xs
xsm
sm
md
lg

ไม่ค้านสายตา “กานต์ ชนนิกานต์” ตอบคำถามจึ้ง! คว้านางสาวไทย 2566

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



สิ้นสุดการรอคอยแล้ว สำหรับการประกวด “นางสาวไทย 2566” ในรอบตัดสิน (Final Competition) ซึ่งจัดขึ้นค่ำคืนวันนี้ (19 มีนาคม 2566) ณ แจ้งวัฒนะ ฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ เพื่อเฟ้นหา “นางสาวไทย คนที่ 54” ที่สวยสง่า ทรงพลัง และเฉลียวฉลาด (Sweet Strong Smart) ตรงคอนเซปต์ “The Ultimate Precious” หรือ “ที่สุดแห่งความล้ำค่า”

บรรยากาศการประกวดรอบไฟนอลเป็นไปอย่างคึกคัก ด้วยเสียงเชียร์จากเหล่าแฟนคลับนางงามที่มาร่วมลุ้นและให้กำลังใจตลอดการประกวด โดยมี อารม์ กรกันต์ สุทธิโกเศศ และ มุก อัญพัชร์ ปิติประจักษ์วัชร รับหน้าที่พิธีกร การประกวดเริ่มต้นขึ้นเมื่อเหล่าสาวงามทั้ง 46 คน เปิดตัวด้วยการแสดงชุด “โนรา สืบสานงามศิลป์ มรดกแผ่นดิน จากท้องถิ่นสู่สากล” จากจังหวัดพัทลุง ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดย คุณเขมพล (เข-มะ-พน) อุ้ยตยะกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

จากนั้นได้มีการประกาศรายชื่อผู้เข้าประกวดที่ได้รับรางวัลพิเศษถึง 6 รางวัล ได้แก่ รางวัล “BEST OF THAI RAMA 6 COSTUME” หรือ “รางวัลชุดแรงบันดาลใจในรัชสมัยที่ 6 สู่คุณค่าวัฒนธรรมผ้าพื้นถิ่น” คัดเลือกจากชุดที่ผู้เข้าประกวดสวมใส่ในงานพิธีรับมอบเข็มกลัดเกียรติยศที่ผ่านมา โดยผู้ที่ได้รับรางวัล คือ “ชุดสาวสยามแห่งศุโขทัย” ของ MT39 สุโขทัย : พิมพ์ภัทรา ภาคบัว

รางวัล “BEST OF THAI NIGHT DRESS” หรือ “รางวัลชุดราตรีผ้าไทยยอดเยี่ยม” คัดเลือกจากชุดราตรีผ้าไทยที่ผู้เข้าประกวดสวมใส่ในงาน Thai Night ผู้ที่ได้รับรางวัลได้แก่ MT35 สกลนคร : มาริษา พลธิราช

รางวัล “BEST OF DEBUTANTE DRESS” หรือ “ชุดเต้นรำเดอบูตองยอดเยี่ยม” คัดเลือกจากชุดเต้นรำที่ผู้เข้าประกวดสวมใส่ในงาน Debutante Gala Night ผู้ที่ได้รับรางวัลได้แก่ MT46 อุบลราชธานี : อารียา แสนสุริยวงศ์

รางวัล BEST OF LANDMARK PORTRAIT หรือ “รางวัลภาพถ่ายแลนด์มาร์คยอดเยี่ยม” คัดเลือกจากภาพถ่ายคู่กับแลนด์มาร์คประจำจังหวัดของผู้เข้าประกวด ซึ่งคัดเลือกโดยช่างภาพกองประกวดและช่างภาพสื่อมวลชน

โดยผู้เข้าประกวดที่ได้รับรางวัลมี 6 คน ได้แก่ MT44 อ่างทอง : ศิรินภา มูลปลา, MT47 อำนาจเจริญ : สุพรรษา วัฒนานุสิทธิ์, MT35 สกลนคร : มาริษา พลธิราช, MT46 อุบลราชธานี : อารียา แสนสุริยวงศ์, MT12 นครปฐม : ศศิ สุริยจันทราทอง และ MT09 เชียงใหม่ : ชนนิกานต์ สุพิทยาพร

รางวัล “BEST OF THE ULTIMATE PRECIOUS” หรือ “รางวัลวิดีโอที่สุดแห่งความล้ำค่า” คัดเลือกจากวิดีโอที่นำเสนอเรื่องราวความเป็นที่สุดแห่งความล้ำค่าได้ดีที่สุด ผู้ที่ได้รับรางวัลได้แก่ MT46 อุบลราชธานี : อารียา และรางวัลที่ 6 “รางวัลขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชน” ได้แก่ MT09 เชียงใหม่ “ชนนิกานต์ สุพิทยาพร”

ก่อนที่เวทีจะเพิ่มองศาความลุ้นด้วยการประกาศผลผู้เข้ารอบ 20 คนสุดท้าย จากคะแนนรอบสัมภาษณ์ทัศนคติเชิงลึก รอบ Preliminary Competition และคะแนนสะสมระหว่างการเก็บตัว กว่า 1 เดือนที่ผ่านมาที่ผู้เข้าประกวดได้เก็บตัวทำกิจกรรมเพื่อพัฒนาศักยภาพ รวมไปถึงการทำกิจกรรมเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ให้กับองค์กรต่างๆ มากมาย

เพิ่มความดีกรีให้เวทีด้วยการอวดเสน่ห์ใน “รอบชุดว่ายน้ำ” โดยในรอบนี้ คณะกรรมการได้ประกาศผลผู้ผ่านเข้ารอบ 11 คนสุดท้าย นางสาวไทย 2566 ได้แก่ ผู้ชนะรางวัล Vincent Clinic Fast Track MT04 กำแพงเพชร
สุรัชวดี จักรกิจ, MT46 อุบลราชธานี อารียา แสนสุริยวงศ์, MT45 อุทัยธานี กัญญาวีร์ หนูแก้ว, MT07 ชลบุรี อาทิติยา เบ็ญจะปัก, MT47 อำนาจเจริญ สุพรรษา วัฒนานุสิทธิ์, MT13 นครราชสีมา สุรารักษ์ เกียรติสูงเนิน, MT01 กรุงเทพมหานคร ณดาพัน แกมเงิน, MT23 พัทลุง อะราเบล่า สิตานัน เกรโกรี่, MT09 เชียงใหม่ ชนนิกานต์ สุพิทยาพร, MT35 สกลนคร มาริษา พลธิราช และ MT21 พระนครศรีอยุธยา กนกพร พยุงวงษ์ จากนั้นสาวงาม 11 คนสุดท้าย ได้เผยโฉมในรอบชุดราตรีที่สวยสง่า ทรงพลังสะกดทุกสายตา
ถึงเวลาทราบผลโค้งสุดท้ายของการประกาศผู้เข้ารอบ 5 คนสุดท้าย ได้แก่ MT21 พระนครศรีอยุธยา ฟ้า กนกพร พยุงวงษ์, MT09 เชียงใหม่ กานต์ ชนนิกานต์ สุพิทยาพร, MT47 อำนาจเจริญ แอ้ม สุพรรษา วัฒนานุสิทธิ์, MT23 พัทลุง เบลล่า อะราเบล่า สิตานัน เกรโกรี, MT35 สกลนคร กุ๊กกิ๊ก มาริษา พลธิราช โดยทั้ง 5 คน ได้แสดงไหวพริบปฏิภาณในการตอบคำถามกันอย่างเฉียบขาดในเวลา 30 วินาที

จากนั้นประกาศ 3 คนสุดท้ายว่าที่นางสาวไทย ได้แก่ MT23 พัทลุง เบลล่า อะราเบล่า สิตานัน เกรโกรี, MT35 สกลนคร กุ๊กกิ๊ก มาริษา พลธิราช, MT09 เชียงใหม่ กานต์ ชนนิกานต์ สุพิทยาพร ก่อนที่ทั้ง 3 สาวต้องตอบคำถามในคำถามเดียวกันเพื่อวัดกึ๋นว่าใครเหมาะจะมงฯ ลงที่สุด

หลังจากนั้นเบรกความตื่นเต้นด้วยการอำลาตำแหน่งของ “มานิตา ดวงคำ ฟาร์เมอร์” นางสาวไทย ประจำปี 2565 ซึ่งเจ้าตัวถึงกับน้ำตาคลอบนเวที

และแล้ววินาทีที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง เมื่อพิธีประกาศชื่อ MT09 เชียงใหม่ “กานต์ ชนนิกานต์ สุพิทยาพร” เป็นผู้ครองตำแหน่ง “นางสาวไทย คนที่ 54” ประจำปี 2566 จะได้รับรางวัลมงกุฎเกียรติยศ เงินสด 800,000 บาท และรางวัลอันทรงเกียรติอื่นๆ อีกมากมาย อีกทั้งเป็นตัวแทนหนึ่งเดียวไปประกวดเวทีระดับนานาชาติอย่าง “Miss World”
ขณะที่ MT35 สกลนคร “กุ๊กกิ๊ก มาริษา พลธิราช” คว้าตำแหน่งรองอันดับ 1

รองอันดับ 2 ได้แก่ MT23 พัทลุง เบลล่า อะราเบล่า สิตานัน เกรโกรี

รองอันดับ 3 นางสาวไทย ประจำปี 2566
MT21 พระนครศรีอยุธยา ฟ้า กนกพร พยุงวงษ์

รองอันดับ 4 นางสาวไทย ประจำปี 2566
MT47 อำนาจเจริญ แอ้ม สุพรรษา วัฒนานุสิทธิ์

โดย “กานต์ ชนนิกานต์ สุพิทยาพร” ได้นั่งเก้าอี้นางสาวไทย พร้อมกับรองทั้ง 4 ท่ามกลางการแสดงความยินดีจากบรรดาเพื่อนนางงามอย่างท้วมท้น

หลังจากนี้ นางสาวไทย คนที่ 54 ประจำปี 2566 จะร่วมปฏิบัติภารกิจสาธารณะกุศลมากมาย เพื่อเป็นตัวแทนหญิงไทยแห่งยุคสมัยใหม่ ในฐานะภูมิปัญญาแห่งอนาคต รวมถึงเป็นกระบอกเสียงให้กับสังคม ส่งเสริมและยกระดับการศึกษาให้คนไทยทุกคนได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐาน สนับสนุนทุนการศึกษาให้กับเด็กที่ด้อยโอกาสทางศึกษา และเป็นทูตวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวอีกด้วย

สำหรับการประกวดนางสาวไทย ประจำปี 2567 จังหวัดพระนครศรีอยุธยาจะเป็นเจ้าภาพในการจัดประกวด

โดยคำถามในรอบ 3 คนสุดท้าย ก็คือ อดีตประรานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา อย่าง บารัก โอบามาเคย กล่าวไว้ว่า “หากเราให้ผู้หญิงเป็นผู้บริหารประเทศมากกว่านี้ สงครามอาจเกิดขึ้นน้อยลง” ในฐานที่คุณเป็นผู้หญิงและพลเมืองโลกคนหนึ่ง คุณเห็นด้วยกับคำกล่าวนี้หรือไม่ เพราะเหตุใด?

ซึ่ง “กานต์ ชนนิกานต์” ได้ตอบคำถามได้จึ้งใจคนทั้งประเทศ จนปาดมงกุฏไปครอง
“กานต์เห็นด้วยค่ะ เพราะจากที่กานต์ได้เป็นนายกสโมสรระหว่างเรียนที่ ม.เชียงใหม่ มา กานต์ได้พิสูจน์แล้วว่า การที่ได้มีผู้หญิงขึ้นมาเป็นผู้นำ มันไม่ได้ผิดแปลกเลย เราสามารถใช้ความอ่อนโยน การสื่อสารของเราสามารถช่วยให้ปัญหาทุกอย่างจบลงได้ เพียงแค่เราต้อง put the right man on the right job ผู้หญิงก็สามารถทำได้เหมือนกันค่ะ”



















กำลังโหลดความคิดเห็น