xs
xsm
sm
md
lg

คุณแม่หัวใจนักสู้!! "แม่หนิง" ขี่ซาเล้งเร่ขายส้มตำ-รับจ้างทำงานสารพัด เพื่อให้ได้เงินมาเลี้ยงลูก 3 ชีวิต!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา พาคุณผู้ชมไปรู้จัก “คุณแม่หนิง” แม่เลี้ยงเดี่ยวหัวใจแกร่ง ที่ไม่ใช่แค่ขี่ซาเล้งเร่ขายส้มตำ-ไก่ย่าง แต่ยังรับจ้างทำงานสารพัด ทั้งตัดหญ้า-ฉีดยาฆ่าหญ้า-ซ่อมพัดลม ฯลฯ เพื่อให้มีเงินมาเลี้ยงลูก 3 ชีวิต ลำบากแค่ไหน จะสู้จนสุดกำลัง เพื่อให้ลูกอยู่ได้ ไม่อด



คงไม่ง่ายที่ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง จะสามารถแบกภาระหาเลี้ยงลูกที่ยังเด็ก 3 คนเพียงลำพัง ดังที่ "แม่หนิง" สุภัททาวดี ขนอม หญิงแกร่งคนนี้ทำอยู่ แม้ชีวิตจะเหนื่อยยากลำบากแค่ไหน แต่หัวใจเธอไม่เคยยอมแพ้ มีแต่คำว่า สู้ เท่านั้น!!

แม้อยากให้ครอบครัวมีพ่อแม่ลูกอยู่พร้อมหน้า แต่แม่หนิงต้องพบกับความล้มเหลวในชีวิตคู่ จนต้องตัดสินใจเลิกรามา 3 ครั้ง


"คนแรกเขาค่อนข้างเจ้าชู้ และพ่อแม่เขาเหมือนชอบคนมีตังค์ แต่เรามีการศึกษาน้อย คือเหมือนจะดึงลูกเขาตก เขาก็จับแยกลูกเขาไปทำงานที่อื่น แล้วเขาเจ้าชู้ ก็เลยเลิก จบ เราก็ทำงานเลี้ยงลูก พอมาคนที่ 2 ก็ติดยา พอเราจับได้ พยายามให้เลิก ก็ไม่เลิก โดนจับ เราก็วิ่งเรื่องประกันตัวออกมา ก็ยังวนเวียนอยู่เหมือนเดิม เลยตัดสินใจว่า แยกกันไปละกัน จนมาคนที่ 3 นี่พ่อแม่เขาโอเคดีกับเรา แต่ลูกเขาไม่ เราต้องทนกับการที่เขากินเหล้ามา ก็มาอาละวาด หาว่าเรามีชู้ ตบตี ทำร้ายร่างกาย จนเข้า รพ.นับครั้งไม่ถ้วน เลยตัดสินใจแยกทาง"


เมื่อต้องเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่หนิงตัดสินใจยึดอาชีพขี่ซาเล้งเร่ขายส้มตำ-ไก่ย่างอยู่แถวซอยเลียบวารีมาปลายปีแล้ว โดยเช่าบ้านอยู่ย่านหนองจอก ทุกวันแม่หนิงจะตื่นตั้งแต่ตี 5 เพื่อนึ่งข้าวเหนียว ก่อนจะขี่ซาเล้งไปจ่ายตลาด และกลับมาเตรียมเครื่องส้มตำและย่างไก่ ก่อนออกไปขายประมาณ 9 โมงกว่า ถึงช่วงบ่าย จริงๆ แม่หนิงอยากขายของให้เช้ากว่านี้ แต่ต้องไปส่งลูกชาย 2 คนไปโรงเรียน (เฟิร์ส วัย 12-พีท วัย 8 ขวบ) ส่วนช่วงบ่ายก็ต้องไปรับ หากวันไหน ขายของไม่หมด หลังจากไปรับลูกกลับจากโรงเรียนแล้ว แม่หนิงจะออกไปเร่ขายส้มตำ-ไก่ย่างอีกรอบในช่วงเย็น


ทุกครั้งที่แม่หนิงออกไปขายส้มตำ จะพา "พอร์ช" ลูกชายคนเล็ก วัย 4 ขวบไปด้วย พอร์ชไม่เพียงอยู่ในวัยกำลังซน แต่ยังติดแม่มาก แม้ในยามที่อยู่บ้าน ก็จะเรียกหาแม่อยู่ตลอด

แม่หนิงยอมรับว่า ช่วงโควิดระบาดการขายส้มตำได้รับผลกระทบมาก แต่เมื่อโควิดคลี่คลาย ก็ประสบปัญหาข้าวของแพงอีก ทำให้ต้นทุนวัตถุดิบในการขายส้มตำไก่ย่างสูงขึ้น ทำให้ไม่ค่อยเหลือเงินเก็บเพื่อใช้หนี้


"ตอนนี้ค่อนข้างแย่ ของแพงทุกอย่าง ไก่ ผัก มะนาว แพงหมดเลย (ถาม-แล้วเราต้องขึ้นราคาขายไหม?) ขึ้นแค่บางอย่าง ขึ้นราคาไก่ไม้เล็กเป็น 12 บาท (ถาม-ต้องแบกต้นทุน แล้วส่งผลกระทบกับครอบครัวไหม?) กำไรมันน้อย จากที่เราเคยมีเก็บ เพื่อจ่ายค่าหนี้สินของเราได้แต่ละเดือน มันไม่มีเลย (ถาม-หนี้สินเกิดจากอะไร?) ค่าเช่าบ้าน ค่ารถ ค่าน้ำค่าไฟ"


แม้จะไม่อยากเป็นหนี้ แต่แม่หนิง ยอมรับว่า ช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา จำเป็นต้องกู้ร้อยละ 20 เพื่อมาจ่ายค่าไฟที่กำลังจะโดนตัด

"(ถาม-ไม่มีเงินขนาดจ่ายค่าน้ำค่าไฟเลยหรือ?) ใช่ค่ะ 3 เดือน เขาจะมาถอดหม้อ เราก็ขอว่า เดี๋ยวขอเวลาเราหาหน่อยได้ไหม นี่คือจุดแรกที่ทำให้หนูต้องไปกู้ร้อยละ 20 มา เพื่อจะมาจ่ายค่าไฟที่กำลังจะโดนตัด คือถ้าหนูคนเดียว ได้ ไม่มีปัญหา แต่ลูกอยู่ไม่ได้ ประเด็นหลักที่เราไปกู้ เพราะไฟจะโดนตัด หลังจากนั้น พอเราเริ่มกู้ครั้งแรก เราก็จะหมุนไม่ทันแล้วไง เพราะเราต้องส่งรายวัน เราก็จะไม่มีเก็บ"


แม่หนิงรู้ดีว่า การขายส้มตำไก่ย่างเพียงอย่างเดียว อยู่ไม่รอดแน่ เธอจึงหางานเสริม ด้วยการรับจ้างทำงานสารพัด พร้อมติดป้ายไว้ที่รถซาเล้งของเธอด้วย เผื่อผู้พบเห็นต้องการจ้างงานเธอ


"งานเสริมจะมีตัดหญ้าบ้าง ซ่อมพัดลมบ้าง ทำความสะอาดบ้าน ฉีดยาฆ่าหญ้า ใครจ้างซื้อของก็ไป จ้างเก็บขยะ ขนขยะทิ้ง ก็ทำ (ถาม-ไปฝึกซ่อมพัดลมมาจากไหน?) ดูยูทูบ อะไรที่เราเห็นว่ากำลังเราพอได้ เราก็ทำ (ถาม-ซ่อมพัดลม ไม่กลัวไฟดูดหรือ?) เราก็ดูดีๆ ส่วนมากอาการที่ซ่อมคือ เครื่องดับไปเฉยๆ ก็จะมาจากพวกฟิวส์ขาด บางทีพัดลมเป่าไม่แรง เบอร์ 3 ก็เหมือนเบอร์ 1 ก็แค่เปลี่ยนตัว คาปาซิเตอร์ข้างหลัง (ถาม-เราคิดค่าซ่อมเขายังไง?) ถ้าเปลี่ยนฟิวส์กับตัวคาปาฯ คู่กัน 150 คิดราคากันเอง...”


แม้จะรับจ้างทั่วไปเป็นงานเสริมด้วยแล้ว แต่แม่หนิงยอมรับว่า รายได้ที่ไม่แน่นอนจากงานเสริม ก็ไม่ได้ช่วยให้มีเงินเหลือเก็บ เพราะต้องเอามาหมุนกับการขายส้มตำไก่ย่างที่ต้นทุนสูงขึ้น เพราะไก่ย่างถ้าขายไม่หมด ก็ต้องยอมลดราคายอมขาดทุน


"ถ้าไก่เหลือ เราต้องลดแล้ว ลดราคาดีกว่าเอามาเก็บมาทิ้ง เราต้องลดราคาครึ่งหนึ่ง เพื่อให้มันหมด บางทีก็ขายเหมา 12 ไม้ 100 เดียว"

ทางเดียวที่แม่-ลูก 4 ชีวิตจะอยู่รอดได้ท่ามกลางการหารายได้ที่ไม่เพียงพอต่อรายจ่าย ก็คือ การประหยัดกินประหยัดใช้กันสุดๆ และแม่ทำงานแบบไม่มีวันหยุด


"(ถาม-แล้วค่าใช้จ่ายในการดูแลลูก ทุกวันนี้มีปัญหาไหม?) มี แต่ไม่ถึงขั้นอด เพราะเราไม่หยุดทำงาน ถ้าวันไหนปวดมากๆ หยุดสักวัน พรุ่งนี้เช้ามา เอาตังค์ที่ไหนซื้อถ่าน จะเอาตังค์ไหนให้ลูกกิน ส่วนมากเช้ามาจะกินไก่คนละไม้ ข้าวเหนียวคนละห่อ ตัวหนู กลางวันไม่กินอยู่แล้ว ไม่กินอะไรเลย รอกินตอนเย็นกับลูกทีเดียว ต้องประหยัดมาก ตอนเย็นถ้าไม่มีอะไรเลย ก็ข้าวผัดไข่ กินกัน 4 คนแม่ลูก"


ไม่ใช่แค่ขายส้มตำเป็นงานหลัก และรับจ้างทั่วไปเป็นงานเสริม แต่แม่หนิงยังรับจ้างเลี้ยงน้องหมาไว้อีก 2 ตัว รวมทั้งต้องรับภาระเลี้ยงดูแมวที่มีคนเอามาปล่อยแถวบ้านที่เธอเช่าอยู่อีกหลายตัวด้วย


"แมวนี่เขามาปล่อยๆๆ เราก็ทำอะไรไม่ได้ ก็ตัดสินใจเลี้ยง พอใครเห็น เขาก็ช่วย บางทีก็ซื้ออาหารแมวมาให้ ทำหมันให้หมด เราก็พยายาม อย่าเอามาปล่อยอีกนะ ไม่ไหวแล้ว อย่าเอามาปล่อยอีกเลย"

ในความยากลำบากที่ต้องดิ้นรนทำงานหลายอย่างเพื่อเลี้ยงดูลูกๆ ให้อยู่ได้ในแต่ละวัน สิ่งที่ทำให้แม่หนิงมีแรงฮึดสู้ แบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ก็คือ อนาคตของลูกๆ อยากเห็นลูกเรียนสูงที่สุด เพื่อจะได้ไม่ต้องลำบากเหมือนแม่


"หนูดูแม่นะ แม่ลำบากแค่ไหน หนูมีหน้าที่เรียน หนูต้องเรียนให้ดีที่สุด แม่ไม่หวังหรอกว่า โตไป เรียนจบแล้ว ลูกต้องมาเลี้ยงเรา ให้เขาเอาตัวรอดของเขาไปก็พอแล้ว (ถาม-โดยกำลังเรา อยากให้เขาเรียนสูงแค่ไหน?) เอาที่เขาอยากเรียน แม่จะสู้จนสุดกำลังของตัวเอง เชื่อมั่นตลอดว่า ถ้าคนเราคิดจะสู้ ไม่มีวันแพ้หรอก แต่ถ้าคนที่ท้อ ไม่สู้ อยากจะให้ดูชีวิตเรา ลูก 3 คน ทั้งหมาทั้งแมว ทำไมเรายังไม่ท้อเลย บางวันฝนตกฟ้าผ่า เราก็ยังวิ่งขายของ สู้เถอะค่ะ ถ้าวันนี้เราแพ้ พรุ่งนี้เราเริ่มใหม่ สักวันเราต้องชนะ แต่ถ้ามัวท้อใจ ทำไม่ได้ มันก็ทำไม่ได้"


"(ถาม-ผู้หญิงมักจะรักสวยรักงาม รักสบาย การต้องมาทำงานตากแดด ทำงานหนักๆ อย่างนี้ ไม่ห่วงร่างกายตัวเองหรือ?) ไม่ ห่วงลูกอดมากกว่า กลัวลูกลำบาก เราลำบากได้ แต่ไม่อยากให้ลูกลำบาก หัวอกคนเป็นแม่ ทุกคน หนูว่าเขาคิดกันทุกคน เราไม่มี เราไม่กินได้ แต่ลูก วันนี้ไม่มีตังค์ ลูกอดข้าวได้ไหม ไม่ได้ แม่ทำไม่ได้ ขึ้นชื่อว่าแม่ ต้องทำทุกอย่างให้ได้เงินมาเพื่อให้ลูกประทังชีวิต แม่ถึงไม่หยุดทำงาน"


หากท่านใดอยากให้กำลังใจหรือช่วยเหลือคุณแม่หนิงและลูกๆ โอนไปได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย ชื่อบัญชี สุภัททาวดี ขนอม เลขที่บัญชี 677-216-3302 หากต้องการอุดหนุนส้มตำไก่ย่างของคุณแม่หนิง เร่ขายอยู่แถวซอยเลียบวารี เขตหนองจอก หากต้องการติดต่อ โทรไปได้ที่ 083-926-1276


คลิกชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ตอน “คุณแม่...ยอดนักสู้”
https://www.youtube.com/watch?v=b6km6JHXESs


ติดตามรับชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ได้ ทุกวันเสาร์ เวลา 09.00-09.30 น. ทางสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ( IPM ช่อง 64 / PSI ช่อง 211 )

หรือรับชมรายการย้อนหลังได้ที่เพจ ฅนจริงใจไม่ท้อhttps://web.facebook.com/KonJingJaimaitor/
หรือยูทูบฅนจริงใจไม่ท้อhttps://www.youtube.com/channel/UCsb4sLqdHs35km4uQ_tOCjQ/videos


กำลังโหลดความคิดเห็น