xs
xsm
sm
md
lg

พิสูจน์ปมแม่ลูกชาวนครสวรรค์บุกร้องถึงทำเนียบฯ ตัดต้นกล้วยตัวเองโดนแจ้งจับนอนคุก 2 คืน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



นครสวรรค์ - แกะปมพิสูจน์ข้อพิพาท..สองแม่ลูกชาวนครสวรรค์ร้องถึงทำเนียบฯ ยันเพจดังอ้างตัดต้นกล้วยตัวเองโดนแจ้งจับนอนคุกถึง 2 คืน หน่วยงานท้องถิ่น-ฝ่ายปกครองรุมกลั่นแกล้งไล่ที่หลังเดียวมาตั้งแต่ปี 50 ทั้งที่อยู่บนที่หลวงมาร่วม 30 ปีเหมือนอีกหลายครอบครัว


กรณีนางดอกไม้ ยอดรัก อายุ 73 ปี และลูกคือ นางกุสุมา อ่วมคุ้ม อายุ 55 ปี ชาว อ.เมืองนครสวรรค์ ได้หอบกระเป๋าเดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาล และเพจสายไหมต้องรอด เพื่อร้องขอความช่วยเหลือเกี่ยวกับปัญหาข้อพิพาทกับเพื่อนข้างบ้าน ถูกกล่าวหาว่าตัดต้นกล้วยของเพื่อนบ้าน จนกลายเป็นเรื่องบานปลายถึงขั้นขึ้นโรงพักแจ้งความดำเนินคดีกันทั้งสองฝ่าย

แต่กลายเป็นว่านางกุสุมาต้องไปนอนคุกอยู่ในที่คุมขังของ สภ.เมืองนครสวรรค์ถึง 2 คืน ในข้อหาทำให้เสียทรัพย์ ก่อนได้รับการประกันตัวออกมา พร้อมระบุว่า วันที่เกิดเหตุกับทางฝั่งคู่กรณีมีการเอาทั้งตำรวจ อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมถึงฝ่ายปกครอง มารุมกันทำร้ายด้วย

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถาม นางดอกไม้ ยอดรัก และนางกุสุมา อ่วมคุ้ม สองแม่ลูก ที่บ้านยางโทน ต.นครสวรรค์ตก อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ซึ่งได้นำไปดูกอต้นกล้วยที่มีปัญหา พบว่าอยู่ในเขตพื้นที่บ้านของนางกุสุมา และเดิมถูกตัดทิ้งไปแล้ว แต่มีหน่อกล้วยผุดขึ้นมาใหม่ ซึ่งนางกุสุมายืนยันว่าเป็นคนปลูกกล้วยต้นนี้เอง และก็อยู่ในอาณาเขตบ้านของเธอเองด้วย แต่ทำไมเธอถึงต้องเป็นฝ่ายผิดไปนอนคุกถึง 2 คืน

นางกุสุมาเปิดเผยว่า วันที่เกิดเรื่องนั้นตนก็จำอะไรไม่ได้แล้ว มันชุลมุน ขอให้ไปดูในคลิปที่ตนไลฟ์สดไว้ในเฟซบุ๊ก ส่วนเรื่องเดินทางไปกรุงเทพฯ เพื่อร้องเรียนเพราะตนต้องการเรียกร้องขอความเป็นธรรม เพราะหลังต้องไปนอนคุกถึง 2 คืนแล้วก็ยังถูกคุกคามเอาเรื่องจากเจ้าหน้าที่รัฐไม่หยุดหย่อน โดยเฉพาะ อบต.ที่ไปแจ้งความต่อตำรวจไล่ให้ตนและครอบครัวออกจากพื้นที่ พยายามจะเอาตนเข้าคุกให้ได้

“แม่ก็ชรา ฉันก็ป่วยมีโรค แต่ก็ถูกบุกรุกคุกคามกลั่นแกล้งจากเจ้าหน้าที่รัฐมาโดยตลอด ตั้งแต่ปี 50 จนกระทั่งมามีปัญหากับเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกัน ก็ถูกกลั่นแกล้งหนักเข้าไปอีก เขาหวังจะเอาฉันให้ติดคุกให้ได้”

นางกุสุมาบอกว่า ก่อนหน้านี้เคยไปแจ้งความร้องเรียนทั้งพวกเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาบุกรุกกลั่นแกล้ง รวมถึงเรื่องเพื่อนบ้านที่มาทำร้ายแล้ว แต่ตำรวจก็ไม่ทำอะไรเลย แต่กลับกลายเป็นว่ามาดำเนินคดี-ไล่ที่ตนเพียงฝ่ายเดียว เพื่อนบ้านไม่โดนอะไรเลยสักอย่าง ทั้งที่ต้นกล้วยก็ของตน อยู่ในที่ของตน จะตัดทิ้งมันก็สิทธิ์ของตน แต่เพื่อนบ้านกลับไปอ้างหน้าตาเฉยว่าเป็นต้นกล้วยของเขา ตำรวจก็เชื่อเขา มาจับตนไปนอนคุก 2 คืนเฉยเลย แบบนี้จะว่าไม่โดนคุกคามกลั่นแกล้งได้อย่างไร


นางกุสุมาระบุว่า ที่ผ่านมาตนเดือดร้อนจริง ต้องสู้คดีกับเพื่อนบ้าน แล้วยังถูกเจ้าหน้าที่รัฐ โดยเฉพาะ อบต.มากลั่นแกล้ง แจ้งความไล่ตนและครอบครัวออกจากพื้นที่ ซึ่งก็เคยไปร้องเรียนหลายที่มาก ทางหน่วยงานต่างๆ ก็ทำเรื่องส่งกลับให้ท้องถิ่นดูแล แต่พวกนี้ก็ยังโกหกมดเท็จส่งเรื่องไม่จริงรายงานกลับไป ตนจะได้รับความเป็นธรรมได้อย่างไร กระทั่งมีคนพาไปร้องกับทางเพจสายไหมต้องรอด และทางเขาก็มีการดำเนินการให้ ก็รู้สึกมีกำลังใจ-มีหวังมากขึ้น

เมื่อถามถึงกรณีที่มีเพื่อนบ้านหลายคนกล่าวหาว่าบ้านของนางกุสุมาชอบไปเอะอะโวยวาย และชอบไปต่อว่าใครต่อใครในละแวกแถวบ้านไปเรื่อย นางกุสุมายืนยันว่าจริง แต่ก็จะว่ากับคนที่ไม่ดีกับบ้านตน พวกคนที่มาคุกคาม ชอบไปติฉินนินทาว่าร้ายลับหลัง ตนก็ว่าหมด โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ชอบมาบุกรุกคุกคาม ตนก็ด่าว่าจริง เพราะเขาคิดไม่ดีกับตน แต่กับคนอื่นที่เขาดีด้วย ไม่เคยด่าว่าร้ายเขาเลย เขามาดี ก็คุยดี

เรื่องบ้านที่อยู่ตอนนี้ ยอมรับว่าเดิมเป็นที่รกร้างว่างเปล่า เป็นที่สาธารณประโยชน์ ไม่มีโฉนด ครอบครัวตนก็ย้ายมาจับจองสร้างบ้านอยู่ที่นี่นานกว่า 30 ปีแล้ว ซึ่งหลายๆ คนส่วนใหญ่ที่ย้ายมาที่นี่ก็มาอาศัยอยู่ในที่หลวงกันแทบทั้งสิ้น แต่ทำไมพวกนั้นรวยมีเงินมากกว่าตนหรือถึงไม่ถูกไล่ แต่มาไล่ตนออกจากพื้นที่เพียงครอบครัวเดียว แบบนี้มันยุติธรรมหรือ หน่วยงานไหนที่ให้ความเป็นธรรมแก่ครอบครัวตนได้ โปรดมาช่วยที ครอบครัวตนยากจน ไม่มีงานทำ ถ้ามาไล่แล้วจะย้ายไปอยู่ที่ไหน

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อสอบถามไปยัง อบต.ในท้องที่ของนางกุสุมา รวมถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แต่ก็ยังไม่มีใครสะดวกจะให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ ส่วนนายชำนาญ เชียงเงิน ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านคู่กรณีของนางกุสุมา ก็ไม่สามารถติดต่อได้เช่นกัน

ด้าน พ.ต.ท.สุทัศน์ ม่วงสุข พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์ เจ้าของคดี ยืนยันว่าเรื่องนี้ถ้าต่างคนต่างอยู่ ต่างถ้อยที ถ้อยอาศัยกัน จะไม่มีปัญหาอะไรเลย วันนั้นนายชำนาญคู่กรณีมาที่โรงพักเพื่อให้ลงบันทึกประจำวันว่านางกุสุมาไปตัดต้นกล้วยของเขา โดยไม่ประสงค์จะเอาเรื่อง แต่ต้องการให้ตำรวจไปช่วยไกล่เกลี่ยกับนางกุสุมา ที่มักจะชอบหาเรื่องไปด่าว่าอยู่เป็นประจำ อยากขอให้ต่างคนต่างอยู่ ไม่ต้องมาวุ่นวายกัน

ประกอบกับตอนนั้น อบต.นครสวรรค์ตกเคยแจ้งความนางกุสุมาบุกรุกที่ด้วย จึงได้ร่วมกับรองนายก อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และฝ่ายปกครอง ไปพูดคุยเจรจากับนางกุสุมา แต่เมื่อไปถึงปรากฏว่านางกุสุมาเกิดมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกับนายชำนาญเพื่อนบ้านคู่กรณี กลายเป็นว่ากลุ่มที่ไปต้องคอยแยกห้ามทัพทั้งสองฝ่ายกันชุลมุน เพราะตอนนั้นต่างคนต่างไม่ยอมกัน

“ยืนยันวันนั้นไม่มีใครไปทำร้ายซ้ำเติมป้ากุสุมาเลย มีแต่ห้ามกันให้วุ่น เพราะป้าแกแรงมาก แต่ก็อาจจะมีบ้างในช่วงที่จังหวะจับแยกระหว่างชุลมุน เลยทำให้ป้าแกเข้าใจว่าถูกเจ้าหน้าที่รัฐไปผสมโรงถูกทำร้าย แต่ไม่มีแน่นอน”

เมื่อถามถึงกรณีนางกุสุมาระบุว่าต้นกล้วยเป็นของตนเอง ปลูกในที่ตัวเอง พอตัด ทำไมถึงต้องติดคุก พ.ต.ท.สุทัศน์กล่าวว่า หลังจากที่นางกุสุมามีเรื่องมีราวกับนายชำนาญ ปรากฏว่านางกุสุมาเดินทางมาแจ้งความถูกทำร้ายร่างกายก่อน จึงทำให้นายชำนาญเดินทางมาแจ้งความกลับ ฐานทำร้ายร่างกาย ทำให้เสียทรัพย์เช่นกัน โดยเจ้าตัวยืนยันว่าเขาเป็นเจ้าของต้นกล้วย


“ผมก็อยู่ในเหตุการณ์ เห็นหมดทุกอย่างว่านายชำนาญไม่ได้เข้าข่ายทำร้ายร่างกาย มีแต่นางกุสุมาที่เดินปรี่เข้าใส่นายชำนาญฝ่ายเดียวจนต้องห้ามกันวุ่นวาย ผิดกับนางกุสุมาที่เข้าข่ายข้อหาทำร้ายร่างกายมากกว่า แต่ก็เป็นเพียงคดีลหุโทษเท่านั้น”

ส่วนเรื่องที่ทำให้นางกุสุมาต้องนอนในคุก เนื่องจากถูกนายชำนาญแจ้งความทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งก็มีหมายเรียกให้นางกุสุมา นำหลักฐานมาชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นทั้ง 2 ครั้ง แต่เจ้าตัวก็ไม่ยอมมาให้ปากคำชี้แจง ไม่นำหลักฐานว่าเป็นเจ้าของต้นกล้วยมายืนยัน เมื่อโดนหมายเรียกถึง 2 ครั้งไม่มา จึงโดนหมายจับ

“ตอนออกหมายจับ ก็ไม่ได้ไปรีบตามจับ และเวลาก็ผ่านไปนานเหมือนกัน กระทั่งนางกุสุมาเดินทางมาที่โรงพักแจ้งความโดนเจ้าหน้าที่ประปาหมู่บ้านกลั่นแกล้งปล่อยน้ำไปขังบริเวณบ้าน ซึ่งก็เป็นจังหวะที่มีหมายจับติดตัว จึงโดนจับบนโรงพักทันที และวันที่จับก็เป็นวันเสาร์ ติดวันหยุดราชการ ส่งฟ้องศาลไม่ได้ เลยต้องนอนอยู่ในห้องขัง 2 คืน รอจนถึงวันจันทร์ ถึงมีการส่งฟ้องศาล ส่วนคดีทำให้เสียทรัพย์ ป้าแกก็ต้องนำหลักฐานไปว่ากันตามกฎหมาย หากยืนยันได้ว่าต้นกล้วยเป็นของป้า ก็ไม่ถูกดำเนินคดีแต่อย่างใด แต่เรื่องของเรื่องป้าแกไม่มาชี้แจงตั้งแต่แรก”

เมื่อถามเรื่องถูกไล่ที่ พ.ต.ท.สุทัศน์กล่าวว่า ทาง อบต.ได้มาแจ้งความไว้นานแล้ว อยู่ในระหว่างไกล่เกลี่ย ต้องอธิบายก่อนว่าเป็นที่สาธารณะ อยู่ในความรับผิดชอบของ อบต. และบ้านของนางกุสุมาอยู่ในบริเวณของการประปาหมู่บ้าน อบต. ซึ่งทาง อบต.ต้องการเรียกคืน แต่ไม่รู้จะดำเนินการพัฒนาที่ดินเป็นอะไร ทราบเพียงว่าที่ผ่านมานางกุสุมามักจะมาร้องเรียนในเรื่องของน้ำที่ระบายออกจากประปาหมู่บ้านมาขังในที่บ้านเสมอ ซึ่งเรื่องนี้ต้องให้ทาง อบต.ชี้แจงเอง


กำลังโหลดความคิดเห็น