xs
xsm
sm
md
lg

“สุรชัย” แม้ไร้แขน-ขา 1 ข้าง ฮึดสู้ทำงานที่รัก “มือกลองรับจ้าง” หารายได้เลี้ยงครอบครัว โดยภรรยายืนหยัดเคียงข้าง!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ 13 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา พาคุณผู้ชมไปรู้จักคู่รักคู่หนึ่ง ที่แม้ฝ่ายชายจะมีอันต้องพิการถูกตัดแขนและขาอีก 1 ข้าง แต่ฝ่ายหญิงก็ไม่ทอดทิ้งไปไหน ยังอยู่ดูแลกัน ขณะที่สามี แม้พิการ ก็ยังสู้ทำงานที่รักเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว โดยมีแขนและขาเทียมเป็นตัวช่วย



ก่อนจะกลายเป็นคนพิการไร้แขนทั้งสองข้าง เพราะถูกตัดตั้งแต่ใต้ข้อศอกลงไป และขาซ้ายถูกตัดตั้งแต่ใต้เข่า สุรชัย ชาญสมาธิ หรือ “หรีด” กับวัย 33 ในวันนี้ เคยประกอบอาชีพเป็นช่างก่อสร้างและมือกลองรับจ้างอยู่ในวงปี่พาทย์ คณะศิษย์ทองปอนศิลป์ ที่ จ.สุโขทัย ซึ่งเป็นการเดินตามรอยพ่อที่ยึดอาชีพนี้เลี้ยงครอบครัวตั้งแต่เขายังเด็กจนถึงปัจจุบัน แต่แล้ว อุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดขณะทำงานเมื่อ 7 ปีที่แล้ว ก็ได้เปลี่ยนชีวิตสุรชัยให้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป


“วันนั้นไปเชื่อมโครงหลังคากับพ่อ แล้วทีนี้ผมขึ้นไปอยู่บนโครงหลังคา แล้วผมสาวเหล็กขึ้นไป เหล็กมันไปแตะสายไฟแรงสูง ผมก็โดนไฟช็อต ผมตีตัวตกลงมา ตอนแรกพ่อจะจับ ลูกน้องพ่อไม่ให้จับ ถ้าพ่อจับ ก็ตายทั้งคู่วันนั้น (ถาม-แรงมากไหม อาการตอนนั้นเป็นยังไงบ้าง?) ตอนนั้นตาผมหลับ แต่หูได้ยิน หูดังอื๊ด ผมนึกในใจว่าเป็นอะไร พอนึกได้ โดนไฟช็อต ผมก็กระตุกเหล็กและทิ้งตัวลงจากหลังคาลงมา”


แม้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนั้น แต่สุรชัยก็ต้องสูญเสียอวัยวะสำคัญไปหลายส่วน

“แขนมันสุกเลย ขาซ้ายมาตัดทีหลัง ตอนแรกหมอเขาให้ตัด แต่พ่อกับแม่เขาไม่ยอมเซ็นอนุญาต ผมก็ปวดทนไม่ไหว เลยบอกหมอว่า ตัดเลยครับ ไม่ต้องให้พ่อเซ็น ผมให้ตัด”


แม้กายพิการ แต่หัวใจพร้อมสู้ โชคดีภรรยารับได้-ไม่ทิ้ง!

“ผมคิดอย่างเดียวว่า ใจยังไงก็ต้องสู้ แต่ก็มีเป็นห่วงเรื่องแฟน กลัวแฟนจะทิ้งกลัวอะไรอย่างนี้ ก็บอกว่า พี่จะพิการแล้วนะ แล้วจะอยู่กับพี่ไหม ไม่กลัวว่า เขาจะตอบมาว่า ไม่อยู่แล้ว ไม่กลัว ทำใจไว้แล้ว เขาตอบว่า จะไม่ทิ้งไปไหน เขาก็จะอยู่อย่างนี้ตลอดไป”


ขณะที่ “วิลัยพร แผ่จิตร” ภรรยาของสุรชัย ผู้มีหัวใจรักจริง ไม่ทิ้งแม้สามีอยู่ในภาวะพิการ ยอมรับว่า ช่วงที่สามีรักษาตัว ต้องคอยดูแลทุกอย่าง รวมทั้งต้องดูแลลูกด้วย


“หลังจากตัดแขนและขาซ้ายแล้ว เราต้องรักษาแผล เริ่มทดลองใช้แขนใช้ขา เราต้องมาฝึกหัดเดิน หัดทรงตัว ก่อนจะใส่ขาเทียม ต้องอยู่กับเขาเลย อาบน้ำให้ ป้อนข้าว ไหนจะลูกด้วย ก็ไม่ได้ทำงาน พ่อกับแม่ทำ”


ขณะที่สุรชัย ยอมรับว่า ช่วงแรกอดกังวลไม่ได้ว่า จะใช้ชีวิตต่ออย่างไรในสภาพที่พิการ

“ตอนแรกก็มีกังวลบ้าง เราเคยมีร่างกายปกติ เวลาเราว่างงาน ก็ขี่มอเตอร์ไซค์ไปหาเพื่อนบ้าง ขี่รถไปโน่นนี่บ้าง แต่พอเป็นแบบนี้ เราก็คิดว่าเราไปไหนไม่ได้แล้ว ต้องอาศัยคนอื่น ตอนแรกก็ต้องอาศัยแฟน ถ้าเราจะไปไหนยังไง แต่พอไปๆ มาๆ มันก็ชิน (ถาม-เคยทุกข์หรือท้อในวันที่เราสูญเสียแขนและขาไหม?) มันก็มีความคิดบ้างว่า เราจากคนดีๆ ต้องกลายเป็นคนพิการ แต่ถ้าถามว่าท้อไหม ก็ไม่ท้อ คิดอย่างเดียวว่า ถ้ายังมีลมหายใจ ก็จะสู้ไปตลอด”


แม้อยู่ในสภาพพิการ แต่การมีแขนและขาเทียมเป็นตัวช่วย และฝึกใช้จนชำนาญ ก็ช่วยให้สุรชัยสามารถทำกิจวัตรต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้ด้วยตัวเองอย่างคล่องแคล่ว ไม่ว่าจะเป็นการแปรงฟัน กินข้าว ซักผ้า ขับรถ ไม่เท่านั้นยังสามารถลุกขึ้นมาทำงานที่รักได้อีกครั้ง


“เคยคิดเหมือนกันว่า จะกลับไปตีกลองเหมือนเดิมได้ไหม เพราะใจรักตีกลอง ตอนแรกได้แขนเป็นตะขอมา ตอนแรกกินข้าว และลองให้แฟนเอาไม้กลองมาใส่ให้และลองพันและลองตีดู มันก็ตีได้ แต่ไม่ 100% อย่างเมื่อก่อน ตีได้ประมาณ 60%”


“(ถาม-ใช้เวลารักษาตัวนานไหม กว่าจะกลับมาทำงานเป็นมือกลองอีกครั้ง?) พักฟื้นประมาณเกือบปีได้ (ถาม-อีกงานหนึ่งที่เคยทำประจำเหมือนกันคือก่อสร้าง พอไม่มีแขนแล้ว ทำงานก่อสร้างได้ไหม?) ช่วยพ่อได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ส่วนมากพ่อไม่ค่อยให้ไปไหน บางทีเชื่อมเหล็กตัดเหล็กให้พ่ออยู่บ้านบ้างตอนพ่อยุ่งๆ”


“(ถาม-ในวันที่เราไม่มีงานแสดง ส่วนใหญ่เราทำอะไร?) อยู่บ้าน ถ้าลูกไม่ได้ไปโรงเรียน ก็คอยดูลูกบ้าง คอยซักผ้าให้ภรรยาบ้าง แต่ถ้าวันไหนลูกไปโรงเรียน ตอนบ่ายสองบ่ายสามก็ต้องคอยไปรับลูก”


ปัจจุบัน สุรชัยสามารถรับงานตีกลองในวงปี่พาทย์ที่เคยร่วมงานกันมา แม้งานจะไม่มาก แต่ก็ช่วยให้เขาพอมีรายได้เลี้ยงดูครอบครัวบ้าง ส่วนภรรยาก็หารายได้อีกทางด้วยการออกไปรับจ้างเก็บใบตองกับแม่ของสามี ขณะที่พ่อของสุรชัยยังคงทำงานก่อสร้างได้


การได้ทำงานที่รักอีกครั้งของสุรชัย โดยเฉพาะการเป็นมือกลอง ไม่เพียงช่วยสร้างความมั่นใจให้กับตนเอง แต่เสียงชมที่ได้รับกลับมา ยังช่วยให้เขามีแรงใจที่จะสู้มากขึ้นด้วย


“บางคนเขาก็ชมว่า ขนาดตัดแขนตัดขา ยังมีความสามารถตีกลองได้ เขาก็ชม ไม่มีใครว่า ยิ่งมีคนชม เราก็ยิ่งสู้”

ขณะที่ “วิลัยพร” ภรรยา ยอมรับว่า แม้สามีจะพิการ แต่ก็รู้สึกภูมิใจที่สามีไม่นิ่งดูดายต่อครอบครัว


“รู้สึกภูมิใจและดีใจที่เขายังฮึดสู้ ยังคิดว่ายังมีลูกมีเมียที่อยู่ข้างหลัง ยังคิดหาเลี้ยงลูกเลี้ยงเมีย ไม่อยู่เฉยๆ ไม่นิ่งดูดาย เขายังมีความขวนขวายที่จะหาเงินเข้าบ้านอยู่ตลอด”


ภรรยา ยืนยัน ยังไงก็ไม่ทิ้งกัน!

“ตอนนั้นอายุยังน้อยยังไม่ถึง 20 ตัดแขน เขาก็ถามว่า หนู พี่พิการแล้ว หนูจะทิ้งพี่ไหม ก็คิดในใจนะว่า ยังไงก็ไม่ทิ้ง ก็ปลอบเขาทุกวันว่ายังไงก็ไม่ทิ้ง ไม่ใช่พูดออกไปแค่ปาก แต่ในใจก็ไม่คิดจะทิ้งเขาอยู่แล้ว หนูคิดในแง่หนึ่งว่า ตอนที่เขามีแขนขาปกติ เราอยู่กับเขาได้ เมื่อเขาเป็นอย่างนี้ เขาอยู่กับเรา เราก็ต้องทนอยู่กับเขาได้ ยังไงก็ต้องร่วมทุกข์ร่วมสุขกันไปจนถึงวันสุดท้าย”


ส่วน “สุรชัย” ก็ภูมิใจเช่นกันที่ภรรยาไม่ทิ้งไปไหน และขอบคุณที่ยังรักกันเหมือนเดิม

“เขาเป็นคนๆ หนึ่งที่ไม่เคยทอดทิ้งไปไหน เขาเคยรักยังไง ก็ยังรักอยู่อย่างนั้น ก็รู้สึกภูมิใจเหมือนกัน เขาเคยอยู่กับเราแบบไหน เขาก็อยู่แบบนั้น จากเมื่อก่อนเขาไม่ค่อยได้ทำงาน จนปัจจุบันเขาก็ต้องไปทำงาน ก็อยากจะบอกว่า ขอขอบคุณที่ยังอยู่ด้วยกัน ไม่ทิ้งกันไปไหน ยังรักกันเหมือนเดิม”


หากท่านใดต้องการสนับสนุนทุนปัจจัยในการดำเนินชีวิตให้กับสุรชัย สามารถโอนไปได้ที่ ธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชี นายสุรชัย ชาญสมาธิ เลขบัญชี 618-0-29294-9


คลิกชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ตอน “แรงใจของชายไร้แขน”
https://www.youtube.com/watch?v=Be-i7Z2oGLM


ติดตามรับชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ได้ ทุกวันเสาร์ เวลา 09.00-09.30 น. ทางสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ( IPM ช่อง 64 / PSI ช่อง 211 )

หรือรับชมรายการย้อนหลังได้ที่เพจ ฅนจริงใจไม่ท้อ https://web.facebook.com/KonJingJaimaitor/
หรือยูทูบฅนจริงใจไม่ท้อ https://www.youtube.com/channel/UCsb4sLqdHs35km4uQ_tOCjQ/videos
กำลังโหลดความคิดเห็น