xs
xsm
sm
md
lg

รู้จัก! “แอตแลนติก” มหาสมุทรใหญ่อันดับสองของโลก หนึ่งในผืนน้ำที่มีเรือจมอยู่มากที่สุด ที่ตั้งของสามเหลี่ยมเบอร์มิวดาเรื่องราวลึกลับอันโด่งดัง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



จากกระแสข่าวการสูญเสียเรือดำน้ำไททัน ของบริษัท OceanGate ระหว่างที่พาผู้โดยสารดำลึกลงไปใต้มหาสมุทรแอตแลนติกเพื่อสำรวจซากเรือไททานิค เมื่อวันอาทิตย์ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา ทำให้มหาสมุทรแห่งนี้ได้รับความสนใจจากผู้คนจำนวนมาก


Science MGR Online จึงขอไปทำความรู้จักกับ “มหาสมาสมุทรแอตแลนติก” สถานที่แห่งความสูญเสียนับตั้งแต่อดีต ไม่ว่าเป็นการล่มของเรือไททานิค การสูญหายของเรือและเครื่องบินจำมากที่บริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา และการสูญเสียครั้งล่าสุดเรือดำน้ำไททัน ที่ได้เกิดระเบิดใต้ผืนน้ำอันกว้างใหญ่แห่งนี้


มหาสมาสมุทรแอตแลนติก เป็นมหาสมุทรที่ใหญ่เป็นอันสองของโลก ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 1 ใน 5 ของพื้นผิวโลก มีลักษณะเป็นแอ่งที่มีรูปร่างเหมือนตัวเอส (S) ติดกับทวีปอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้ทางตะวันตก ส่วนทางตะวันออกติดกับ ทวีปยุโรปและทวีปแอฟริกา ปัจจุบันมีการแบ่งมหาสมุทรแอตแลนติกเป็น 2 ส่วน คือ แอตแลนติกเหนือและแอตแลนติกใต้ โดยใช้บริเวณที่เกิดการเปลี่ยนทิศของกระแสน้ำที่ละติจูด 8° เหนือเป็นแนวแบ่ง

มหาสมุทรแอตแลนติกเชื่อมกับมหาสมุทรแปซิฟิกทางมหาสมุทรอาร์กติกซึ่งอยู่ทางเหนือ ส่วนทางใต้เชื่อมทางช่องแคบเดรก จุดเชื่อมต่ออีกแห่งหนึ่งที่สร้างขึ้นโดยมนุษย์ คือ คลองปานามา เส้นแบ่งระหว่างมหาสมุทรแอตแลนติกกับมหาสมุทรอินเดีย คือ เส้นเมริเดียน 20° ตะวันออก และแยกจากมหาสมุทรอาร์กติกด้วยเส้นที่ลากจากกรีนแลนด์ ผ่านตอนใต้สุดของสฟาลบาร์ (Svalbard) ไปยังตอนเหนือของนอร์เวย์

มหาสมุทรแอตแลนติกมีพื้นน้ำประมาณ 106,460,000 ตารางกิโลเมตรปริมาตรของมหาสมุทรเมื่อรวมทะเลที่อยู่ติดกันมีค่า 310,410,900 ลูกบาศก์กิโลเมตร มีความลึกเฉลี่ย 3,646 เมตร จุดที่ลึกที่สุดคือปวยร์โตรีโกเทรนช์มีความลึก 8,486 เมตร (27,840 ฟุต)

“แอตแลนติก” ชื่อของมหาสมุทรแห่งนี้ มาจากนิยายปรัมปรากรีก หมายถึง "ทะเลของแอตลาส"


การมีที่ตั้งขั้นกลางระหว่างทวีปอเมริกาเหนือและใต้ กับทวีปยุโรปและทวีปแอฟริกา ทำให้มหาสมุทรแห่งนี้มีความคึกคักเป็นอย่างมาก ในการเป็นเส้นทางเดินเรือนับตั้งแต่ครั้งอดีต ไม่ว่าจะเป็นการออกสำรวจโลกใหม่ในยุคของ “คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส” ที่ใช้มหาสมุทรแอตแลนติกเป็นเส้นทางสู่ทวีปอเมริกา หรือยุคปลายศตวรรษที่ 19 จนถึงต้นศตวรรษที่ 20 ที่ผู้คนนิยมใช้เรือโดยสารขนาดใหญ่ เพื่อเดินทางข้ามจากยุโรปไปแสวงหาชีวิตใหม่ที่ทวีปอเมริกา และในช่วงที่ยังไม่มีคลองสุเอซ การเดินเรือต้องล่องมายังทิศใต้ของแอตแลนติก เพื่ออ้อมแหลมกู๊ดโฮป ทวีปแอฟริกา ไปยังทวีปเอเชีย


ด้วยการเป็นเส้นทางเดินเรือที่สำคัญนับตั้งแต่อดีต จึงทำให้แอตแลนติกกลายเป็นหนึ่งในมหาสมุทรที่มีเรือจมอยู่มากที่สุด เนื่องจากการเดินทางผ่านมหาสมุทรใหญ่นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องพบเจอกับคลื่นลมแรง ภูเขาน้ำแข็ง การเดินเรือในบ้างครั้งก็ต้องพบกับความสูญเสีย หนึ่งในเรื่องราวที่มีชื่อเสียงก็คือ “เรือไททานิค” ที่จมลงสู่ใต้มหาสมุทรแอตแลนติกในปี 1912


นอกจากนั้นแล้ว มหาสมุทรแอตแลนติกแห่งนี้ ก็ยังเป็นสถานที่ตั้งของ “สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา” หรือรู้จักกันในชื่อ “สามเหลี่ยมปีศาจ” โดยเป็นพื้นที่สมมุติ ทางตะวันตกของมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ซึ่งมีเรื่องราวลึกลับดันโด่งดังที่ได้มีการให้ข้อมูลว่า มีเครื่องบินและเรือจำนวนหนึ่งหายสาบสูญไปโดยหาสาเหตุไม่ได้ในบริเวณดังกล่าวอีกด้วย


และมหาสมุทรแห่งนี้ยังถูกพูดถึงในเรื่องเล่า “นครแอตแลนติส” อาณาจักรโบราณ ที่ถูกกล่าวถึงโดยเพลโต ปราชญ์ของชาวกรีกโบราณ ว่าจมอยู่ใต้มหาสมุทรแอตแลนติกด้วยเช่นกัน

ด้วยเหตุการณ์การสูญเสียนับตั้งแต่อดีตทำให้แอตแลนติก มหาสมุทรที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกแห่งนี้ ได้กลายเป็นหนึ่งในสถานที่แห่งความเศร้าที่ผู้คนต่างกล่าวถึง


กำลังโหลดความคิดเห็น