“กระแต อาร์สยาม” ไม่แปลกใจโดนด่าท่าแหกกีพีระมิด แต่ยันเซฟสุดชีวิตแล้ว ไม่มีอะไรแพลมแน่นอน เชิดใส่คนด่า เพราะมีคนที่ชอบด้วย ชี้มนุษย์ชอบเสพงานแบบนี้ เผยสร้างบ้านเกือบ 3 ปี บานปลายไปเกือบ 100 ล้านแล้ว ยันไม่ได้ทำเพื่ออวดรวย แต่ขอทำตามความฝันตัวเอง อดีตไม่เคยมี แต่ถ้าหมั่นไส้ว่าอีนี่รวยก็ขอโทษด้วย
ไม่ว่าจะกระดิกตัวทำอะไรก็โดนแซะ โดนด่าซะทุกอย่าง สำหรับนักร้องสาว “กระแต อาร์สยาม”หรือ แตร บุญยะเลี้ยงที่ตอนนี้กำลังเป็นที่พูดถึงในเพลง Awake ที่เจ้าตัวทุ่มงบเองหลักล้านเพื่อเป็นเพลงโปรโมตลิปสติกสีใหม่ของตัวเอง โดยเฉพาะกับท่า แหกกีพีระมิด ที่ถูกวิจารณ์สนั่นเมือง แซะยับไม่เหมาะสม อยากจะหนีความเป็นลูกทุ่ง
ซึ่งล่าสุดสาวกระแตได้มาเผยความรู้สึกถึงเรื่องกระแสต่างๆ ในงานเปิดตัว “ลิปยิปซี”ณ EVEANDBOY สาขา เมกา บางนา เจ้าตัวยอมรับว่าเห็นศิลปินต่างประเทศใส่ชุดแบบนี้แล้วดูสวย มั่นใจ ตนก็อยากใส่บ้าง แต่ก็เซฟสุดๆ แล้วเหมือนกัน
“เอ็มวีตัวล่าสุดชื่อเพลงว่า Awake ที่แปลว่าตื่นหรือฟื้นขึ้นมา ซึ่งหลายคนคาดหวังว่ามันเป็นเพลงเต็มของเรา แต่ว่าจริงๆ มันคือเพลงเปิดตัวสินค้าลิปทองคำสักปาก เอ็มวีเพลงนี้ลงทุนเยอะมาก ด้วยความที่เราเป็นนักร้องและทำแบรนด์เครื่องสำอางด้วย เลยรู้สึกว่าก็ต้องทำเพลงเปิดตัวโฆษณา ซึ่งมันน่าจะเข้ากับตัวเองและเราก็ถนัดในเรื่องแบบนี้ด้วย เพลงนี้ก็เลยลงทุนเป็นล้านเลยแต่ทุกคนก็งอแงมากบอกว่าเราแกง เพราะความยาวมันแค่นาทีกว่า ไม่ได้แกง เพราะเดี๋ยวจะมีเพลงเดี่ยวจัดเต็มแน่นอน
ส่วนชุดอันคัต คือด้วยความที่เราเห็นแม่บี (บียอนเซ่) รวมถึงนักร้องฝรั่งคนอื่นใส่กัน เราก็รู้สึกว่าใส่แล้วมันดูเฟียส ดูมั่น ดูสตรอง เลยรู้สึกอยากใส่บ้างแค่นั้นเอง เรียกว่าเป็นคอนเซ็ปต์ที่ไม่รู้ว่าจะโป๊ไหม ถ้าคนจะมองว่าโป๊ก็โป๊ แต่สำหรับเรารู้สึกว่าเริ่มชินแล้ว และเราก็เสพงานต่างชาติ ซึ่งเขาก็ใส่กันแบบนี้เป็นปกติและมันอยู่ในจอ แต่ถ้าเดินตลาด เราก็ไม่ใส่แบบนั้นอยู่แล้วเราเซฟตี้หนักมากนะคะ คือถ้าเกิดไม่เซฟจะไม่มั่นใจเลย เวลาเต้นจะกลัวโผล่ แต่อันนี้เราเต้นด้วยความมั่นใจ เพราะว่าเซฟหนักมาก ไม่เห็นแน่นอน คือเราจะใส่เป็นชั้นในที่แนบเนื้อ แต่มันเป็นสีเนื้อที่มองไกลๆ แล้วมองไม่ออกและเข้ากับสีผิวเดียวกับเราเลย นอกจากนี้ยังมีอีกหลายตัวที่เย็บติด เอาเป็นว่าถ้าเย็บติดหนังได้เย็บไปแล้ว (หัวเราะ)”
ทำใจไว้แล้วท่าเต้น “แหกกีพีระมิด” โดนด่าแน่นอน
“เรียกว่ามันเป็นท่า แหกกีพีระมิด จริงๆ ถามว่าตั้งใจให้เป็นกระแสไหม เราก็พูดตรงๆ เพราะเราทำธุรกิจวงการบันเทิงแล้วเพลงมันก็สั้นแค่นาทีกว่า ดังนั้นเราก็ต้องหาอะไรที่เป็นกิมมิก ก็คิดว่าฉันจะเอาท่าไหนดี เลยได้ท่านี้มาแต่ก็ไม่กล้าชวนทุกคนทำ เพราะกลัวคอหัก (หัวเราะ) ถ้าจะบอกว่ามันเกินงามไปไหม อาจจะเป็นเพราะว่าชุดไง ถ้าเกิดว่าเราใส่ขายาวก็อาจจะไม่โดน แต่ครั้งนี้มันตัดมาแค่ 2 ชุด ก็มีแค่นั้น แล้วก็ให้คนตัดดูแล้วว่ามันมีท่านี้นะ เราจะใส่ชุดนี้เต้นจริงๆ เหรอ แต่ก็ต้องใส่เพราะเราไม่มีการฟิตติ้งใดๆ
จริงๆ ทำใจอยู่แล้ว เรารู้หมดแหละว่าทำแบบนี้ต้องโดนด่าแน่ๆ พูดง่ายๆ ว่าในวงการบันเทิงก็เป็นธุรกิจตัวหนึ่ง พอเรามาเป็นนักธุรกิจเรารู้ว่ากลุ่มเป้าหมายเราคือใคร คนชอบแบบไหน เวลาเราลงรูปทำบุญนุ่งขาวห่มขาว คนกดไลก์อยู่ 200 พอเราใส่ชุดแบบนี้คนกดไลก์ 2 แสน เพราะฉะนั้นมนุษย์ทุกคนชอบเสพผลงานอะไรแบบนี้ เราอยู่ในวงการบันเทิงธุรกิจเราก็ต้องทำเอาใจทุกคน สุดท้ายจะโดนว่า โดนด่าก็ต้องยอมรับมัน
แต่เราไม่ได้รู้สึกท้อแท้หรือเสียใจ เพราะเข้าใจ เรียกว่าทำอะไรได้แบบนั้น ถ้าเราแต่งตัวเรียบร้อยเขาก็ไม่ว่าเรา แต่พอเราแต่งตัวแบบนี้เขาว่าเราแน่ๆ แต่จะเข้าใจหรือไม่เข้าใจอันนี้ยากมากที่จะไปอธิบายให้ทุกคนเข้าใจ คนเข้าใจก็จะรู้ว่านี่คืองาน แต่คนที่ไม่เข้าใจก็จะด่าหนักมาก ดูไม่แพง ไม่สวย ไม่มีคุณค่า”
บอก “ผึ้ง พุ่มพวง ดวงจันทร์” ก็เป็นคนนำเทรนด์สากลเข้ามา ตนก็อยากทำอย่างนั้นบ้าง
“เคยบอกเขาว่าเราเหมือนเป็นตัวแทนผู้หญิงยุคใหม่ เดี๋ยวนี้ผู้หญิงมีความมั่นใจมากขึ้น ใส่ชุดว่ายน้ำใส่อะไรก็อยากจะอวดความพยายาม กว่าเราจะได้หุ่นแบบนี้ไม่ได้นั่งเฉยๆ เราเหนื่อยเราออกกำลังกาย บางคนก็จะดูถูกว่าผู้หญิงแต่งตัวแบบนี้ไม่มีคุณค่า ก็ไม่อยากให้เอาบรรทัดฐานของตัวเองไปวัดคุณค่าคนอื่น แต่ละคนมันมีความชอบไม่เหมือนกันถ้าคุณชอบแต่งตัวเป็นแบบผู้หญิงไทยกุลสตรีไทยอันนั้นคือเรื่องที่ดี แต่คนนี้ไม่ได้จริงๆ ไม่ถนัด เพราะเป็นคนที่รู้สึกว่าชอบที่จะพรีเซนต์ตัวเอง (หัวเราะ)
ที่คนบอกว่าสุดท้ายก็หนีไม่พ้นลูกทุ่ง อันนี้พอเห็นปุ๊บเราก็รู้สึกว่าลูกทุ่งแล้วมันยังไงเหรอ แล้วก็ไปนึกถึงตอนแม่ผึ้ง ที่บอกตลอดว่าคนชอบดูถูกลูกทุ่ง ว่าเชยบ้านนอก แม่เลยจะเป็นคนที่นำเทรนด์สากลเข้ามา ในสมัยนั้นแม่ผึ้งก็เป็นยุคบุกเบิก เราก็รู้สึกว่าเราก็เป็นลูกทุ่งคนหนึ่งที่ก็อยากมีความอินเตอร์แล้วอยากเอาความเป็นสากลมายกระดับลูกทุ่งเหมือนกัน แต่สุดท้ายพอเราจะสากลจะอะไรก็ตาม เลือดเราเป็นลูกทุ่ง ฉะนั้นมีความลูกทุ่งมันก็น่ารักนะ แต่ไม่ได้รู้สึกว่าเจ็บจังเลยโดนด่าลูกทุ่ง ก็ฉันเป็นลูกทุ่ง ฉันมีกิน มีทุกวันนี้ก็เพราะลูกทุ่ง แต่ฉันรู้สึกว่าจะร้องลูกทุ่งแบบแนวเดียวไปตลอดมันก็น่าเบื่อเนอะ
เราอยากจะอัปเกรดความเป็นลูกทุ่่งให้มันดูอินเตอร์ขึ้น เพราะทุกวันนี้ยังไงคนก็ยังมองกระแตเป็นลูกทุ่ง ต่อให้กระแต อาร์สยามจะยังไง อย่างเพลง Awake หนูร้องสากลทั้งเพลงเลยนะ ภาษาอังกฤษหมดเลย คนก็ยังบอกสรุปนางยังเป็นนักร้องลูกทุ่งอยู่ไหม คือคนก็ยังจำเราในภาพลูกทุ่ง แต่ไม่เป็นไรค่ะ เพราะคนไม่ได้ติดตามเราทุกคน คนที่ติดตามเราจริงๆ จะรู้ว่าเรามีหลายแนว แรป สตริง ลูกทุ่ง สากล ได้หมด เป็นคนที่ทำได้ทุกอย่าง”
บอกไม่คิดฟ้องให้เสียเวลา เอาไปไลฟ์สดขายของดีกว่า
“ด่าได้ด่ามาเลย ไม่ฟ้องด้วย มีคนบอกให้ฟ้องเลย แต่หนูว่ามันเสียเวลา ต้องไปหาทนาย ไปขึ้นศาล สุดท้ายไม่ได้เงิน ยกกระเช้า ยกมือขอโทษ มันเสียเวลาชีวิตเรา เราไปไลฟ์ขายของดีกว่า เพราะในมุมของเราที่ออกมาไม่ถึง 1 นาที มันประสบความสำเร็จกับธุรกิจเรามากนะคะ ด้วยความที่เราทำธุรกิจเครื่องสำอางและเป็นนักร้องด้วย ก็ทำให้มาเชื่อมกันเพื่อให้มันเกิดกระแส ในวงการมันต้องมีกระแสอยู่แล้ว จะมากจะน้อยก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยมีกระแสก็ดีใจ แต่อยากให้ทุกคนมองเห็นถึงความตั้งใจในเรื่องของการทำเพลง โปรดักชั่น แสง สี เสียง ทุกอย่างมันไม่ใช่แค่ถ่ายเสร็จกลับบ้านนะ มันมีการคิด มีกระบวนการหลายอย่างกว่าจะได้
ทีมงานก็เหนื่อยมาก ก็เลยอยากให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้กับพวกเราและทีมงาน ช่วยแชร์ อย่างน้อยทีมงานจะได้หายเหนื่อยกัน เพราะว่าถ่ายกันเหนื่อยมาก ซ้อมเต้นกันเยอะ ก็คิดว่าน่าจะถูกใจสำหรับวัยรุ่น เขาเรียกว่าวัย Gen C (หัวเราะ) ยุคใหม่ก็จะบอกว่าแซบ ชอบ คนชอบก็ชอบ คนไม่ชอบก็ด่าๆ ก็จะมีสองประเภท ซึ่งเราเข้าใจหมดเลย เราเข้าใจหมดเลย เรารับได้ คนที่ไม่เข้าใจ คนที่เขาไม่ชอบ ก็ไม่ผิด เพราะเขาไม่ชอบ แต่คนชอบก็สรรเสริญ (หัวเราะ)”
ยอมรับว่าอวด แต่ไม่ได้อวดรวย เพราะตนไม่ได้เกิดมารวย แต่ถ้าหมั่นไส้ว่าอีนี่รวยก็ขอโทษด้วย
“ก็ปกติค่ะ เราก็แค่ยอมรับว่ามันเป็นเรื่องจริง เราก็อวดจริงๆ คนไม่เคยมี เราก็บอกว่าเราไม่เคยมี เราไม่ได้เกิดมาจากตระกูลที่เขามีแล้วรวยเลย เราเกิดมาจากศูนย์ เราเป็นเด็กบ้านนอกตัวดำๆ เข้ากรุง สู้ชีวิต ฝ่าฟันทุกอย่าง จนเรามีด้วยตัวเอง ด้วยลำแข้ง
เราเลยรู้สึกอยากเป็นกำลังใจให้กับคนที่เหมือนหนู มีความฝันเหมือนกัน วันนึงเราทำความฝันเราสำเร็จ เราก็อยากแชร์สิ่งดีๆ อยากให้ทุกคนเห็นว่าเราสำเร็จจริงนะ แต่ถ้าจะมองว่าเราอวดก็อวด แต่เราไม่ได้รู้สึกว่าฉันรวย ฉันอวดบ้าน ไม่ได้รู้สึกอย่างนั้น แต่หนูรู้สึกว่าหนูอยากให้ทุกคนเห็นว่าหนูทำได้ ให้ทุกคนเห็นฉันประสบความสำเร็จนะ กับความสู้ ความอดทน ความพยายามอย่าหยุด อย่าย้อท้อ
บ้านถามว่าบานปลายไปเท่าไหร่แล้ว (หัวเราะ) ตอนนี้ไม่ได้นับเลย แต่ว่าไม่ได้ทำทีเดียวนะคะ ทำมาจะ 3 ปีแล้ว ค่อยๆ ทำทีละห้อง มีก็เอาไปโปะ รวมๆ กันก็น่าจะเกือบๆ 100 ล้านแล้ว ตอนนี้เหลือด้านนอกจะเป็นเทวาลัย ยังไม่เสร็จค่ะ (หัวเราะ) ทำยากด้วย แล้วเขาแกะสลักทั้งห้องเลย อยากให้ทุกคนเห็นห้องนี้มาก น่าจะชอบกันสำหรับสายมูนะคะ ด้านนอกก็จะมีตกแต่งสวน มีสระว่ายน้ำ ก็ค่อยๆ ทำ แต่ด้านในเริ่มเสร็จหมดแล้ว ก็เลยเริ่มเปิดให้ทุกคนเห็นกัน น่าจะมีอีกหลาย EP. ต้องอวดอีกหลาย EP. เลย (หัวเราะ) ก็ให้ทำใจไว้ก่อนเลย ถ้าดูแล้วรู้สึกมีแรงบันดาลใจก็ดีใจ แต่ถ้าดูแล้วรู้สึกว่าหมั่นไส้ อีนี่มันอวดรวย ก็ขอโทษด้วย (หัวเราะ)”
เผยอยากเป็นแรงบันดาลใจให้คนที่มีฝัน อย่าท้อถอย
“กระแตว่าไป 70 แล้วนะ อีก 30 ก็คือเทวาลัย สระว่ายน้ำ สวน มันมีดีเทลเยอะ อย่างอ่างอาบน้ำมันก็ 7 หลัก แต่ที่ทุบทิ้งก็หลายบาทเลย ก็เป็นอุทาหรณ์ให้สำหรับคนที่กำลังทำบ้าน หรืออนาคตจะทำบ้าน ใจเย็นๆ สุดๆ นะ อย่ารีบเลย เพราะพอเรารีบ มันไม่ถูกใจก็ต้องแก้ ซึ่งเป็นทุกคนแน่ๆ ถ้าจะให้บอกฝากถึงทุกคนที่มีความฝันนะคะ หนูว่าต้องมีเป้าหมายชัดเจน กระแตเป็นคนมีเป้าหมายว่าฉันจะเป็นศิลปิน ฉันจะเป็นนักร้อง เราจะหาทางเลย ฉันจะต้องฝึก ฉันจะต้องร้อง ฉันจะต้องทำทุกอย่างมากกว่าคนอื่น เพื่อที่จะให้ตัวเองเด่น ให้ตัวเองเข้าไปสู่วงการนั้น
และพอเราได้เป็นนักร้องแล้วมันก็อยู่เฉยๆ ไม่ได้ ต้องพัฒนาและฝึกฝนสร้างผลงาน ทำทุกอย่างตลอดเวลา ทุกคนสามารถเป็นได้ในสิ่งที่ตัวเองฝัน แต่อย่าเพิ่งพูดว่าไม่ได้ ฉันเป็นไม่ได้ ฉันทำไม่ได้หรอก คำว่าไม่ มันจะขวางเราเลย แต่ถ้าคุณสั่งตัวเองว่าฉันจะทำได้ ฉันต้องทำได้ มันจะหาแนว หาทางทำให้สำเร็จเอง เพราะฉะนั้นลองก่อน อย่าเพิ่งพูดว่าไม่ ชีวิตคนเรามันมีมือมีเท้าเท่ากัน โอกาสมีเท่ากันเชื่อแต ถ้าใครไม่สามารถหาโอกาสได้ สร้างโอกาสให้ตัวเอง สร้างมูลค่าให้ตัวเอง แล้วไปสู้กัน บอกเลยว่าความสำเร็จในชีวิตเกิดขึ้นได้แน่นอน ห้ามท้อ”