เผยตัวตน “มินนี่” สาวน้อยพันล้าน จากเดิมเป็นเจ้าของเว็บพนัน ยกระดับขั้นมาเป็นหน้าเสื่อขาใหญ่ของภาคอีสาน หลังคบหาสนิทสนมกับนายตำรวจลูกทีม “บิ๊กโจ๊ก” เป็นตัวกลางเก็บเงินจากเว็บพนันส่งส่วยให้ตำรวจ กลายเป็นเจ้าแม่ พวกเว็บไม่มีเส้นต้องพึ่งพาบารมี แต่สุดท้ายถูกจับและสอบเส้นทางการเงินได้เพราะชะล่าใจ ไม่เปลี่ยนไปใช้ “เงินคริปโต” เหมือนเครือข่ายพนันอื่นๆ ยังใช้เงินสดและบัญชีธนาคารต่าง ๆ แต่จากการตรวจสอบทรัพย์สินหลังการจับกุมเมื่อปลายเดือน ก.ค.66 พบว่าร่ำรวยในระดับพันล้านไปเรียบร้อยแล้ว
ในรายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” หรือ “สนธิทอล์ก” วันศุกร์ที่ 29 กันยายน 2566 นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์เครือผู้จัดการได้กล่าวถึงกุญแจสำคัญของเหตุการณ์ตำรวจไซเบอร์บุกค้นที่พักของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในซอยวิภาวดี 60 เมื่อเช้าวันที่ 25 กันยายน ที่ผ่านมา เพื่อจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายเว็บพนัน ว่า จุดเชื่อมของการทลายเครือข่ายครั้งนี้ คือ น.ส.ธันยนันท์ หรือ สุชานันท์ สุจริตชินศรี หรือ “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน สาวสวยวัย 26 ปี
ทั้งนี้ “มินนี่” น.ส.ธันยนันท์ อายุปัจจุบันตามทะเบียนราษฎร์คือ 26 ปี แต่อายุจริงเท่าที่ทราบมาน่าจะ 30 กว่าปีแล้ว เป็นคนจังหวัดเลย พื้นเพทางครอบครัวของ “มินนี่” ก็พอมีกินมีใช้ และมีบารมี เพราะมี “แม่” เป็นถึงสมาชิกสภาจังหวัด หรือ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด จ.เลย
“มินนี่” ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวเมื่อ วันที่ 28 กรกฎาคม 2566 พร้อมยึดของกลางเป็นสมุดบัญชีธนาคารพาณิชย์รวม 100 รายการ นอกจากนี้ยังมีของกลางที่เป็นบัตรอิเล็กทรอนิกส์กว่า 55 ใบ โทรศัพท์มือถือ จำนวน 30 เครื่อง เงินสดจำนวน 920,000 บาท คอมพิวเตอร์ ไอแพด และเครื่องรับส่งสัญญาณอินเตอร์เน็ตหลายรายการ พบเงินหมุนเวียนกว่า 100 ล้านบาท
โดยเจ้าตัวมีตำแหน่งเป็นกรรมการ บริษัท เอ็มวาย 999 จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2564 ทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท ตั้งอยู่ ณ เลขที่ 399 หมู่ที่ 8 ต.นาแขม อ.เมืองเลย จ.เลย
เบื้องต้นเธอยอมรับว่าเป็นเจ้าของเว็บไซต์พนันออนไลน์ชื่อ BETFLIK SPIN, BETFLIKe88, BETFILK UP, SABUY, BETFLIK 101, SPINIX UP, SPINIX CENTER, SPINIX GOLD ก่อนจะได้รับการประกันตัวออกมาสู้คดี
คำถามที่น่าสนใจก็คือ เด็กสาววัยรุ่น อยู่ ๆ ทำไมสามารถก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่ง“เจ้าแม่เว็บพนันออนไลน์”แห่งภาคอีสานได้?
คำตอบก็คือ ตำรวจคนใกล้ชิดของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ซึ่งเป็น 2 พี่น้องตำรวจหนุ่มหน้าตาดี คือ
1.พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัย (เปียก) นรต.51 ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง จ.จันทบุรี
2.พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย (หนึ่ง) นรต.52 รองผู้บังคับการสืบสวน กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4
ซึ่งความเป็นมาเป็นไปนั้น ต้องย้อนไปในอดีตก็คือ ในปี 2560-2561 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ตั้งชุดเฉพาะกิจขึ้นมาจัดการกับหลายภารกิจ โดยหนึ่งในนั้นก็คือ ภารกิจในการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับ ธุรกิจการพนันออนไลน์
ต่อมา พ.ต.อ.ภาคภูมิ ก็ได้ไปมีความสนิทสนมกับ “มินนี่” สมัยที่ พ.ต.อ.ภาคภูมิ ไปรับราชการอยู่ที่ จ.เลย โดยเมื่อ วันพุธที่ 27 กันยายน 2566พล.ต.อ.สุรเชษฐ์เปิดเผยผ่านรายการ เจาะลึกทั่วไทย ทางช่อง MCOT HD ถึงกรณีที่มีภาพ พ.ต.อ.ภาคภูมิ ดูสนิทสนมกับมินนี่ ผู้ต้องหาเว็บพนันออนไลน์โดยอ้างว่า พ.ต.อ.ภาคภูมิรู้จักสนิทสนมกับมินนี่ ในช่วงปี 2563 โดยเท่าที่ถามจาก พ.ต.อ.ภาคภูมิ ตำรวจมือทำงานของตน โดยตนมีชื่อเสียงแบบนี้เพราะมีลูกน้องที่ดี ซึ่งทราบจาก พ.ต.อ.ภาคภูมิว่า เคยไปรับราชการเป็น ผกก.สภ.เมืองเลย และแม่ของมินนี่เป็น สจ.อยู่ที่ จ.เลย แต่ช่วงนั้นตนโดนย้ายจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติไปอยู่สำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเท่าที่ถามจึงทราบว่าทั้งพ.ต.อ.ภาคภูมิ และ มินนี่ไปรู้จักกันตอนนั้น แต่จะมีสัมพันธ์ลึกซึ้งแค่ไหน ตนก็ไม่ทราบ ซึ่งสังคมอาจมองได้จากภาพที่ปรากฏออกมา
“ความสัมพันธ์ของ พ.ต.อ.ภาคภูมิ และมินนี่ ผมไม่รู้มาก่อน โดย พ.ต.อ.ภาคภูมิ เป็นตำรวจอยู่เมืองเลย 2 ปี และผมก็โดนมาประจำสำนักนายกฯ 2 ปีเช่นกัน ต่อมา พ.ต.อ.ภาคภูมิ ก็มาขึ้น รองผบก.สส.บช.ภ.4 ประเด็นเรื่องนี้ พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ รองผกก.สภ.สำโรงเหนือ ในฐานะเลขาของผม มีเส้นเงินที่โยงมายัง พ.ต.อ.ภาคภูมิ และอีกเส้นเงินโยงมาที่มินนี่ ประเด็นจึงอยู่ที่ พ.ต.ท.คริษฐ์ จึงตอบว่าเมื่อผมให้เงินทำงานไปแล้ว ทำไมถึงไปรับเงินจาก พ.ต.อ.ภาคภูมิและมินนี่มาอีก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์เผย
อย่างไรก็ตาม ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับ พ.ต.อ.ภาคภูมิด้วย เพราะหลังจากที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกมาให้สัมภาษณ์ดังกล่าว พ.ต.อ.ภาคภูมิก็ออกมาปฏิเสธโดยระบุว่า ยอมรับว่าตนเองรู้จักกับมินนี่และมีความใกล้ชิดกันจริง แต่ไม่ได้เจอกันบ่อย โดยรู้จัก “มินนี่” ไม่นานช่วงไปเป็น ผกก.เมืองเลย ปลายปี 2563 โดยแม่ของมินนี่เป็น ก.ตร. ก่อนย้ายไปขอนแก่น และไม่ได้เจอกันประมาณ 2 ปีเพิ่งได้มาพบอีกครั้งเมื่อต้นปี และไม่ได้มีความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยา ท้าให้ตรวจสอบได้ โดยหลังเกิดเรื่องยังไม่ได้พูดคุยกับมินนี่
“ที่ผ่านมาผมทำงานหนักจนไม่มีวันหยุด ไม่มีพฤติกรรมแบบนั้นหรอก” และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเรื่องเส้นเงินต่าง ๆ ที่พูดกันว่าถือบัญชีม้าของครรชิต และ พุฒิพงษ์ “ผมไม่มี ชีวิตผมมีอยู่บัญชีเดียว” สิ่งไหนที่ผมทำผมรับผิดชอบหมด แต่สิ่’ ไหนที่ผมไม่ได้ทำก็ต่อสู้ไปตามกระบวนการ พร้อมขอโทษลูก-ภรรยา ผู้เกี่ยวข้องอื่น ๆ ที่ได้รับผลกระทบ
“สาวน้อยมินนี่” ก่อนผงาดเป็นหน้าเสื่อเคลียร์เว็บพนัน
ถ้าจะให้เปรียบเทียบบทบาทของ“น้องมินนี่”ณ วันนี้แบบเห็นภาพ ก็คือ บทบาทของ “อั้ม ภูมิพัฒน์” กับ “แยม ธมลพรรณ์” สองสามีภรรยา เจ้าของเว็บพนัน และเว็บลามก ที่ถูกจับกุมไปเมื่อปลายปีที่แล้ว คือใน 2565 โดยกองปราบปราม พร้อมกับยึดทรัพย์ไป 700 กว่าล้านบาท โดย “อั้ม” ภูมิพัฒน์ ประเสริฐวิทย์ กับ “แยม” ธมลพรรณ์ ภานุชิตพุทธิวงศ์ ก็เปรียบเป็นเสมือน “หน้าเสื่อ-ขาใหญ่” ที่ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ภาครัฐที่คอยควบคุม ดูแลและปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์สายหนึ่ง คือตำรวจไซเบอร์, กระทรวงไอซีทีกับผู้ใหญ่ในสำนักงานปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง.
ส่วน “มินนี่” นั้นก็เป็น “หน้าเสื่อ” ที่ดูแลต่อสายเว็บพนัน และแก๊งอาชญากรรมออนไลน์ที่ดูแลเว็บในสายอีสาน
โดยก่อนมาเจอกันนั้น “มินนี่” มีบทบาทเป็นหน้าเสื่อ คอยเคลียร์ส่วยให้กับตำรวจภาค 4 อยู่ก่อนแล้ว
พ.ต.อ.ภาคภูมิ เมื่อได้รู้จักสาวสวยเจ้าของเว็บพนัน จึงเกิดการสานสัมพันธ์ และ “มินนี่” ก็ยกระดับจากการเป็นเจ้าของเว็บพนันมาเป็น“หน้าเสื่อ-ขาใหญ่”ที่คอยเคลียร์ผู้ใหญ่ ให้สามารถทำธุรกิจการพนันออนไลน์ได้อย่างสะดวกโยธิน
มินนี่เป็นคนคล่องแคล่ว มีปฏิภาณไหวพริบสูงในการเอาอกเอาใจดูแลหลังบ้านของเหล่าผู้ยิ่งใหญ่ได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง “สาวน้อยมินนี่” จึงใช้เวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา ในช่วงโควิดระบาด ผลักดันตัวเองขึ้นเป็นหน้าเสื่อระดับขาใหญ่ของภาค ทำหน้าที่เก็บเงินจากเว็บพนันต่าง ๆ เอามาส่งส่วยให้กับตำรวจ กลายเป็นเจ้าแม่ ที่มีเว็บเครือข่ายพนันออนไลน์จำนวนมากในมือ กลายเป็น “เจ้าแม่อายุน้อยร้อยเว็บ” ซึ่งยังมีเว็บพวกไม่มีเส้นต้องพึ่งพาบารมีของสาวน้อยที่มีอายุเพียงแค่ในวัยเบญจเพสเท่านั้น !?!
ทั้งนี้ทั้งนั้น เป็นที่ทราบกันดีว่า พื้นที่ตำรวจภูธรภาค 4 อย่าง จ.เลย และจ.ขอนแก่น ต้องเรียกว่าเป็นศูนย์กลางการทำเว็บพนันออนไลน์ภาคอีสาน เลยรวยกันอู้ฟู่ทั้งเว็บทั้งตำรวจ ยิ่งในช่วงที่มีการกวาดล้างจับกุมเจ้าของเว็บพนันขนานใหญ่ในช่วงที่ผ่าน ตั้งแต่ปี 2565-2566 หลายคน ไม่ว่าจะเป็น แก๊งมาเก๊า 888, “เมฆ รามา” สามีของดาราสาว “หยาดทิพย์ ราชปาล” รวมถึงรายอื่น ๆ กิจการเว็บพนันต่าง ๆ ก็ถึงคราวสะดุด เพราะโดนกวางล้างหนัก
ส่วน “มินนี่” จัดการเคลียร์จนหนทางสะดวก เพียงแต่ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเท่านั้น จากเดิม เว็บไซส์ S ต้องส่งส่วยให้ตำรวจเดือนละ 5 แสนบาท แต่ช่วงของการกวาดล้าง มินนี่ก็จัดการเรียกเก็บเครือข่ายละ 1.5 ล้านบาทต่อเดือน โดยเว็บเหล่านี้ควักจ่ายเพื่อให้สามารถทำธุรกิจได้โดยสะดวก จากนั้น “มินนี่” ก็เอาเงินไปส่งให้นายตำรวจใหญ่ ทำให้กิจการสีเทาใต้ปีกของเธอ กลับมาคึกคักและเติบโตตามเดิม โดยเข้าไปรับหน้าเสื่อและโยงกับ “ตาล ลำพูน” และ “เบสต์ Betflix”
ประเมินรายได้-เงินหมุนเวียน “มินนี่” เงินเข้าออก 200-300 ล้านต่อเดือน
รายได้และเงินหมุนเวียนของ“ มินนี่” จะมาจาก 2 ทางคือ
หนึ่ง เงินหมุนเวียนในเครือข่ายเว็บพนันอย่าง Betflik หรือ SPINIX ประมาณ 200-300 ล้านบาทเดือน โดยเป็นเงินหมุนเข้าออก
สอง เงินส่วยที่ตนเองได้จากเป็น “หน้าเสื่อ” รับเคลียร์จากเว็บพนันต่าง ๆ ประมาณ 10-15 สาย คิดเป็นรายได้หลายสิบล้านบาทต่อเดือน โดยนอกจากการส่งส่วยให้ตำรวจใหญ่แล้ว ก็ไม่ต้องมีรายจ่ายใด ๆ เพิ่มเติมอีก
มีข้อมูลเชิงลึกด้วยว่า“มินนี่”นั้นมักจะเดินทางไปที่ประเทศสิงคโปร์เป็นประจำ เพราะที่นั่นมี คาสิโนถูกกฎหมายที่สามารถใช้ฟอกเงินได้ ดังที่ผมเคยเล่าให้ฟังในรายการมาก่อนแล้วหลายครั้งว่า และการจ่ายเงินจ่ายทองหลายครั้งก็ทำกันที่ประเทศสิงคโปร์
อย่างไรก็ตาม การที่เครือข่ายของ“มินนี่”ถูกจับและสอบเส้นทางการเงินได้นั้น ก็เพราะเครือข่ายของเธอชะล่าใจ เนื่องจาก ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนการทำธุรกรรมไปใช้ “เงินคริปโต” เหมือนกับเครือข่ายพนันออนไลน์อื่น ๆ ที่เลิกใช้เงินสด เงินโอน และบัญชีม้า ในการทำธุรกรรมไปแล้ว แต่ยังใช้เงินสด และบัญชีธนาคารต่าง ๆ ในการทำธุรกรรมอยู่
ว่ากันว่า จากการจับกุมเมื่อปลายเดือนกรกฎาคม 2566 และการตรวจสอบทรัพย์สินของ “มินนี่” ในคราวนั้น พบว่าเธอมีทรัพย์สินร่ำรวยในระดับพันล้านไปเรียบร้อยแล้ว โดยเงินหลักพันล้านนั้น เป็นทรัพย์สินส่วนตัวของ “เจ้าแม่เว็บพนันวัยเบญเพส” นี้เท่านั้น มิใช่เงินหมุนเวียนของธุรกิจพนันแต่อย่างใด
“แสดงว่าเงินของเธอพันล้านที่เธอมีอยู่นั้นเป็นเงินที่ได้มาจากการสะสมจากเป็นหน้าเสื่อขาใหญ่เคลียร์กับตำรวจให้เจ้าของเว็บพนันโดยรับค่าต๋งทุกเดือนที่ทุกเว็บใน 15 สายต้องส่งให้เป็นประจำเพื่อให้รอดพ้นจากการจับกุม” นายสนธิกล่าว