ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ โพสต์ข้อความสุดประทับใจของทะเลไทยและยกให้เป็นคาบสมุทรสุดวิเศษ ที่มีทั้ง 2 มหาสมุทร อ่าวไทย-อันดามัน และทะเลสาบ กับสัตว์หายาก 3 ชนิด ได้แก่ พะยูนแห่งอันดามัน โลมาอิรวดีในทะเลสาบ และโลมาหลังโหนกสีชมพู
เมื่อวันที่ 24 ม.ค. เฟซบุ๊ก “Thon Thamrongnawasawat” หรือ ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม และอาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ออกมาโพสต์เรื่องราวสุดประทับใจของทะเลไทยและยกให้เป็นคาบสมุทรสุดวิเศษ ที่มีทั้งมหาสมุทรและทะเลสาบ กับสัตว์หายาก 3 ชนิด โดยผู้โพสต์ระบุข้อความว่า "1 ทะเลสาบ 2 มหาสมุทร 3 สัตว์หายาก
นี่คือจุดเริ่มของแนวคิดที่อาจพลิกผันการอนุรักษ์สัตว์ทะเลหายากของไทย เรื่องเริ่มมาจากการประชุมโลมาสงขลากับผู้เชี่ยวชาญนานาชาติ ได้ผลสรุปดียิ่ง แต่ผมยังมองไม่เห็นว่าเราจะไปหาตังค์จากไหนให้เพียงพอ เราจำเป็นต้องมองหาเงินจากแหล่งทุนนอกประเทศและต้องบิ๊กๆ ด้วย ผมจึงเกิดไอเดียตามที่เกริ่นนำไว้ ลองพูดคุยกับบางท่านแล้วเป็นไปได้ จึงนำมาเล่าคร่าวๆ ให้เพื่อนธรณ์ฟัง
ภาคใต้ของไทยเป็นคาบสมุทรสุดวิเศษ เป็นพื้นที่เชื่อมต่อระหว่าง 2 มหาทวีปในบรรพกาล เป็นสถานที่ทั่วโลกรู้กันดีว่า นี่แหละคือแหล่งรวมความหลากหลายทางชีวภาพ ภาคใต้ของเรายังมี 2 มหาสมุทร แปซิฟิก (อ่าวไทย) ม.อินเดีย (อันดามัน) ทะเลของเราจึงยอดเยี่ยมเป็นยิ่งนัก
เท่านั้นไม่พอ เรายังมีทะเลสาบสงขลาอันเป็นเอกลักษณ์ ลากูน 3 น้ำ (จืด กร่อย เค็ม) หาไม่ง่ายในโลกนี้ ที่สำคัญคือทุกที่มีสัตว์หายากประจำอยู่ แห่งละ 1 ชนิด พะยูนแห่งอันดามัน (ตรัง/กระบี่) โลมาอิรวดีในทะเลสาบ (สงขลา/พัทลุง) และโลมาหลังโหนกสีชมพู (นครฯ/สุราษฎร์) 2 มหาสมุทร 1 ทะเลสาบ สัตว์ 3 ชนิด ที่เจ๋งสุดคืออยู่ห่างกันแค่ 300 กิโลเมตร (ชมภาพ)
จากแหล่งพะยูนใหญ่สุดในประเทศ และสำคัญยิ่งในเขต ม.อินเดียไปเพียงแค่ 100 กม. คือที่อยู่ของโลมาอิรวดีในน้ำจืด 1 ใน 5 แห่งของโลก และเหลือแค่ #14สุดท้าย ขึ้นเหนือไปอีกไม่ถึง 200 กม. คือที่อยู่ของโลมาหลังโหนก (สีชมพู) ใหญ่สุดของไทย ในชายฝั่งเชื่อมต่อสุราษฎร์ฯ/นคร ผู้คน 2+ ล้านไปมาหาสู่กัน ทำมาหากินคล้ายกัน ยังมีแหล่งเที่ยวระดับโลกที่ภูเก็ตและที่สมุย
เมื่อมองในระดับบิ๊ก อันนี้ของจริงในทุกมุม ไม่ต้องไปหาคำมาอธิบายว่าภูเก็ตเกาะสมุยอยู่ที่ไหน ใครๆ ในโลกก็รู้จัก
ยิ่งถ้าคิดถึงสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมทางทะเล ต่างชนิดแต่มีรูปแบบการอนุรักษ์คล้ายกัน ทั้งประมงและท่องเที่ยว
TransOceanic ใช้กันในเรื่องลอจิสติกส์ทำมาค้าขาย แต่หนนี้จะนำมาใช้กับการอนุรักษ์สัตว์ 2 ฝั่งมหาสมุทร บวกให้อีก 1 ทะเลสาบ
นั่นคือหัวใจสำคัญของแนวคิดนี้ ใหม่เอี่ยมแน่นอน และคงหาในประเทศอื่นได้ยากยิ่ง เพราะคาบสมุทรแบบภาคใต้ของไทยมันไม่มีทอดตาทั่วโลก มีแค่ปานามาที่ใกล้เคียงในด้านภูมิประเทศ แต่ไม่มีสัตว์หายาก 3 ชนิด แถมยังไม่มีทะเลสาบอยู่ตรงกลาง ผมไม่ทราบว่าโครงการจะไปต่อได้แค่ไหน เพราะมีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ผมจะพยายามในส่วนของตัวเองให้เต็มที่ อย่างน้อยก็มีฝันถึงสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าที่เป็นอยู่ วนเวียนอยู่กับที่ ประชุม/เสนอโครงการ/ตัดงบ/ประชุมใหม่
อยากตื่น มันก็ต้องทะลุกรอบ มันก็ต้องเลิกมองแบบเก่า ทะเลไทยมีดี และมีดีมากพอ ก็ขึ้นกับว่าเราจะทะเยอทะยานในการรักษาเธอหรือไม่ โครงการ 1-2-3 คือแนวคิดครั้งใหม่ที่อาจต้องอาศัยเวลาในการก้าวไป แต่เมื่อเห็นเป้าหมาย เราก็กล้าทะเยอทะยานครับ"