xs
xsm
sm
md
lg

ส่องสาวปางศิลาทอง จับพลัดจับผลูเลี้ยง “ตั๊กแตน” ขายได้กิโลฯ ละ 10,000-40,000 ทำเงินหลักหมื่น-แสนต่อเดือน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



กำแพงเพชร - ตามส่องสาวปางศิลาทอง หนีอาชีพใช้สารเคมี-อยู่บ้านดูแลพ่อป่วยติดเตียง ลองผิดลองถูกเลี้ยงตั๊กแตนปาทังก้า ขายขีดละ 1,000-4,000 กิโลฯ ละหมื่น-4 หมื่น สร้างรายได้หลักหมื่นหลักแสนต่อเดือน ต่อยอดทำเมนูเด็ดได้สารพัด คนสนใจร่วมเป็นลูกฟาร์มต่อเนื่อง


"รุ่งเรืองทรัพย์ฟาร์ม" ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 89 ม.14 บ้านรุ่งเรืองทรัพย์ ต.หินดาด อ.ปางศิลาทอง จ.กำแพงเพชร ซึ่งเป็นฟาร์มเพาะเลี้ยง “ตั๊กแตนปาทังก้า” กำลังได้รับความสนใจจากผู้คนทั่วสารทิศ เพราะกลายเป็นหนึ่งอาชีพทำเงินสร้างรายได้หลักหมื่นหลักแสนต่อเดือนจากภูมิลำเนาบ้านเกิดตัวเองได้

ซึ่งฟาร์มแห่งนี้ใช้พื้นที่บริเวณลานหน้าบ้าน ทำเป็นสถานที่เพาะเลี้ยง "ตั๊กแตนปาทังก้า" จำนวนกว่า 10 โรงเรือน สร้างรายได้หลายหมื่นบาทต่อเดือน โดยได้ทำโรงมุ้งเพาะเลี้ยงแยกตัวอ่อน ช่วงผสมพันธุ์ออกไข่ ไปจนถึงช่วงโตเต็มวัยพร้อมจำหน่าย ซึ่งจะมีการแยกพ่อพันธุ์แม่พันธุ์หลังผสมพันธุ์กันแล้วออกมาเป็นไข่สำหรับจำหน่ายให้ผู้สนใจนำไปเพาะเลี้ยงสร้างรายได้อีกด้วย


นางนิภาพร เกษสา อายุ 35 ปี เจ้าของรุ่งเรืองทรัพย์ฟาร์ม เล่าว่า เริ่มต้นอาชีพเลี้ยงตั๊กแตนปาทังก้าเพราะเมื่อก่อนสัมผัสกับสารเคมีในไร่ในนา ประกอบกับไม่สามารถไปทำงานที่อื่นได้เพราะมีพ่อที่ป่วยติดเตียงต้องคอยดูแล จึงต้องหาอาชีพที่ทำอยู่กับบ้านได้ ลองผิดลองถูกมาตลอด ทั้งเลี้ยงนกกระทา ปลูกผักออร์แกนิก ซึ่งต้นทุนก็สูงขึ้น

กระทั่งพบข้อมูลทางโซเชียลฯ ว่าการเลี้ยง "ตั๊กแตนปาทังก้า" น่าสนใจ ก็ลองสั่งพันธุ์ตั๊กแตนมาเพาะเลี้ยง ช่วงแรกก็ล้มเหลวบ้าง ลองผิดลองถูกเหมือนกัน ซึ่งหลายคนบอกว่า..ตนเองบ้า ทำไมไม่เลี้ยงจิ้งหรีด จนสุดท้ายมีคนเห็นและเข้ามาสอบถามสมัครเป็นลูกฟาร์มเป็นจำนวนมาก ซึ่งก็สร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวและต่อยอดธุรกิจได้ แค่เข้าใจหลักการง่ายๆ คือไม่มีสารเคมีก็เลี้ยงได้แล้ว

ขณะนี้ที่ฟาร์มแห่งนี้ได้เพาะเลี้ยง "ตั๊กแตนปาทังก้า" พันธุ์โมจีน พันธุ์ข้าว พันธุ์ไทยลายเสือ หากโตเต็มวัยตั๊กแตนพันธุ์โมจีน (มีไข่) จะขายราคาขีดละ 1,000 บาท และขายตัวที่ตกไข่แล้ว (หมดช่วงออกไข่) กิโลกรัมละ 400 บาท ตั๊กแตนพันธุ์ข้าว (มีไข่) ขายขีดละ 1,500 บาท และตั๊กแตนพันธุ์ไทยลายเสือ (มีไข่) จะขายอยู่ที่ขีดละ 4,000 บาท เพราะเป็นพันธุ์ที่หายาก-ต้องเลี้ยงนานถึง 8 เดือนจึงจะสามารถบริโภคได้


นางนิภาพรบอกว่า ตั๊กแตนที่สร้างรายได้ประจำทุกๆ 30-45 วัน จะเป็นพันธุ์โมจีน และพันธุ์ข้าว (แบ่งเป็นช่วงการเอาไข่ 40-45 วัน ไม่เอาไข่ 30-35 วัน) ซึ่งการให้อาหารจะต้องเป็นพืชที่ปลอดสารพิษ เช่น หญ้าธรรมชาติ หญ้าหวาน หญ้าเนเปียร์ (เพิ่มวิตามินให้ตั๊กแตน) โดยใช้ที่ใกล้เคียงปลูกหญ้าเนเปียร์ไร้สารพิษไว้เป็นอาหารเป็นการเฉพาะ เนื่องจากหากไปหาเก็บตามพื้นที่ต่างๆ ก็อาจจะมีสารพิษจากยาฆ่าแมลงปะปนมาได้

ทั้งนี้ “ตั๊กแตนปาทังก้า" สามารถทำเมนูเด็ดได้อย่างหลากหลาย ในโอกาสที่ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพูดคุยที่รุ่งเรืองทรัพย์ฟาร์ม นางนิภาพร และครอบครัว ได้นำตั๊กแตนพันธุ์โมจีน-พันธุ์ข้าว ทำเมนูเด็ดชิมถึง 10 เมนู คือ 1. ตั๊กแตนทอด 2. ยำตั๊กแตนทอด 3. ส้มตำตั๊กแตนทอด (ไทย-ปูปลาร้า) 3. น้ำพริกป่นตั๊กแตน 4. ข้าวผัดตั๊กแตน 5. ผัดกะเพราตั๊กแตน 6. ซูชิตั๊กแตน 7. สลัดโรลปูอัดตั๊กแตน 8. ฉู่ฉี่ตั๊กแตน 9. ลาบตั๊กแตน 10. เฟรนช์ฟรายตั๊กแตนทอด

และตอนนี้ก็มีผู้สนใจเข้ามาขอซื้อพันธุ์ไปเพาะเลี้ยงกว่า 50 รายแล้ว หากใครสนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 09-6401-1997 หรือเฟซบุ๊ก "ภัทราพร ทิศกระโทก"






กำลังโหลดความคิดเห็น