ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - จบดรามา! ตชด.43 แจงคลิปรุ่นพี่สั่งนายสิบรุ่นน้องหัวปักพื้น มือไพล่หลัง แค่โชว์ความพร้อมร่างกาย เผยคลิปที่ถูกนำเสนอมีการตัดต่อออกมาแค่บางส่วนที่ดูเหมือนจะเป็นความรุนแรง แต่คลิปเต็มๆ กลับคนละเรื่อง
จากกรณีที่มีสื่อออนไลน์ และทีวีบางสำนัก เผยแพร่คลิปภาพข่าวที่รุ่นพี่ตำรวจ ตชด.43 สั่งให้รุ่นน้องยศ “ส.ต.ต.” ที่เพิ่งจบใหม่ วิดพื้นอยู่หลายครั้ง หลังจากนั้นให้เอาหัวปักพื้น มือไพล่หลัง ซึ่งเหตุการณ์นี้ระบุว่าเกิดขึ้นที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งใน จ.สงขลา และพยายามสื่อให้เห็นถึงว่า รุ่นพี่เมากร่าง บังคับให้รุ่นน้องทำต่างๆ นานา แล้วเอาไปอวดกันในกลุ่มไลน์ และมีการส่งต่อกันจนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของคนในสังคมว่าเป็นการกระทำที่เหมาะสมหรือไม่นั้น
ล่าสุด ทางกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ได้ตรวจสอบคลิปข่าวดังกล่าวแล้ว พร้อมกับชี้แจงโดยสรุปว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งใน อ.เมืองสงขลา เมื่อวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการข่าว กก.ตชด.43 จำนวนหนึ่งได้ไปเลี้ยงข้าวเย็นกันที่ร้านอาหารดังกล่าว หลังเสร็จภารกิจในพื้นที่ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา โดยที่จัดเลี้ยงเป็นห้องอาหารส่วนตัว และในระหว่างที่นั่งรับประทานอาหารอยู่นั้น ส.ต.ต.ภูผา พุ่มไสว ผบ.หมู่ กก.ตชด.43 ซึ่งเป็นรุ่นน้อง ได้พูดคุยกับตำรวจรุ่นพี่ที่ร่วมรับประทานอาหารว่า ตนเองมีความประสงค์จะเข้ารับการฝึกหลักสูตรต่างๆ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และบอกว่าตนเองได้เตรียมความพร้อมของร่างกายมาเป็นอย่างดี
ซึ่งเมื่อตำรวจรุ่นพี่ที่ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรต่างๆ มาแล้ว ได้ยินคำพูดนั้น จึงได้บอกไปว่า “ต้องเตรียมความพร้อมของร่างกาย ตั้งแต่การดึงราว ลุกนั่ง ดันพื้น รวมไปถึงการบริหารกล้ามคอต้องมีความแข็งแรง เพื่อที่จะผ่านการทดสอบร่างกาย และได้เข้ารับฝึกอบรม”
โดยเมื่อ ส.ต.ต.ภูผา พุ่มไสว ได้ยินคำพูดดังกล่าวจึงได้บอกกับรุ่นพี่ที่นั่งอยู่ว่า ตนเองมีความพร้อม และหมั่นฝึกฝนร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ และได้สาธิตให้รุ่นพี่ดู และเมื่อเห็นว่าท่าทางยังไม่ถูกต้อง ร.ต.ต.จิตรทวัส ชูบุญลาภ รอง สว.กก.ตชด.43 ซึ่งเป็นตำรวจรุ่นพี่ จึงได้แสดงท่าหัวปักพื้นที่ถูกต้องให้ดูเป็นตัวอย่าง ไม่ได้มีการสั่งลงโทษรุ่นน้องตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด
ทั้งนี้ เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นทาง พ.ต.อ.ยงศักดิ์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ผกก.ตชด.43 ผู้บังคับบัญชาของ ร.ต.ต.จิตรทวัส ชูบุญลาภ รอง สว.กก.ตชด.43 และ ส.ต.ต.ภูผา พุ่มไสว ผบ.หมู่ กก.ตชด.43 ได้ตรวจสอบ และได้สอบถามข้อเท็จจริงแล้ว เจ้าตัวให้การยอมรับว่าเป็นชายในคลิปดังกล่าวจริง ทั้งนี้ ไม่มีเจตนาที่จะแสดงอำนาจหรือกลั่นแกล้งรุ่นน้องแต่อย่างใด จึงได้กำชับมิให้มีการกระทำดังกล่าวอีก รวมถึงกำชับให้ระมัดระวังการใช้สื่อโซเชียลอย่างเหมาะสม
ส่วนประเด็นอาการคล้ายคนเมานั้นได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบว่ามีความผิดจริงต้องดำเนินการด้านวินัยต่อไป และได้กำชับกำลังพลในสังกัดทุกนายมิให้กระทำผิดกฎหมาย และประพฤติตนให้เหมาะสม อยู่ในระเบียบวินัยอย่างเคร่งครัด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า คลิปวิดีโอที่ถูกนำเสนอไปก่อนหน้านี้นั้นมีการตัดเอาเพียงบางช่วงบางตอนของคลิปวิดีโอไปลงเฉพาะในช่วงที่รุ่นน้องกำลังวิดพื้น และเอาหัวปักพื้น มือไพล่หลังเท่านั้น จึงทำให้ผู้คนในสังคมต่างตั้งข้อสังเกตว่าเป็นความรุนแรง หรือการเมากร่างแล้วใช้อำนาจบาตรใหญ่ของพวกตำรวจรุ่นพี่หรือไม่
แต่ปรากฏว่าจากการการติดต่อขอดูคลิปภาพเต็มๆ พบว่าคลิปนี้มีความยาว 01.41 นาที และเริ่มต้นเป็นภาพที่รุ่นน้องคนนี้กำลังวิดพื้น และต่อด้วยเอาหัวปักพื้น มือไพล่หลังจริงๆ แต่ยังไม่จบ เพราะช่วงต่อจากนั้นรุ่นพี่ได้แนะนำว่า ท่าทางที่ถูกต้องนั้นต้องทำอย่างไร และรุ่นพี่เสื้อเหลือง คือ ร.ต.ต.จิตรทวัส ชูบุญลาภ รอง สว.กก.ตชด.43 ก็ได้ลงไปเอาหัวปักพื้น มือไพล่หลัง ทำให้ดูเป็นตัวอย่างด้วยแบบที่ว่า “พี่ทำได้น้องก็ต้องทำได้” ซึ่งตรงกับคำชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น
นอกจากนั้น เมื่อดูคลิปภาพนี้แล้ว ไม่ใช่เป็นเหตุความรุนแรงแบบก่อนหน้านี้แต่อย่างใด แต่กลับเป็นเรื่องราวที่แสดงให้เห็นถึงความรักใคร่กลมเกลียวกันของรุ่นพี่รุ่นน้องใน ตชด. โดยในตอนที่รุ่นน้องกำลังวิดพื้น เอาหัวปักพื้น เอามือไพล่หลังอยู่นั้น รุ่นพี่ก็พยายามแนะนำว่าต้องทำอย่างไรให้ถูกต้องจะได้สอบผ่านการฝึกที่ทรหด เพราะน้องอยากเรียนหลักสูตรกระโดดร่ม รวมทั้งบางคนก็ได้พูดให้กำลังใจว่า “เยี่ยมๆ” บางคนพูดว่า “นี่แหละหลานกูรุ่นต่อไป”
โดยเฉพาะรุ่นพี่คือ ร.ต.ต.จิตรทวัส ที่บอกว่า “นี่แหละ ตชด. มีแต่พี่กับน้อง และเมื่อเราสั่งน้อง เราต้องทำได้ อย่าให้น้องว่าเอา” ก่อนที่จะลงไปเอาหัวปักพื้น เอามือไพล่หลังเหมือนกับรุ่นน้องด้วย ซึ่งรุ่นน้องเองก็พยายามเข้ามาโอบที่รุ่นพี่อุตส่าห์ลงทุนถึงขนาดนี้ และเหตุการณ์ก็เป็นไปตามที่ปรากฏอยู่ในคลิป ซึ่งรุ่นพี่ทุกคนหวังดี และอยากให้รุ่นน้องประสบความสำเร็จในชีวิต