ชุมพร - หาเสียงเลือกตั้ง ส.ส.ชุมพร โค้งสุดท้ายร้อนระอุ ผู้สมัครลงพื้นที่หาเสียงกันคึกคัก อีกไม่กี่วันชี้วัดบารมี “บ้านใหญ่” ใครใหญ่จริงต้องมาวัด ขณะกระแส กระสุน การแข่งแย่งประมูลทุ่มซื้อเสียงก็มีหนาหู
สำหรับการเลือกตั้ง ส.ส. จังหวัดชุมพร ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ ในส่วนของจังหวัดชุมพร แบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส.เป็น 3 เขตเลือกตั้ง การหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้ายเป็นไปอย่างเข้มข้น ในขณะที่กระแส กระสุนการแข่งแย่งประมูลทุ่มซื้อเสียงก็มีหนาหูตามมาด้วยเช่นกัน
สำหรับเขตเลือกตั้งที่ 1 มีพื้นที่อำเภอเมืองชุมพร (ยกเว้นตำบลบางลึก ตำบลหาดพันไกร ตำบลบ้านนา ตำบลวังใหม่ ตำบลขุนกระทิง) อำเภอสวี (ยกเว้นตำบลเขาทะลุ ตำบลเขาค่าย)
สนามเลือกตั้งชุมพร เขต 1 เป็นศึกศักดิ์ศรีของ 2 บ้านใหญ่คนกันเอง ระหว่างบ้านใหญ่ "โกหีต" นายอำไพ มากอำไพ บิดาของ "ส.ส.ตาร์ท" นายอิสรพงษ์ มากอำไพ อดีต ส.ส.ชุมพร เขต 1 แชมป์เก่าค่ายประชาธิปัตย์ มาครั้งนี้ยังลงสมัครสังกัดพรรคเดิมได้เบอร์ 11 "ส.ส.ตาร์ท" ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหน คือ หลานภรรยาของบ้านใหญ่ "ลูกหมี" นายชุมพล จุลใส อดีต ส.ส.ชุมพร เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ นั่นเอง ซึ่งทั้ง 2 บ้านใหญ่มีรั้วกำแพงบ้านอยู่ชิดติดกันอีกด้วย
สนามเลือกตั้งชุมพร เขต 1 ครั้งนี้เป็นศึกระหว่าง "โกหีต-ลูกหมี" ที่ต้องตัดความเป็นเครือญาติทิ้งไปก่อน เมื่อบ้านใหญ่ "ลูกหมี" เปลี่ยนขั้วทิ้งพรรคประชาธิปัตย์ไปอยู่ค่าย "ลุงตู่" พล อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรครวมไทยสร้างชาติ "ลูกหมี" ส่งมือขวาที่เปรียบเสมือนเป็นเงาตามตัวและเป็นนักพูด นักไฮปาร์กบนเวทีการเมืองฝีปากกล้า นั่นคือ "ส.จ.ชัย" นายวิชัย สุดสวาสดิ์ อดีต ส.อบจ.ชุมพร หลายสมัย ลงสมัคร ส.ส.ได้เบอร์ 12 สังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ
ชุมพร เขต 1 "ลูกหมี" ทุ่มเทสุดตัวหวังทวงเอาเก้าอี้ ส.ส.คืนจาก "ส.ส.ตาร์ท" หลานภรรยา แห่งบ้านใหญ่ "โกหีต" ที่ไม่ยอมย้ายค่ายตาม ยังคงยึดมั่นปักหลักอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์เหมือนเดิม หลังจากที่ตนเองส่งลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อมแทนตัวเอง ที่ถูกศาลพิพากษาจำคุกและถูกตัดสิทธิทางการเมือง จากกรณีเป็นหนึ่งในแกนนำ กปปส.ชุมนุมขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในยุคนั้น
ศึกเลือกตั้งชุมพร เขต 1 ระหว่าง 2 บ้านใหญ่ ยังไม่สามารถชี้ขาดได้ใครจะเข้าวิน เพราะระหว่างบ้านใหญ่ "โกหีต" ค่ายพรรคประชาธิปัตย์ กับบ้านใหญ่ "ลูกหมี" ค่ายพรรครวมไทยสร้างชาติ ทั้งสองฝ่ายมีกระสุนหนาด้วยกันทั้งคู่ มีทั้งขุมกำลังสนับสนุนพร้อมที่จะออกมารวมพลได้ทันทีเมื่อถึงเวลา ถือว่าบ้านใหญ่ 2 ค่ายนี้รู้ชั้นเชิง รู้เล่ห์เหลี่ยมทางการเมืองกันเป็นอย่างดี จึงกินกันยาก ต้องวัดกันด้วยภาพถ่ายในช่วงนาทีสุดท้ายก่อนทะยานเข้าสู่เส้นชัย
ขณะที่ยังมีตัวแปรสำคัญอีกคนที่ประมาทไม่ได้นั่นคือ "นายกโท้ง" นายสุรชัย แดงละอุ่น อดีตนายก อบต.สวี หลายสมัย อดีตกำนันตำบลปากแพรก อดีตประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านชุมพร ผู้สมัครเบอร์ 7 ของค่าย "ลุงป้อม" พล อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พรรคพลังประชารัฐ
"นายกโท้ง" "โกหีต" "ลูกหมี" บ้านใหญ่ 3 ค่ายนี้เป็นที่รู้กันทั่วไปทั้งจังหวัดชุมพร ว่าทั้ง 3 คนเป็นเพื่อนซี้ เพื่อนสนิท เพื่อนร่วมก๊วน เพื่อนร่วมวงเฮฮาปาร์ตี้กันมาตลอด แต่สนามเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งนี้ บ้านใหญ่ทั้ง 3 คน ต้องหยุดความเป็นเพื่อนซี้กันไว้ก่อน
เหลืออีกไม่กี่วันต้องติดตามดูกันว่า หัวหน้าบ้านใหญ่ทั้ง 3 คน ที่มีฐานเสียงหลักอยู่ในกลุ่มเดียวกัน ซึ่งประมาทกันไม่ได้เลย อีกไม่นานคงรู้กันว่าใคร "บ้านใหญ่" ตัวจริง
ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 2 สนามเลือกตั้งเขต 2 ชุมพร มีพื้นที่อำเภอท่าแซะ อำเภอปะทิว และตำบลบางลึก ตำบลหาดพันไกร ตำบลบ้านนา ตำบลวังใหม่ ตำบลขุนกระทิง ของอำเภอเมืองชุมพร ชุมพร เขต 2 เป็นศึกบ้านใหญ่ "ตระกูลอ่อนละมัย" แชมป์เก่าเจ้าของตำแหน่ง ส.ส.หลายสมัยจากพรรคประชาธิปัตย์ ที่ยังไม่มีใครโค่นล้มได้ นั่นคือ "ส.ส.เอก" นายสราวุธ อ่อนละมัย บุตรชาย นายศิริศักดิ์ อ่อนละมัย อดีต ส.ส.ชุมพร หลายสมัย ซึ่งสมัยนี้กระแสพรรคดูจะแผ่วไปมาก เลยต้องขยันมากกว่าเดิม
ส่วนคู่แข่งผู้ท้าชนแชมป์ในสนามเขต 2 นี้คือ "รองสันต์" นายสันต์ แซ่ตั้ง อดีต ส.อบจ.ชุมพร หลายสมัย และอดีตรองนายก อบจ.ชุมพร ที่ลาออกมาลงสมัคร ส.ส.ครั้งนี้ ในสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ เบอร์ 12 "รองสันต์" ถือเป็นมือขวาคนสนิทข้างกายของ "ลูกหมี" นายชุมพล จุลใส ที่ได้รับการสนับสนุนให้ลงชิงเก้าอี้ ส.ส. ทั้งกระแสชื่อเสียงถือว่ามีสิทธิล้มแชมป์ได้เช่นกัน
คู่แข่งอีกคนที่มาแรงแซงทางโค้ง กระแสดีวันดีคืน นั่นคือ "ทนายลิขิต" นายลิขิต ศรีชาติ เบอร์ 6 พรรคชาติพัฒนากล้า ของนายกรณ์ จาติกวณิช นักเศรษฐกิจ ฉายา "ขุนคลังโลก" "นายลิขิต" เป็นทั้งทนายความและนักการเมือง คลุกคลีอยู่กับชาวบ้านมานานกว่า 20 ปี ดีกรีทางการเมืองถือว่าไม่ธรรมดา เป็นอดีตนายก อบต.หินแก้ว 2 สมัย อดีต ส.อบจ.ชุมพร อีกหลายสมัย และเป็นอดีตรองนายก อบจ.ชุมพร ก่อนเข้าสู่สนามเลือกตั้งระดับประเทศ สังกัดพรรคชาติพัฒนากล้า ในครั้งนี้
เขตเลือกตั้งที่ 2 นี้ จากการลงพื้นที่ติดตามกระแสก่อนลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ผู้สมัครทั้ง 3 คน จาก 3 พรรค ถือเป็นตัวเก็ง ตัวเลือก ที่ชาวบ้านจะตัดสินใจในวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 นี้
ขณะที่เขตเลือกตั้งที่ 3 มีพื้นที่อำเภอหลังสวน อำเภอทุ่งตะโก อำเภอละแม อำเภอพะโต๊ะ และตำบลเขาค่าย ตำบลเขาทะลุ ของอำเภอสวี สนามเลือกตั้งชุมพร เขต 3 แชมป์เก่าจากพรรครวมพลังประชาชาติไทยของ "ลุงกำนัน" คือ นายสุพล จุลใส หรือ "ส.ส.ลูกช้าง" เลือกตั้งหนนี้ได้ไฟเขียวย้ายค่ายมาอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้เบอร์ 9 "ลูกช้าง" ลงสู่สนามการเมืองระดับประเทศมีแรงหนุนปูทางมาจากน้องชายคือ "ลูกหมี" นายชุมพล จุลใส นั่นเอง สมัยที่ผ่านมา "ลูกช้าง" เอาชนะแชมป์เก่าผูกขาดจากพรรคประชาธิปัตย์มาได้แบบถล่มทลาย
เลือกตั้งครั้งนี้ คู่แข่งของ "ส.ส.ลูกช้าง" คือ นายมีศักดิ์ ภัคดีคง หรือ "หลวงเขล้ง" อดีตอธิบดีกรมประมง ที่เพิ่งเกษียณมาหมาดๆ "ภัคดีคง" ถือเป็นตระกูลใหญ่ พวกพ้องมากในพื้นที่ และถือว่าเป็นคนสนิทใกล้ชิดของ "พี่ต่อ" นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ "หลวงเขล้ง" ลงสมัครสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ได้หมายเลข 1 เรียกได้ว่า "พี่ต่อ" ส่ง "หลวงเขล้ง" มาทวงเก่าอี้ ส.ส. คืนนั่นเอง
สนามเลือกตั้งชุมพรในครั้งนี้ถือว่าเข้มข้นดุเดือด ทั้งกระแส กระสุนฟุ้งกระจายไปทั่วพื้นที่ ข่าวคราวการล่ารายชื่อ ทุ่มประมูลซื้อเสียง ก็แก่งแย่งกันเสนอราคาสูงลิ่วเช่นเดียวกัน
สรุปทั้ง 3 เขต เลือกตั้งของจังหวัดชุมพรครั้งนี้ถือเป็นเดิมพันใหญ่หลวงของบ้านใหญ่ "ลูกหมี" ที่ทุ่มสุดตัว หวังยึดพื้นที่ทั้ง 3 เขตเลือกตั้ง ต้องติดตามกันต่อไปว่า "ลูกหมี" บ้านใหญ่จะใหญ่จริง ทำได้จริงหรือไม่