...ชวนเปิดประสบการณ์เที่ยวทะเลรูปแบบใหม่ นั่ง เรือยอชต์ ท่องทะเลกระบี่ พร้อมชมพระอาทิตย์ตกกลางทะเลบริเวณ “เกาะดอ” มุมอันซีนกระบี่ที่ชื่ออย่างเสียว รูปทรงสุดสยิว แต่วิวอย่างสวย ซึ่งต้องไปให้ถูกช่วงจังหวะเวลา...
“กระบี่ อยู่ที่ใจ”
เป็นวาจาสุดคลาสสิกจากยุทธจักรนิยายกำลังภายใน
แต่สำหรับประเทศไทย “กระบี่ อยู่ที่ภาคใต้”ที่หลายคนรู้จักกันดีในนาม “กระบี่ เมืองน่าอยู่ ผู้คนน่ารัก”
กระบี่ เป็นหนึ่งในจังหวัดท่องเที่ยวมากเสน่ห์แห่งดินแดนด้ามขวาน ที่มีของดีขึ้นชื่อหลายอย่าง โดยเฉพาะ “ทะเลกระบี่” นั้น สวยงามโด่งดังระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น อ่าวมาหยา เกาะพีพี ทะเลแหวก อ่าวนาง หาดไร่เลย์ เกาะลันตา หรือ เกาะห้อง ที่ต่างเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวชั้นดี
อย่างไรก็ดีในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ระบาด การท่องเที่ยวและทะเลกระบี่ซบเซาลงไปพักใหญ่ (ตามสภาพการณ์ที่เป็นเหมือนกันทั่วโลก)
ครั้นเมื่อสถานการณ์โควิดคลี่คลาย การท่องเที่ยวทั่วโลกฟื้นคืน นักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติกลับมา การท่องเที่ยวไทยและการท่องเที่ยวในจังหวัดกระบี่ก็กลับมาคึกคักอีกครั้งหนึ่ง (แต่ผู้ประกอบการบางเจ้าก็ไม่ง้อคนไทยเช่นเดิม)
นั่งเรือยอชต์ ท่องทะเลกระบี่
ทุก ๆ ปี ยามสถานการณ์ปกติ ทะเลกระบี่ช่วงไฮซีซั่น หรือ ฤดูกาลท่องเที่ยว (ราวกลาง ต.ค.-กลาง พ.ค.) จากทะเลที่เคยเกรี้ยวกราดบ้าคลั่ง ได้เปลี่ยนโหมดมาเป็นสวยงามมากเสน่ห์ จากหาดทรายชายทะเลทอดตัวยาวขาวเนียนเดินแน่นนุ่มเท้า น้ำทะเลสวยใส ค่อย ๆ ไล่โทนจากสีเทอร์คอยซ์ในทะเลน้ำตื้น สู่สีเขียวมรกต และน้ำเงินเข้มในทะเลน้ำลึก ขณะที่โลกใต้ทะเลก็งดงามไปด้วยปะการังและฝูงปลาน้อยใหญ่หลากสีสัน
ท้องทะเลกระบี่ในช่วงไฮซีซั่นจึงเปรียบดัง “สวรรค์แห่งอันดามัน” ที่คึกคักคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยว บรรดาเรือน้อย-ใหญ่ พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวโจนทะยานออกสู่อันดามันอีกครั้ง
สำหรับหนึ่งในกิจกรรมเที่ยวทะเลกระบี่ (รวมถึงทะเลจังหวัดอื่น ๆ ในบ้านเรา) ที่กำลังมาแรง ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมาก็คือ “การนั่งเรือยอชต์” สุดหรู ท่องทะเลกระบี่แบบสุดฟิน
พูดถึงการนั่งเรือยอชต์ (รวมไปถึงเรือสำราญ) ในอดีตนี่คือกิจกรรมเฉพาะกลุ่มของพวกคนรวย ไฮโซ เศรษฐีมีเงินถุงเงินถัง แต่ปัจจุบันหาได้เป็นเช่นนั้นไม่ การนั่งเรือยอชต์เที่ยวทะเล แม้ภาพลักษณ์ยังคงดูหรูหราไฮโซ แต่ว่าในเรื่องของราคานั้นทางผู้ประกอบการได้ปรับรูปแบบ ปรับราคาลงมา พร้อมมีแพกเกจจัดโปรโมชั่นเพื่อขยายฐานลูกค้า ให้นักท่องเที่ยวทั่วไปสามารถเข้าถึงจับต้องได้ และมาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น
ดังนั้นใครที่กำลังมองหากิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟกับกลุ่มเพื่อนฝูง หรือผู้ที่อยากเปิดประสบการณ์แปลกใหม่ ชอบถ่ายรูปทำคอนเทนต์ลงโซเชียล การนั่งเรือยอชต์เที่ยวทะเลไทย สามารถตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี แถมราคาและแพกเกจของหลาย ๆ เจ้านั้นก็สมเหตุสมผล สมราคา ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมท่องเที่ยวทะเลไทยที่น่าสนใจไม่น้อยเลย
ยิ่งถ้าได้โปรโมชั่นเด็ด ๆ ล่องเรือยอชต์ชมทะเลสวย ๆ ท่ามกลางบรรยากาศสุดฟิน กับคนรัก คนรู้ใจ หรือกลุ่มเพื่อนสนิทมิตรสหายในแบบสุดเอ็กซ์คลูซีฟ หลายคนที่เคยผ่านประสบการณ์นี้มาแล้ว ต่างบอกว่ามันคุ้มค่าคุ้มราคากว่าการนั่งเรือท่องเที่ยวทั่วไปบางลำแล้วถูกผู้ประกอบการบางเจ้าเอาเปรียบเป็นไหน ๆ
เกาะดอ อันซีนกระบี่
ปัจจุบันกิจกรรมล่องเรือยอชต์เที่ยวทะเลกระบี่มีหลายแพกเกจ หลายโปรแกรม และหลายราคา ให้เลือกตามความต้องการของนักท่องเที่ยว รวมถึงขนาดความจุ และประเภทของเรือด้วย
หนึ่งในนั้นก็คือ แพกเกจล่องเรือชมพระอาทิตย์ตกกลางทะเลบริเวณ “เกาะสามเส้า” หรือ “ทะเลแหวก" อันลือลั่น ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางล่องเรือยอดนิยมของจังหวัดกระบี่
สำหรับในทริปนี้คณะเราประมาณ เกือบ 20 คน เลือกใช้บริการล่องเรือยอชต์ “คาตามารัน” สุดหรู (รุ่นกางใบได้) ของบริษัททัวร์ล่องเรือยอชต์เจ้าดังแห่งหนึ่งในกระบี่ ที่มาจอดเทียบท่ารออยู่ที่ท่าเรือ “พอร์ตตะโกลา” หรือ Port Takola Yacht Marina (บ้านแหลมโพธิ์ ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่) ที่เป็นอีกหนึ่งท่าเรือยอชต์อันโดดเด่นของ จ.กระบี่ มีเรือยอชต์สุดหรู ลำน้อย-ใหญ่ จอดเรียงรายดูน่าตื่นตาตื่นใจ
จากนั้นพวกเราทยอยขึ้นเรือยอร์ตหรู 2 ชั้น ตามเวลานัดแล้วมุ่งหน้าออกสู่ทะเลกระบี่ท่ามกลางแสงแดดยามบ่ายแก่ ๆ ที่ยังคงร้อนแรง
เมื่อออกสู่ปากอ่าว เรือของเราได้กางใบและเก็บผ้าใบกันแดด เพื่อเปิดมุมมองให้ชมทัศนียภาพของท้องทะเลกระบี่ ที่เมื่อมองเข้าไปบนแผ่นดินจะเห็นแนวชายหาดและภูเขาหินปูนน้อย-ใหญ่ขึ้นเรียงรายดูสวยงามเป็นเอกลักษณ์
จากนั้นเรือได้ไปลอยลำกลางทะเลแวะให้เราชมจุดไฮไลท์แรก “หาดไร่เลย์” ที่เป็นอีกหนึ่งหาดชื่อดังของกระบี่ นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมมาทำกิจกรรมปีนผากันที่นี่
ถัดเลยไปหน่อยจะเป็น “อ่าวถ้ำพระนาง” ที่มีเกาะรังนกอยู่ด้านหน้า มีหาดถ้ำพระนางทอดตัวเป็นแนวยาวสวยงามเดินนุ่มเท้า และ “ถ้ำพระนาง” อีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวสายมูริมทะเล
ถ้ำพระนางเป็นโพรงถ้ำในผาหินปูนริมทะเล ภายในถ้ำมี “ศาลพระนาง” ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องการขอพรด้านความรัก คู่ครอง และขอลูก หากใครที่ขอพรสำเร็จก็มักจะนำ “ปลัดขิก” ขนาดน้อย-ใหญ่ มาถวายแก้บน จนกลายเป็นภาพจำและสัญลักษณ์ของถ้ำแห่งนี้ไปโดยปริยาย
ขณะที่บริเวณเวิ้งอ่าวพระนางที่เป็นทะเลน้ำตื้นใกล้ชายฝั่งนั้น จะเป็นจุดให้นักท่องเที่ยวได้ลงเล่นน้ำ ดำน้ำดูปะการัง หรือพายคยักเล่นอย่างเพลิดเพลิน
ต่อจากนั้นเรือจะมุ่งหน้าสู่กลางทะเลกระบี่เพื่อชมไฮไลท์จุดต่อไป คือ “เกาะปอดะ” ที่มีแนวชายหาดทอดยาว มีนักท่องเที่ยวนั่งเรือมาเฝ้ารอชมพระอาทิตย์ตกกลางทะเลกับภูเขาหินรูปเรือใบ สัญลักษณ์อันโดดเด่นของเกาะปอดะแห่งนี้
แล้วเรือยอชต์ก็ล่องมาจอดลอยบริเวณ “ทะเลแหวก” หรือ “เกาะสามเส้า” อันซีนไทยแลนด์ ที่ประกอบด้วย เกาะไก่ หรือเกาะหัวขวาน เกาะทับ และเกาะหม้อ ซึ่งเป็นไฮไลท์สำคัญของทริปล่องเรือชมพระอาทิตย์ตกกลางทะเลกระบี่ ตรงช่วงหัวเกาะไก่ และทะเลแหวกเกาะทับเกาะหม้อ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องขึ้นกับสภาพอากาศ กระแสลม กระแสน้ำ ในวันนั้น ๆ รวมถึงองศาทิศทางพระอาทิตย์ตกในช่วงเวลาของเดือนนั้น ๆ
สำหรับในทริปนี้ด้วยกระแสน้ำ กระแสลม และทิศทางตกของดวงอาทิตย์ ทำให้เรือไม่สามารถลอยชมพระอาทิตย์ตกที่ระหว่างหัวเกาะไก่กับทะเลแหวกได้ แต่จำเป็นต้องไปลอยเรือชมพระอาทิตย์ตกทางทิศตะวันตกของเกาะสามเส้าแทน
จากจุดนี้เมื่อมองออกไปจะเห็นกลุ่มเกาะเล็ก ๆ 2-3 เกาะ โดยเกาะลูกหนึ่งมีรูปทรงค่อนข้างประหลาด เป็นจะงอยแท่งหินแหลมยื่นทิ่มโดดออกมาจากหมู่เพื่อน ๆ ชวนให้ผู้พบเห็นจินตนาการไปต่าง ๆ นานา ไม่ว่าจะเป็น หัวงู หัวเต่า แต่สุดท้ายพี่ไกด์ของเราได้มาเฉลยให้คำตอบว่า เกาะหินแหลมลูกนี้ คนในพื้นที่เรียกว่า “เกาะดอ” เพราะลักษณะของแท่งหินแหลมที่ยื่นขึ้นมาคนในพื้นที่จินตนาการเป็นอวัยวะของเพศชาย ซึ่งหลายคนบนเรือของเราเมื่อได้รับคำตอบของชื่อเกาะนี้ก็ร้องอ๋อ..ไปตาม ๆ กัน
เกาะดอหากไปถูกช่วงจังหวะเวลา จะเห็นพระอาทิตย์ดวงกลมโตตกกลางทะเล โดยมีเกาะดอเป็นไฮไลท์อยู่ด้านหน้า ส่วนฉากหลังเป็นแนวเกาะยาวใหญ่ ของจังหวัดพังงาทอดตัวตั้งตระหง่าน ดูสวยงามเป็นเอกลักษณ์ไม่น้อย
เกาะดอถือเป็น “อันซีนกระบี่” น้องใหม่ ที่วันนี้คนยังรู้จักไม่มาก จะมีก็แต่คนในพื้นที่ ชาวประมง และผู้ที่ล่องเรือในแถบนั้น ซึ่งจากการสอบถามพี่ไกด์บนเรือ วันนี้เกาะดอยังไม่มีตำนานเรื่องเล่าขาน แต่ถ้าดังแล้ว ไม่แน่อาจมีตำนานสตอรี่ เป็นกิมมิกดึงดูดนักท่องเที่ยวตามมา ตามสไตล์การท่องเที่ยวแบบไทย ๆ
และนี่ก็คือมนต์เสน่ห์ของจังหวัดกระบี่ กับนั่ง เรือยอชต์ ล่องทะเลชมพระอาทิตย์ตกกลางอันดามัน กับอันซีนทะเลกระบี่ ที่หากไปถูกจังหวะเวลาก็จะได้พบกับบรรยากาศและภาพจำอันสวยงามสมดัง “สวรรค์แห่งอันดามัน” ที่เหล่าคนรักทะเลจำนวนมากต่างถวิลหา
##############################
สำหรับผู้สนใจนั่งเรือยอชต์เที่ยวทะเลกระบี่ รวมถึงต้องการสอบถามข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร ในจังหวัดกระบี่ได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกระบี่ โทร. 0-7562-2163, 0-7561-2811-2
