อุบลราชธานี - การท่าอากาศยานนานาชาติจังหวัดอุบลราชธานีแจ้งเตือนผู้โดยสารที่จะมาขึ้นเครื่องช่วงนี้ ตรวจสอบสภาพอากาศกับสายการบิน และเผื่อเวลามาขึ้นเครื่อง หลังสายการบินเวียตเจ็ทเจออุปสรรคลงจอดไม่ได้เมื่อเช้านี้
ผู้สื่อข่าวจังหวัดอุบลราชธานีรายงานว่า ตั้งแต่กลางดึกที่ผ่านมาเริ่มมีฝนตกจากอิทธิพลของพายุโนรู ลงมาทั่วทั้งจังหวัด กระทั่งเวลาประมาณ 07.00 น. สายการบินเวียตเจ็ท ซึ่งเป็นสายการบินแรกที่ต้องนำผู้โดยสารกว่า 140 คนมาลงที่สนามบินนานาชาติจังหวัดอุบลราชธานีเป็นไฟลต์แรก เจอสภาพอากาศปิดไม่สามารถลงจอดได้ จึงได้บินกลับกรุงเทพฯ
ต่อมาเวลาประมาณ 08.30 น. เครื่องบินกองทัพอากาศ ซึ่งนำ พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จากสนามบินดอนเมือง มาติดตามการรับมือพายุโนรูที่สำนักงานชลประทานที่ 7 และตรวจความพร้อมเครื่องจักรกลใช้รับมือพายุในพื้นที่อำเภอเมืองอุบลราชธานี ไม่สามารถบินมาลงได้
จึงจะเปลี่ยนไปลงที่สนามบินจังหวัดขอนแก่น แต่ได้รับแจ้งทางจังหวัดขอนแก่นก็มีฝนตกและไม่มีท่าทีจะหยุด ทำให้ต้องบินไปลงที่จังหวัดพิษณุโลกแทน
จากการสอบถามว่าที่ ร้อยตรี อัธยา ลาภมาก ผู้อำนวยการท่าอากาศยานนานาชาติจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า เช้าวันนี้มีสายการบินพาณิชย์ที่ต้องบินมาลงที่สนามบินนานาชาติจังหวัดอุบลราชธานีจำนวน 4 สายการบิน
แต่เกิดอุปสรรคกับสายการบินเวียตเจ็ท ซึ่งบินมาลงเป็นไฟลต์แรก เจอกับสภาพอากาศค่อนข้างปิด และมีลดพัดแรง ไม่สามารถลงจอดได้ตามปกติ ทำให้มีผู้โดยสารขาออกจากจังหวัดอุบลราชธานีไปกรุงเทพฯ ประมาณ 100 กว่าคนติดค้าง
บางส่วนประมาณ 40 คนจึงตัดสินใจเดินทางไปกับสายการบินไทยสมายล์ ที่บินตามมาในภายหลังและลงจอดได้ เพราะสภาพอากาศดีขึ้นแล้ว ผู้โดยสารที่เหลืออีกส่วนก็รอสายการบินเวียตเจ็ทจะบินมารับในช่วงบ่าย ส่วนสายการบินอื่นๆ ขณะนี้ ยังขึ้นลงได้
แต่ทั้งนี้ต้องดูสภาพอากาศเป็นระยะ จึงขอให้ผู้โดยสารก่อนจะมาขึ้นเครื่องให้ตรวจสอบการขึ้นลงกับสายการบิน และมีการเผื่อเวลาให้มากขึ้น ก่อนเดินทางมาขึ้นเครื่องบินในช่วงที่ยังมีอิทธิพลของพายุโนรูในช่วงนี้ด้วย จะได้ไม่เสียเวลา และจะได้ปรับการเดินทางใหม่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในขณะนี้