราคาสูงราว 29-30 บาทต่อ กก. ส่วนราคาขายปลีกของไทยบรรจุถุงขนาดกิโลกรัม (กก.) ปรับไปอยู่ราว 23 บาทต่อ กก. ขณะที่ราคาหน้าโรงงานคงเดิม 17.25-18.25 บาทต่อ กก. ทำให้ส่วนต่างของกำไรสูงขึ้นมาก จึงมีการออกตั๋วน้ำตาลบริโภคในประเทศแต่ขนออกไปตามแนวชายแดน” นายบุญถิ่นกล่าว
ปัจจุบันราคาน้ำตาลทรายหน้าโรงงานที่ใช้คำนวณราคาอ้อยของไทยยังคงเดิม โดยน้ำตาลทรายขาวธรรมดาอยู่ที่ 17.25 บาทต่อ กก. และน้ำตาลทรายขาวบริสุทธ์อยู่ที่ 18.25 บาทต่อ กก. ขณะที่น้ำตาลทรายบรรจุถุง 1 กก.มีการปรับขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งราคาขายปลีกที่ปรับขึ้นไม่ได้นำมาสู่การคำนวณในระบบทำให้ฝ่ายชาวไร่อ้อยเองเสียเปรียบและไม่ได้รับความเป็นธรรมในเรื่องนี้ ซึ่งล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) จึงอยู่ระหว่างพิจารณาต้นทุนการผลิตและการเพาะปลูกอ้อยเพื่อนำมาสู่กระบวนการพิจารณาราคาน้ำตาลทรายภายในประเทศให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงตามสูตรราคาแบบ Cost Plus
แหล่งข่าวจาก สอน.กล่าวว่า เบื้องต้นจากการพิจารณาทิศทางต้นทุนต่างๆ ที่ทั้งฝ่ายชาวไร่และโรงงานเสนอมายอมรับว่ามีทิศทางปรับเพิ่มขึ้นค่อนข้างสูง โดยตัวเลขอย่างไม่เป็นทางการที่ราคาหน้าโรงงานน้ำตาลจะปรับขึ้นอยู่ที่ราว 2.75 บาทต่อกก. แต่ทั้งนี้คงจะต้องหารือกับทุกฝ่ายก่อนเป็นมติ กอน.อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ล่าสุดตัวแทนฝ่ายโรงงานน้ำตาลทรายได้ยื่นลาออกจากคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย หรือ กอน. เพื่อแสดงจุดยืนคัดค้านไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลทราย ฉบับแก้ไข ที่มีการเพิ่ม “กากอ้อย” ในบทนิยามในผลพลอยได้ เพื่อเป็นผลิตภัณฑ์นำมาแบ่งปันรายได้ ดังนั้น การพิจารณาระดับนโยบายก็อาจจะไม่สามารถดำเนินการได้เพราะขาดองค์ประชุมจึงต้องมองหาแนวทางอื่นๆ