xs
xsm
sm
md
lg

“แม่กุ้ง” แม่เลี้ยงเดี่ยวสู้ชีวิต ขายข้าวกล่อง 20 บาทเลี้ยงลูกสมองพิการ-ออทิสติก 2 ชีวิต โชคดีมีผู้ใจบุญช่วย ให้ทั้งที่พัก-อาชีพ!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ 27 พฤษภาคม 2566 พาคุณผู้ชมไปรู้จัก “แม่กุ้ง” แม่ค้าขายข้าวกล่องที่ จ.สมุทรปราการ ที่ต้องสู้ทำงานหาเลี้ยงลูก 2 คน คนหนึ่งเป็นออทิสติก ขณะที่อีกคนสมองพิการ หลังถูกสามีทิ้ง แม่กุ้งเกือบคิดสั้น โชคดีที่ผู้ใจบุญเตือนสติ พร้อมให้ความช่วยเหลือทุกอย่าง ทำให้แม่กุ้งและลูกๆ สู้มาได้ถึงวันนี้



“แม่กุ้ง” ธภัทร พรรณวิษา คุณแม่ลูกสองวัย 43 ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่า ลูกทั้งสองจะเกิดมาไม่ปกติเหมือนเด็กคนอื่น

“น้องเจมส์ปีนี้ 11 ขวบ ตอนที่เขาคลอดเขาติดเชิงกราน และสำลักน้ำคร่ำ หมอเลยดูดออก สมองน้องบวม พอหลังจากนั้นเขาก็มีอาการเลือดคั่งในสมอง น้องเลยพิการสมองทั้งสองข้าง ตาบอดมองไม่เห็น หูก็ไม่ได้ยิน ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้สักอย่าง พิการเคลื่อนไหว เคลื่อนไหวอย่างคนปกติไม่ได้”


“ส่วนน้องเจเจ เป็นออทิสติก เป็นเรื่องการสื่อสาร การพูด และด้านอารมณ์ น้องจะเป็นคนที่อารมณ์โมโหร้าย ชอบทำร้ายตัวเอง บางทีก็มีทำร้ายน้อง ทำร้ายตัวเองคือ ชอบกัดแขน และจิกหัว การเลี้ยงดู ต้องอยู่ในสายตา ต้องมีผู้ใหญ่อยู่ด้วย ทิ้งให้เขาอยู่กับน้องไม่ได้ การรักษา หมอแนะนำให้น้องไปอยู่โรงเรียนประจำ เขาฝึกให้ทุกอย่าง ฝึกกิจวัตรประจำวัน ฝึกช่วยเหลือตัวเอง ฝึกเรียนรู้เรื่องอารมณ์ เขาสอนให้เยอะอยู่ ตอนนี้เป็นขั้นๆ เป็นระดับไป ครูบอกว่าต้องดูสภาพร่างกายของเด็ก”


ปัจจุบัน แม่กุ้งและลูกๆ พักอาศัยอยู่กับ “แม่สุ” โชติกา กลิ่นโท ผู้ใจบุญที่ให้ความช่วยเหลือทั้งเรื่องที่พักอาศัยและอาชีพแก่แม่กุ้ง ที่ อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ

ย้อนกลับไป ก่อนที่แม่กุ้งจะกลายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เธอใช้ชีวิตคู่อยู่กับสามี โดยเช่าห้องอยู่ และต่างช่วยกันทำงานหาเงิน พอมีลูก ก็เอาไปฝากแม่สุเลี้ยง ซึ่งแม่สุรับจ้างเลี้ยงเด็ก


“เขาต้องทำงานทั้งสองคนผัวเมีย แต่แม่สุออกจากงานแล้ว รับเลี้ยงเด็ก เลยบอกว่า จะจ้างแม่สุเลี้ยง แม่สุเลยบอก โอเคเอามา แม่สุเลี้ยงให้ ตอนนั้นเหมือนเพื่อนที่รับจ้างเลี้ยงให้”


แม่กุ้งเล่าว่า หลังจากลูกคนแรกไม่ปกติ สามีก็อยากให้มีลูกอีกสักคน เพราะอยากมีลูกที่ปกติ เธอจึงปล่อยให้มีคนที่สอง แต่เมื่อลูกคนที่สองไม่ปกติอีก ในที่สุด ชีวิตคู่ก็พังทลายลง เมื่อสามีไม่อยากมี “ภาระ”

“เขาบอกว่า เราไปด้วยกันไม่ได้ ขอแยกทาง พอเราถามว่าทำไม เขาก็บอกว่าภาระ ลูกเป็นภาระสำหรับเขา”


ท้อใจ ชีวิตมืดมน เกือบคิดสั้นจบชีวิตพร้อมลูก!

“(ถาม-ความรู้สึกของคนเป็นแม่เป็นภรรยาเป็นยังไงบ้าง?) แรกๆ ที่เขาออกห่าง ที่เลิกกับเขาใหม่ๆ ก็คิดนะ รู้สึกว่าตัวเองโดดเดี่ยว คิดว่าจะอยู่ยังไง จะดูแลลูกยังไง จะหาเงินที่ไหน เพราะเราหาคนเดียว เคยมีอยู่ครั้งหนึ่ง เคยคิดจะฆ่าตัวตายเหมือนกัน เคยคุยกับลูกว่า เราไปอยู่ด้วยกันไหม 3 คนแม่ลูก ไปด้วยกันเลยดีกว่า อย่าอยู่เลยนะลูก อยู่ก็เป็นภาระ พอดีวันนั้นพูด แม่สุเขากลับมาจากทำงานพอดี เขาได้ยิน เขาเลยบอกว่า เอ็งคิดอย่างนั้นไม่ได้นะ เด็กมันไม่ได้ผิดอะไร จะไปทำร้ายเขาทำไม ณ ตอนนั้นคือท้อชีวิต ท้อใจ ไม่รู้ว่าจะไปยังไงตอนนั้น ตอนนั้นเครียด เสียใจ ทำไมคู่ชีวิตที่เราเลือกมา ทำไมเขาถึงทำกับเรากับลูกแบบนี้”


หลังเลิกกับสามี แม่กุ้งยังคงทำงาน และเช่าห้องอยู่กับลูก แต่เมื่อลูกป่วยบ่อย อีกทั้งแม่สุ ที่รับจ้างเลี้ยงเด็ก ต้องไปดูแลแม่สามีที่ป่วย แม่กุ้งจึงต้องลางานยาวเพื่อมาดูแลลูก กระทั่งในที่สุด แม่สุสงสารแม่กุ้งที่ต้องดูแลลูกลำพังถึง 2 คน จึงออกปากชวนแม่กุ้งให้มาพักอยู่ด้วยกันที่บ้าน เพื่อไม่ต้องเสียค่าเช่าห้อง


“เขาบอกให้มาอยู่ที่นี่ เขาบอกว่า เอาเงินที่เช่าห้อง ไว้ซื้อนมกับแพมเพิสให้ลูกดีกว่าไหม เลยได้มาอยู่ที่นี่กับแม่กับพ่อ”

แม่สุ ยอมรับว่า ที่ช่วยเหลือแม่กุ้งและลูก เพราะอดสงสารทั้งแม่และเด็กไม่ได้


“พูดง่ายๆ เด็กสองคนนี้เราสงสารเขาจับใจเลยว่า เขาเกิดมาในสภาพที่โชคร้ายแล้ว ยังมาเจอปัญหาแบบนี้กับครอบครัวอีก ถ้าเป็นเรา เราตัวคนเดียว แล้วผัวมาทิ้งไป โดยการบอกว่าลูกพิการ ก็เลยหาความสุขใส่ตัวเพื่อทิ้งเราแบบนี้ คิดว่าถ้าเป็นเรานะ เราจะเป็นยังไง”


ขณะที่ “ชำนาญ กิ่งโพธิ์” สามีแม่สุ ก็รู้สึกไม่ต่างกับภรรยา และคิดว่า ตนเองพอมีกำลังที่จะช่วยเหลือแม่กุ้งและลูกได้ จึงช่วยมาเป็นสิบปีแล้ว

“ผู้หญิงคนเดียว ดูแลลูกพิการ 2 คน ผมว่ามันหนักไป แต่อย่างเรา เราพอมีแรงกำลัง เพราะช่วงผมทำงานบริษัท มันมีรายได้ค่อนข้างดีเลย และเรารับจ๊อบวันเสาร์-อาทิตย์ด้วย เราก็เลยบอก เราสบายอยู่ ช่วยเหลือได้ก็ช่วยเหลือกันไป เพราะก็รู้จักกันมาเบื้องต้น ความสงสารเป็นหลัก ไม่ได้คิดเลยนะว่าจะต้องอยู่นานไม่นาน”


แม่กุ้งรักแม่สุและสามีแม่สุเหมือนพ่อแม่ ซึ่งแม่สุไม่เพียงช่วยให้แม่กุ้งมีที่พักอาศัย แต่ยังช่วยให้เธอมีอาชีพ หลังออกจากงานอีกด้วย

“พอดีมีคนใจดีเขาหยิบยื่นที่ให้แม่สุ เพื่อไปขายของ แม่สุเลยแนะนำให้หนูขายดีไหม เดี๋ยวเขาจะช่วย เพราะแม่กุ้งก็ทำกับข้าวไม่ค่อยเก่ง ไม่ค่อยเป็นเลย แต่ตอนนี้เริ่มทำพอได้ แม่สุเป็นคนหยิบยื่นให้ทุกอย่าง”


แม่สุไม่ใช่แค่ช่วยแม่กุ้งทำกับข้าวและข้าวกล่อง แต่ยังช่วยเลี้ยงลูกให้เวลาแม่กุ้งออกไปขายข้าวอีกด้วย

“ตอนนี้ทำกับข้าว ช่วยเรื่องกับข้าวเขาทุกอย่าง ช่วงเขาไม่อยู่ ก็ช่วยให้นมลูกเขาไปก่อน หลังจากนั้นต้องปล่อยให้เขาทำเอง เพราะเขาอยู่บ้าน เราต้องรีบออกไปทำงาน ถ้าเราทำตรงนี้เหนื่อย พอเราออกไป เราจะหมดแรงกับตรงนี้ก่อน”


ทุกวัน แม่กุ้งจะตื่นเพื่อเตรียมอาหารกับแม่สุตั้งแต่ตี 3 ก่อนจะขี่มอเตอร์ไซค์พ่วงข้างออกจากบ้านไปตั้งร้านขายข้าวที่หน้าโรงงานใกล้บ้านตอนตี 4 ครึ่ง โดยจะกลับเข้าบ้านประมาณ 8 โมง เพื่อดูแลลูก และแม่สุกับสามีจะได้ออกไปทำงาน


“ขายข้าวกล่อง 20 บาท มีผัดกะเพราหมู ผัดคะน้าไก่ทอด ไข่เจียวหมูสับ ข้าวผัดไข่ กับข้าวถุง มีผัดผักรวมมิตร ผัดหน่อไม้ ลูกค้าช่วงนี้มีน้อยด้วย หลังจากโควิด ลูกค้าก็น้อยลง ลูกค้าที่เคยซื้อประจำโดนจ้างออก แล้วเขาก็ย้ายกลับไปอยู่บ้านกัน คนกินน้อยลง แต่แม่ค้าเพิ่มขึ้น (ถาม-วันหนึ่งกำไรเท่าไหร่?) เฉลี่ยวันหนึ่ง 300 บาท”


แม่สุ “นางฟ้าใจดี” ช่วยแม่กุ้งทุกอย่าง โดยไม่หวังผลตอบแทน

“เคยให้ค่าน้ำค่าไฟเขา แต่ไม่ได้ให้เขาเยอะ บางทีให้เขา เขาก็ไม่เอา เขาก็จะบอกให้เก็บไว้ เดี๋ยวไม่มีตังค์ซื้อนมให้ลูกนะ แพมเพิสลูกพอหรือเปล่า เขาจะไม่ค่อยอยากเอา เราก็บอก แม่เอาไปเถอะ ถ้าไม่มี เดี๋ยวหนูเอาที่แม่ได้ แต่เขารัก เขาก็ไม่เอาไปจ่ายค่าน้ำค่าไฟ เอามาซื้อของในครัว ให้แม่กุ้งทำกับข้าวขาย”


“ทุกวันนี้แม่กุ้งคิดว่า ถ้าวันหนึ่งแม่กุ้งมีเงิน แม่ก็อยากให้และช่วยเหลือเขา แต่ ณ ตอนนี้แม่ไม่มี แม่ก็ได้แต่ตอบแทน อยู่กับท่านสองคน ก็ดูแลกัน ดูแลท่าน ไม่สบาย กินข้าวกินปลา เวลาท่านเมื่อยท่านเหนื่อยก็บีบนวดให้ท่านบ้าง แม่กุ้งทำหน้าที่ตอบแทนได้แค่นี้ เราไม่มีอะไรจะตอบแทนท่าน มีแต่ใจเรา”


พร้อมสู้เพื่อลูก จนกว่าแม่หมดลมหายใจ!

“(ถาม-เรามองอนาคตของครอบครัวเราที่มีลูกทั้งสองคนยังไง?) คิดว่าอนาคต ตัวเราจะต้องสู้เพื่อลูกทั้งสองคน สู้เพื่ออนาคตของเขา จนกว่าแม่คนนี้จะไม่มีลมหายใจ เพราะถ้าแม่ไม่สู้ ก็ไม่มีใครมาสู้กับแม่ แม่ต้องสู้เพื่อลูก”


หากท่านใดต้องการช่วยเหลือแม่กุ้งและลูก สามารถโอนไปได้ที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ ชื่อบัญชี นางสาว ธภัทร พรรณวิษา เพื่อเด็กชาย อนันตชัย ปานทุ่ง เลขบัญชี 4100241110


คลิกชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ตอน “แม่ค้าขายข้าวกล่อง”
https://www.youtube.com/watch?v=rPiCUgR0DCA


ติดตามรับชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ได้ ทุกวันเสาร์ เวลา 09.00-09.30 น. ทางสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ( IPM ช่อง 64 / PSI ช่อง 211 )

หรือรับชมรายการย้อนหลังได้ที่เพจ ฅนจริงใจไม่ท้อ https://web.facebook.com/KonJingJaimaitor/
หรือยูทูบฅนจริงใจไม่ท้อ https://www.youtube.com/channel/UCsb4sLqdHs35km4uQ_tOCjQ/videos
กำลังโหลดความคิดเห็น