ศูนย์ข่าวศรีราชา - 2 พี่น้องสารภาพกู้เงินซื้อเหรียญบิตคอยน์แล้วขาดทุน เหตุวางแผนชิงเงินบริษัท 3.46 ล้าน หลังเบิกออกจากธนาคาร ตำรวจตามจับได้ถึงห้องพักในกรุงเทพฯ หลังก่อเหตุเพียง 2 วัน บอกเงินที่หายส่วนหนึ่งนำไปซื้อไอโฟน 14 จำนวน 2 เครื่อง พร้อมของใช้เตรียมหนีต่อ
เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (22 ก.ย.) พล.ต.ต.อิทธิพร โพธิ์ทอง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทวี กุดแถลง ได้ร่วมกันแถลงข่าวผลจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุชิงเงิน จำนวน 3.46 ล้านบาท จากรถตู้บริษัทแห่งหนึ่งใน อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี หลังพนักงานบริษัทเข้าไปเบิกเงินในธนาคารเพื่อเตรียมนำมาจ่ายให้พนักงาน เหตุเกิดเมื่อเวลา 11.40 น. วันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา
โดยผู้ต้องหาคือ นายจตุพล บุญมีสนม หรือเอ็ม อายุ 27 ปี และ น.ส. ประภาภรณ์ บุญมีสนม หรือบี อายุ 29 ปี พร้อมของกลางเงินสดจำนวน 3,263,500 บาท
ส่วนพฤติกรรมของผู้ต้องหาคือ นายจตุพล ได้สวมชุดไรเดอร์ เล่นละครทะเลาะกับ น.ส.ประภาภรณ์ ซึ่งเสมียนที่เดินทางมาเบิกเงิน จำนวน 3,460,000 บาท โดยอ้างตนเป็นสามี ก่อนจะลงมือทำร้ายคนขับรถตู้ก่อนหยิบกระป๋าเป้ที่ภายในมีเงินสดจำนวนดังกล่าว จากนั้นได้นำรถจักรยานยนต์คันก่อเหตุไปทิ้งในป่าอ้อย เขต ต.มาบไผ่ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี
และได้ขับรถกระบะหลบหนีไปจอดไว้ในอู่ประกันแห่งหนึ่งในพื้นที่ ม.4 ต.เสม็ด จ.ชลบุรี แล้วหลบหนีต่อ กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนภาค 2 และสืบสวน สภ.บ้านบึง ตามไปจับกุมได้ที่ห้องพักเลขที่ 112 ชั้น 1 หอพัก 14 รีสอร์ท ถนนเพชรเกษม แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ
หลังแถลงข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านบึง ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบรับสารภาพในจุดเกิดเหตุ และจุดที่มีการนำรถจักรยานยนต์ไปทิ้ง
เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า แรงจูงใจในการก่อเหตุเกิดจากปัญหาหนี้สินจำนวนมากที่เกิดจากการกู้เงินไปลงทุนซื้อเหรียญบิตคอยน์จนขาดทุน และยังบอกอีกว่าหลังชิงเงินไปได้ส่วนหนึ่งได้นำไปซื้อโทรศัพท์มือถือไอโฟน 14 จำนวน 2 เครื่องรวมทั้งของใช้ที่จำเป็นเพื่อการหลบหนี แต่สุดท้ายถูกตามจับกุมตัวได้
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อกล่าวหาร่วมก่อเหตุชิงทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อการกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม และเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ