ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เกิดเหตุดินบนเขาหมีตาย เส้นทางสายเอเชีย อ.นาหม่อม จ.สงขลา พังถล่มลงจากความสูงนับ 10 เมตร ทำให้เสาไฟฟ้าที่ติดตั้งอยู่ตามแนวเขาล้มระเนระนาดนับ 10 ต้น รวมทั้งเสาไฟส่องสว่างริมทาง
วันนี้ (18 ธ.ค.) ที่ จ.สงขลา จากสถานการณ์ฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายวันมานี้ ส่งผลให้ในขณะนี้เกิดน้ำท่วม น้ำป่าไหลหลาก น้ำกัดเซาะ และดินสไลด์ขึ้นหลายจุดในพื้นที่ โดยในช่วงบ่ายที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุดินบนเขาหมีตาย หรือควนหมีตาย ซึ่งอยู่บริเวณถนนสายเอเชีย พื้นที่รอยต่อระหว่าง อ.นาหม่อม กับ อ.จะนะ จ.สงขลา ฝั่งขาล่อง อ.จะนะ ซึ่งมีความสูงชันกว่า 10 เมตร ได้พังทลายลงมา
และทำให้เสาไฟฟ้าที่ติดตั้งอยู่ตามแนวเขาตลอดเส้นทางพังทลายลงมาด้วยนับ 10 ต้น สายไฟห้อยระโยงรยาง รวมทั้งเสาไฟส่องสว่างริมทางได้รับความเสียหายไปบางส่วนเช่นเดียวกัน อีกทั้งยังมีดิน และโคลนร่วงหล่นลงมาเต็มพื้นผิวจราจรอีกด้วย
หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เร่งเข้าเคลียร์พื้นที่เป็นการด่วน เนื่องจากเป็นเส้นทางสายหลัก และป้องกันอุบัติเหตุซ้ำซ้อนตามมาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยทางตำรวจ สภ.นาหม่อม ได้ปิดการจราจรช่องทางขาล่อง อ.จะนะ และเปิดให้รถวิ่งสวนเลนกันในฝั่งขาขึ้น อ.นาหม่อม ระยะทางราว 2 กิโลเมตร ส่งผลให้มีรถติดยาวเหยียดเป็นกิโลเมตร และยังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง
ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.นาหม่อม จะทำการตัดกระแสไฟฟ้า และเคลียร์ทั้งสายไฟฟ้า และเสาไฟฟ้าทั้งหมดกว่า 10 ต้น ไปไว้ข้างทาง เพื่อความปลอดภัยของรถที่สัญจรไปมา และจะทำการติดตั้งและเดินสายไฟฟ้าใหม่อีกครั้ง โดยต้องรอให้เคลียร์พื้นที่บริเวณแนวเขาให้แล้วเสร็จ และให้แน่ใจว่าจะไม่เกิดดินถล่มลงมาอีก
ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงสงขลา ที่ 2 (นาหม่อม) ได้นำกำลังและเครื่องจักรกลเข้าเคลียร์เสาไฟส่องสว่างริมทางบางส่วนที่ได้รับความเสียหาย และนำรถตักดินที่พังถล่มออกจากพื้นที่ และเคลียร์พื้นผิวการจราจรทั้งหมด โดยคาดว่าในช่วงหัวค่ำจะแล้วเสร็จ และเปิดการจราจรได้ตามปกติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งทำการซ่อมแซมส่วนที่ได้รับความเสียหายต่อไป
ทั้งนี้ สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.สงขลา ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สงขลา รายงานว่า เกิดน้ำท่วมแล้ว 7 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมือง อ.หาดใหญ่ อ.รัตภูมิ อ.ควนเนียง อ.นาหม่อม อ.จะนะ และ อ.บางกล่ำ และยังมีแนวโน้มขยายวงกว้างเพิ่มขึ้น เนื่องจากยังมีฝนตกหนักสะสมต่อเนื่องไม่มีทีท่าว่าจะหยุด โดยมีการแจ้งเตือนให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมซ้ำซาก และน้ำป่าไหลหลากเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด