xs
xsm
sm
md
lg

PLANET #3 : เจาะเงื่อนงำจุดจัดมหาคอนเสิร์ตยิวโต้รุ่งคนสี่พัน ติดถิ่นฮามาสระยะ 5 กม. & ปมสาวใสต้านเกณฑ์ทหารถูกอนาจารศพ!!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:


ชานนิ ลูค (22 ปี) ขบถสังคมสาวสวยยิว-เยอรมัน เป็นหนึ่งใน 3,000-4,000 คนที่ซื้อตั๋วคอนเสิร์ต Supernova Music Festival ที่แสนแพง และเมื่อผู้ก่อการร้ายฮามาสบุกข้ามพรมแดนอิสราเอล เข้าไปถล่มคอนเสิร์ตและยิงนักเที่ยวนักปาร์ตีตายกันระนาว เธอก็เป็นคนหนึ่งที่ถูกจับเป็นตัวประกัน และศีรษะของเธอถูกกระทบกระแทกรุนแรง จึงหมดสติยาวนาน ร่างกายของเธอถูกทำอนาจาร ถูกเปลื้องเสื้อผ้าเกือบตลอดตัว และถูกแห่ประจานไปบนรถปิคอัพในกาซาซิตี (ภาพล่าง) โดยมีขาของมือปืนคนซ้ายพาดบนท่อนสะโพก และมือปืนคนขวากุมเส้นพร้อมกับกดศีรษะไว้) โศกนาฏกรรมของชานนิ ลูค อาจไม่ใช่อุบัติเหตุภายในวิกฤติการณ์อันโกลาหล โดยมีเงื่อนงำบางอย่างที่แตกต่างจากเหยื่อฮามาสรายอื่นๆ!!
จรวดระลอกแรกที่ผู้ก่อการร้ายฮามาสข้ามพรมแดนเข้าไปถล่มอิสราเอลตั้งแต่รุ่งสาง ทำการตีโค้งฝ่าเวิ้งฟ้าเหนือเทศกาลดนตรี Supernova ที่บรรดาขาแดนซ์หนุ่มสาวชาวยิวนับพันรายเฮฮาปาร์ตีข้ามคืนจดจนโต้รุ่ง แต่เมื่อถูกมือปืนฮามาสโจมตีอย่างปุบปับและดุเดือด อารมณ์ชื่นมื่นเฉลิมฉลอง “มิตรภาพ ความรัก และเสรีภาพไม่สิ้นสุด” จึงต้องกลายเป็นความอลหม่านกระเจิดกระเจิง

ในตอนแรก ชุมชนปาร์ตีวัยประมาณยี่สิบถึงสามสิบปียังไม่ทันสังเกตเสียงระเบิดโครมครามที่คู่ขนานกับเสียงแผดกล้าของดนตรีจังหวะหนักแน่นแสนสนุก แต่สำหรับบรรดาที่คุ้นหูอยู่กับระเบิดจากดินแดนกาซา ถึงกับผวา วอชิงตันโพสต์รายงาน

บรรยายคลิป
กีย์ ดาน็อน กับเพื่อนๆ ขับรถหนีมือปืนฮามาสที่บุกเข้าไประดมยิงในลานคอนเสิร์ต แล้วไปหลบซ่อนใต้พุ่มไม้ของสวนส้ม และต้องรอความช่วยเหลือกว่า 8 ชั่วโมง ในระหว่างนั้น เขาถ่ายคลิปตนเองและเสียงน่าสะพรึงกลัวของอาวุธสงคราม

“พวกเราได้ยินไซเรนรัวๆ มากับเสียงจรวดมหาศาล จรวดเป็นตันเลยค่ะ” กล่าวโดยมิลเลต์ เบน ฮาอิม สาวยิววัย 27 ปี ที่ไปกระโดดโลดเต้นในเทศกาลดนตรีพร้อมกลุ่มก๊วนสาวๆ โดยก่อนหน้าการถูกโจมตีไม่กี่นาที หนึ่งในสาวสวยของก๊วนเพิ่งแลบลิ้นให้กล้องบันทึกภาพที่ระลึกความบันเทิง เมื่อ 6 โมงเช้า วันเสาร์ที่ 7 ตุลาคม 2023

ดนตรีอันมลังเมลืองเงียบลงอย่างปุบปับ

เสียงพูดประกาศเตือนภัยละล่ำละลักแผดออกจากทุกลำโพงยักษ์รอบเวทีใต้เต็นท์มหึมา ได้ยินทั่วพื้นที่ที่ออแกไนเซอร์เรียกว่า “สนามบันเทิงสำหรับผู้ใหญ่” ว่า

“ทุกคน สัญญาณเตือนสีแดง พวกนั้นโจมตีเข้ามา”

วิดีโอต่างๆ ที่วอชิงตันโพสต์ได้รับและตรวจสอบความน่าเชื่อถือแล้ว เผยให้เห็นผู้คนรีบเร่งหนีออกไปหาที่หลบภัย บางคนวิ่งลิ่ว บางคนวิ่งพลางเหลียวหลังไปมองประดาแสงวาบๆ ขาวเรืองของจรวดที่เคลื่อนตัวบนท้องฟ้า

หลายๆ คนในชุดดำพร้อมเสื้อกั๊กรักษาความปลอดภัยสีเหลือง คอยอำนวยการให้ฝูงชนนักปาร์ตีเคลื่อนหนีออกจากเต็นท์มหึมาที่ครอบเวทีโนวาสเตจ และลานแดนซิ่ง

ในนาทีต่อมา สิ่งที่นักเที่ยวคาดไม่ถึงก็อุบัติขึ้น กองกำลังติดอาวุธฮามาสจำนวนนับไม่ถ้วนได้ข้ามพรมแดนจากฉนวนกาซาเข้าสู่อิสราเอล และบุกประชิดบริเวณรอบพื้นที่งานเทศกาลดนตรี Super Nova ไว้ทั้งหมดแล้ว

ทันใดนั้น สารพัดปืนในมือศัตรูของชาวยิวเปิดฉากยิงถล่ม เสียงเกรี้ยวกราดกึกก้อง

“พวกเราออกวิ่งกันทันทีทั้งที่ก็ไม่ทราบว่าจะวิ่งไปทางไหน” สาวเบนฮาอิม เล่า “ไม่มีใครทราบว่าจะต้องทำอะไร”

เทศกาลดนตรีโดยบริษัท Tribe of Nova ซึ่งจัดขึ้นในเขตทะเลทรายใกล้ชุมชนคิบบุตซ์เรอิม เป็นหนึ่งในบรรดาเป้าหมายกลุ่มแรกๆ ที่ถูกฝ่ายฮามาสโจมตี ขณะบุกรุกเป็นระบบใหญ่เข้าเล่นงานเมืองยุทธศาสตร์ต่างๆ ของอิสราเอล

โดยมีการลุยข้ามพรมแดนเข้าไปปิดล้อมทั่วบริเวณรอบพื้นที่คอนเสิร์ต และระดมยิงฝูงชนที่พยายามหนีให้คว่ำตายร่วงไปตามถนนและพื้นดิน ตลอดจนจับกุมหนุ่มสาวทั้งชาวยิวและคนชาติอื่นๆ จำนวนนับร้อยรายไปเป็นตัวประกัน

ขณะที่นักปาร์ตีนับพันยังแดนซ์สนุกสนานโต้รุ่งสู่รุ่งสางของวันเสาร์ 7 ตุลาคม (ภาพซ้าย) เทศกาลดนตรีของบริษัท Tribe of Nova เป็นหนึ่งในเป้าหมายการโจมตีของกองกำลังติดอาวุธฮามาส ซึ่งบุกจากฉนวนกาซาข้ามเข้าสู่อิสราเอลได้ไม่ยาก ทั้งด้วยวิธีถล่มทำลายรั้วอันแข็งแกร่งที่กางกั้นพรมแดน และด้วยเครื่องร่อนเหินฟ้าเข้าไป (ภาพขวา) โดยมิได้ถูกทหารยิวสอยร่วง

000 คนที่ซื้อตั๋วคอนเสิร์ต Supernova Music Festival ที่แสนแพง และเมื่อผู้ก่อการร้ายฮามาสบุกข้ามพรมแดนอิสราเอลเข้าไปถล่มคอนเสิร์ตและยิงนักเที่ยวนักปาร์ตีตายกันระนาว เธอก็เป็นคนหนึ่งที่ถูกจับเป็นตัวประกัน และศีรษะของเธอถูกกระทบกระแทกรุนแรง จึงหมดสติยาวนาน ร่างกายของเธอถูกทำอนาจาร ถูกเปลื้องเสื้อผ้าเกือบตลอดตัว และถูกแห่ประจานไปบนรถกระบะในกาซาซิตี (ภาพล่าง) โดยมีขาของมือปืนคนซ้ายพาดบนท่อนสะโพก และมือปืนคนขวากุมเส้นผมพร้อมกับกดศีรษะไว้) โศกนาฏกรรมของชานนิ ลูค อาจไม่ใช่อุบัติเหตุภายในวิกฤตการณ์อันโกลาหล โดยมีเงื่อนงำบางอย่างที่แตกต่างจากเหยื่อฮามาสรายอื่นๆ!!
ขบถสาวหน้าใสที่ ‘ผู้ใหญ่’ ไม่รัก? ‘ชานนิ ลูค’ ยิว-เยอรมันวัย 22 ปี ถูกลักพาตัว เห็นอีกทีคือ ศพถูกเปลือย & วางคว่ำหน้าไว้ท้ายกระบะ แห่ไปตามท้องถนน!!

ชานนิ ลูค ศิลปินแท็ตทูสาวยิว-เยอรมัน วัย 22 ปี โปรไฟล์น่าจะไม่ธรรมดา เธอเป็นหนึ่งในเหยื่อที่ประสบเคราะห์กรรมรุนแรงอย่างที่สุด

คุณแม่ริคาร์ดา ลูค ให้สัมภาษณ์แก่ซีเอ็นเอ็นว่าช่วงเช้าตรู่ประมาณ 06.00 น. ของวันเสาร์ที่ 7 ตุลาคม ที่มีการยิงจรวดมากมายเข้าโจมตีอิสราเอล คุณแม่รีบโทรศัพท์เช็กว่าลูกที่ไหน ปลอดภัยหรือไม่

ตอนนั้น ชานนิ ยังสามารถรับโทรศัพท์ได้ เธอบอกคุณแม่ด้วยน้ำเสียงตกใจอยู่บ้างว่ามีผู้ก่อการร้ายบุกเข้ามา แต่เธอปลอดภัยดี กำลังรีบจะไปเอารถขับหนีออกจากลานคอนเสิร์ต

ในเวลาต่อมา คุณแม่ติดต่อ ชานนิ ไม่ได้แล้ว แต่มีข่าวแจ้งเข้าไปว่าชานนิถูกกลุ่มติดอาวุธฮามาสจับเป็นตัวประกันพร้อมคนอื่นๆ

ภายในวันเสาร์มหาวิปโยคนั้น เพื่อนคุณแม่ริคาร์ดาส่งคลิปไปให้ ซึ่งเป็นคลิปที่กระหน่ำแชร์กันทั่วโซเชียลมีเดีย ในคลิปแสดงให้เห็นชายพร้อมอาวุธสงคราม 4 ราย นั่งท้ายรถกระบะซึ่งเคลื่อนที่ช้าๆ ไปตามถนนในกาซาซิตี โดยมีร่างของหญิงสาวซึ่งนิ่งสนิทไม่ไหวติง ถูกกองคว่ำหน้า คาไว้บนพื้นกระบะ เส้นผมของร่างดังกล่าวเป็นขมวดเกลียวยาวรุ่ยร่ายแบบเดรดล็อก โดยบางส่วนอยู่ในกำมือของมือปืนนายหนึ่งซึ่งคอยกดศีรษะเธอไว้ นอกจากนั้น บริเวณสะโพกมีขาของชายมือปืนอีกรายหนึ่งพาดคาไว้เพื่อล็อกตรึงร่างที่น่าสงสารนั้นให้อยู่กับที่

มือปืนอีกสองรายที่นั่งติดห้องโดยสารของกระบะ ชูปืนอาร์พีจีขึ้นฟ้า ตะโกนว่า "Allahu Akbar" อันเป็นภาษาอาหรับแปลได้ว่า “พระเจ้าทรงยิ่งใหญ่” และในช่วงท้ายๆ คลิปยังมีวัยรุ่นชายชะโงกหน้าเข้าไปถ่มน้ำลายใส่เส้นผมทรงเดรดล็อกนั้น คลิปที่ซีเอ็นเอ็นนำขึ้นเป็นข่าว แสดงให้เห็นรายละเอียดไว้อย่างนั้น

ส่วนที่น่าสะเทือนใจที่สุดภายในความรุนแรงมากมายที่กระทำต่อหญิงสาวร่างแบบบางนี้ คือ

ร่างกายของเธอถูกเปลือยเกือบหมด และถูกนำไปแห่ตามท้องถนน อันเป็นการอนาจารศพอย่างโหดร้าย ซึ่งน่าจะเกิดขึ้นเพราะผู้ทำร้ายเธอมีความเกลียดชังและต่อต้านบางสิ่งเกี่ยวกับเธอ อาจจะเป็นบางสิ่งเกี่ยวกับทรงผม หรือการแต่งหน้า หรือวัฒนธรรมการนุ่งห่มปิดบังร่างกาย

แม้จะไม่เห็นใบหน้าของหญิงสาวที่ถูกกระทำย่ำยี แต่คุณแม่ริคาร์ดา และญาติๆ มั่นใจเลยว่าเป็น ชานนิ ลูค ของครอบครัว เพราะทุกคนจำรอยสักแท็ตทูต่างๆ ของเธอได้ดี

คลิปสุดท้ายของชานนิ ลูค (ภาพซ้าย คนขวา) ก่อนตกเป็นตัวประกันของฮามาส ทั้งนี้ด้วยทรงผมเดรดล็อกและลายแท็ตทูบนหน้าแข้ง (ภาพขวา) ญาติพี่น้องจึงแน่ใจได้ทันทีว่าเธอคือร่างหญิงสาวที่ถูกวางกองคว่ำหน้าไว้ท้ายกระบะรถปิคอัพ
คุณแม่ริคาร์ดาแจ้งขอความช่วยเหลือไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจอิสราเอล และสถานทูตเยอรมนีในกรุงเทลอาวีฟ แต่ไม่มีข่าวคราวคืบหน้าใดๆ คุณแม่จึงตัดสินใจนำคลิปและเรื่องราวของ ชานนิ พร้อมภาพถ่ายต่างๆ ขึ้นประกาศขอความช่วยเหลือไปบนสื่อสังคมทั้งปวง

นักข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นเล่าว่า ได้ทำการติดต่อคุณแม่ริคาร์ดา เพื่อสัมภาษณ์และประกาศสู่โลกทั้งมวล คุณแม่ตอบตกลงให้เผยแพร่ภาพต่างๆ ของ ชานนิ รวมทั้งภาพที่ถูกทำอนาจารอย่างทารุณไปเผยแพร่เพื่อที่สาธารณชนจะได้ทราบถึงความเลวร้าย โดยซีเอ็นเอ็นเล่าถึงเหตุผลว่า เพราะนี่เป็นเรื่องสำคัญ

“เราได้รับวิดีโอจากเพื่อนผ่านมาทางโซเชียลมีเดียค่ะ เราบอกได้เลยว่าเป็นลูกสาวของเราที่ถูกจับนอนคว่ำตรงท้ายรถ มีผู้ชายถืออาวุธนั่งติดกับเธอ คอยจับกดเธอไว้” คุณแม่ให้สัมภาษณ์แก่ซีเอ็นเอ็นในช่วงเช้าวันอาทิตย์

“เราเห็นเลยว่าพวกนั้นอยู่ในฉนวนกาซา”

ยิ่งกว่านั้น ยังมีหลักฐานสำคัญอีกประการหนึ่ง คือ บัตรเครดิตของชานนิ ลูค น่าจะถูกขโมยไปจากตัวเธอ และจึงเกิดธุรกรรมการรูดบัตรนี้ขึ้นมาในกาซา ซิตี เอพีรายงานข่าวประเด็นนี้

ฝ่ายต่างๆ ที่ได้เห็นสภาพร่างกายของหญิงสาวซึ่งนอนคว่ำหน้า วางคาไว้ท้ายกระบะรถกระบะโดยไม่ไหวติงแม้แต่น้อย พากันเชื่อว่าหญิงสาวที่น่าสงสารคงจะเสียชีวิตแล้ว

แต่คุณแม่ริคาร์ดามีเบาะแสที่ทำให้เชื่อว่าสภาพแท้จริงของร่างกายชานนิ อยู่ในสภาพหมดสติอันเป็นผลจากการที่ศีรษะถูกกระทบกระแทกรุนแรง และยังมีชีวิต และที่สำคัญคือชะตากรรมของชานนิพ้นออกจากจุดต่ำสุดของชีวิตแล้ว คือพ้นจากสถานการณ์ที่ถูกล่วงละเมิดอย่างร้ายกาจ และปล่อยให้ตายไปในกาซา กลายมาเป็นสถานการณ์ที่ได้รับการผ่อนปรน ถูกส่งเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล

คุณแม่ริคาร์ดาเปิดเผยต่อหนังสือพิมพ์บิลด์ในเยอรมนี ว่าได้รับแจ้งจากหลายแหล่งข่าวในฝ่ายปาเลสไตน์ว่า ชานนิยังมีชีวิต และอยู่ที่โรงพยาบาล โดยได้รับการรักษาอาการบาดเจ็บสาหัสบริเวณศีรษะ

ความช่วยเหลือที่คุณแม่จึงร้อนใจอยากได้จากรัฐบาลยิวและรัฐบาลเยอรมนี คือ ขอให้รีบช่วยเอาตัวชานนิกลับเทลอาวีฟโดยเร็วที่สุด เพื่อให้ถึงมือแพทย์ที่มีความพร้อม และให้ปลอดภัยพ้นความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากสงครามโต้ตอบที่รัฐบาลยิวดำเนินการอยู่กับฮามาสในฉนวนกาซา

ยิ่งกว่านั้น รายงานของนิวยอร์กโพสต์เผยว่า คนสนิทของครอบครัวชานนิ ให้สัมภาษณ์กับสื่อเยอรมนี แดร์ชปีเกิล ด้วยว่า “เพื่อน” รายหนึ่งของครอบครัวลูคซึ่งอยู่ในฉนวนกาซา มั่นใจว่าชานนิอยู่ที่โรงพยาบาลอินโดนีเซีย ในเมืองไบต์ลาฮิอา ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือใกล้ชายแดนอิสราเอล แต่บุคคลที่ให้ข่าวนี้มา ยังไม่สามารถเข้าไปเยี่ยมดูอาการของชานนิได้

(โรงพยาบาลอินโดนีเซีย หรือก็คือ Indonesia Hospital เป็นโรงพยาบาลที่ก่อสร้างขึ้นด้วยเงินบริจาคจากประชาชนอินโดนีเซีย และองค์กรต่างๆ เช่น สภากาชาดอินโดนีเซีย เปิดดำเนินงานตั้งแต่ปี 2016 และบริหารงานด้วยงบประมาณของกระทรวงสาธารณสุขแห่งกาซา)

คุณแม่ริคาร์ดา (ภาพกรอบเล็ก) ของ ชานนิ ลูค ดิ้นรนสุดความสามารถในการร้องขอความช่วยเหลือเพื่อช่วยให้ชานนิ ได้ออกจากฉนวนกาซา และได้รับการรักษาอาการบาดเจ็บสาหัสบริเวณศีรษะ

คลิปสุดท้ายของชานนิ ลูค (ภาพซ้าย คนขวา) ก่อนตกเป็นตัวประกันของฮามาส ทั้งนี้ด้วยทรงผมเดรดล็อกและลายแท็ตทูบนหน้าแข้ง (ภาพขวา) ญาติพี่น้องจึงแน่ใจได้ทันทีว่าเธอคือร่างหญิงสาวที่ถูกวางกองคว่ำหน้าไว้ท้ายกระบะรถกระบะ

ชานนิ ลูค ถูกทำอนาจารอย่างน่าสงสารเป็นที่สุด โดยเธอหมดสติเพราะบาดแผลฉกรรจ์ที่ศีรษะ เธอถูกเปลื้องเสื้อผ้าเกือบหมด แล้วถูกจับนอนคว่ำหน้า วางกองกับพื้นกระบะ โดยมีขาของมือปืนคนซ้ายพาดบนสะโพกเพื่อตรึงไม่ให้ร่างของเธอเคลื่อนที่ ส่วนเส้นผมเดรดล็อกบางส่วนอยู่ถูกกุมอยู่ในมือของผู้ก่อการร้ายคนขวา ซึ่งคอยกดศีรษะของเธอ
ปมเคลือบแคลงใจระรัวขึ้นมาเกี่ยวกับการที่ ชานนิ ลูค ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือจากทางการอิสราเอลและเยอรมนี ในการนำตัวกลับเทลอาวีฟ

ชานนิ ลูค ถือกำเนิดในเยอรมนีเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2001 เธอมีสัญชาติเยอรมันและมีพาสปอร์ตเยอรมัน และตั้งแต่ที่เธอยังเป็นเด็ก ครอบครัวลูคได้ย้ายถิ่นมาตั้งหลักปักฐานในอิสราเอล โดยชานนิได้สัญชาติยิว เดลิเมลออนไลน์รายงาน

ขณะที่ชานนิเป็นศิลปินผู้เชี่ยวชาญด้านการสักแท็ตทู และใช้ชีวิตไปกับการเดินทางท่องเที่ยวตามประเทศต่างๆ ซึ่งเป็นแบบที่เรียกกันว่าคนโลกสวย โดย โทมาสินา ไวน์ทราวบ์ ลูกสะใภ้บ้านคุณป้าของชานิ เล่าถึงชานนิว่าเป็นคนรักสันติ เป็นนักปาร์ตี ชอบคอนเสิร์ต ชอบเต้นรำและร้องเพลงนั้น

แต่ชานนิเป็นนักรณรงค์เพื่อสันติภาพด้วย เธอมีจิตสำนึกขบถและออกโรงคัดค้านการเกณฑ์ทหาร

คุณป้าออร์ลี ลูค ของชานนิ เล่าถึงปมข้อนี้ไว้กับหนังสือพิมพ์แดร์ ชปีเกิลของเยอรมนี ว่า ชานนิปฏิเสธที่จะยอมถูกเกณฑ์ทหาร อันเป็นข้อบังคับตามกฎหมายต่อสตรีชาวยิว โดยชานนิแถลงว่าเธอจะไม่เข้าเป็นทหาร เพราะเธอมีอุดมการณ์แห่งสันติภาพ เดลิเมลออนไลน์รายงาน

ปัญหาข้อนี้ยุติลงได้โดยที่ ชานนิ ไม่ต้องเป็นทหารเกณฑ์ และไม่ต้องถูกดำเนินคดีข้อหาหนีทหาร โดยทางการยิวหันไปใช้หลักเกณฑ์ว่าเธอถือพาสปอร์ตเยอรมัน เธอเป็นประชากรของเยอรมนี

ปมขัดแย้งในเรื่องเกณฑ์ทหารเป็นอะไรที่ตึงเครียดสำหรับอิสราเอล ซึ่งต้องบริหารประเทศอย่างเข้มงวด เพื่อความเข้มแข็งของชาติที่ปักหลักอยู่ในแวดล้อมของบรรดาประเทศอาหรับผู้เป็นศัตรูถาวร ดังนั้น เรื่องเกณฑ์ทหารของชานนิสามารถยุติลงแบบนี้ น่าจะต้องเป็นอะไรที่ทางการยิวจำใจยอมประนีประนอมเพื่อเห็นแก่ผลดีด้านอื่น

ภาพจากคลิปบนโซเชียลมีเดีย ซึ่งซีเอ็นเอ็นนำไปประกอบข่าวที่ ชานนิ ลูค ถูกแห่ประจานบนรถกระบะที่แล่นไปทั่วกาซาซิดี บนกระบะนี้มีมือปืนพร้อมอาวุธสงคราม 4 ราย และที่ปลายเท้าของชายสองคนในภาพนี้ คือ ร่างของชานนิ
ร่องรอยที่บ่งบอกเงื่อนงำบางอย่างถูกเปิดเผยออกมาจากชุมชนคนยิวในพอร์ตแลนด์ รัฐออริกอน โดยลูกสาวของคุณครูเดโวราห์ ชปิลมาน ที่เคยสอนชานนิในโรงเรียนอนุบาลพอร์ตแลนด์ แจ้งให้คุณครูทราบถึงชะตากรรมของชานนิ ผู้ที่ชาวชุมชนคนยิวพอร์ตแลนด์ยังจดจำได้ แล้วข่าวก็สะพัดออกไปอย่างรวดเร็ว

ในวันจันทร์ที่ 9 ตุลาคม สื่อใหญ่แห่งพอร์ตแลนด์ KOIN 6 News ทำการสัมภาษณ์คุณครูเดโวราห์ โดยในข่าวมีการรายงานข้อมูลจากคุณครูว่า ครอบครัวของชานนิเป็นสมาชิกครอบครัวอินเทล ซึ่งเดินทางเข้าไปอยู่กับชุมชนชาวยิวแห่งพอร์ตแลนด์ช่วงกลางๆ ทศวรรษ 2000s โดยอยู่ได้ระยะหนึ่งเสร็จภารกิจ ก็เดินทางกลับเยอรมนี

ทั้งนี้ อินเทล เป็นอภิยักษ์ระดับโลกผู้ผลิตองค์ประกอบสำคัญต่างๆ ของคอมพิวเตอร์ และสำหรับอินเทล ณ ซิลิคอน ฟอร์เรสต์ แห่งพอร์ตแลนด์ ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 1975 และมีพนักงานกว่า 22,000 รายในปัจจุบัน โดดเด่นด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์โซลูชัน ที่ตอบความต้องการของลูกค้าวีไอพีและวีวีไอพีในสารพัดการใช้งาน

รายละเอียดทั้งปวงนี้ คือเครื่องบ่งชี้ที่สำคัญ ทั้งเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ลูคอยู่ในแวดวงอภิยักษ์ไอทีอย่างอินเทล ทั้งเรื่องที่ชานนิได้รับยกเว้นจากการเกณฑ์ทหารในประเทศที่ขวาสุดโต่ง ทั้งเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่แห่งครอบครัวยิว มีแหล่งข่าวหลายแหล่งอยู่ในชุมชนชาวอาหรับของฉนวนกาซา โดยเป็นแหล่งข่าวที่รู้ลึกถึงสภาพการณ์ของชานนิระดับที่สามารถระบุชื่อโรงพยาบาลที่รักษาดูแลเธอ.ไปจนถึงการที่สถานการณ์ย่ำแย่ขั้นสุดของชานนิ สามารถพลิกจากผู้หญิงยิวที่ถูกล่วงละเมิดอย่างหนักและอาจถูกปล่อยให้ตายอย่างอเนจอนาถ พลิกมาสู่การได้รับการผ่อนปรนให้ได้รับการช่วยชีวิต ตลอดจนได้รับการรักษาในโรงพยาบาล

นี่เป็นเครื่องชี้บ่งที่สามารถสะท้อนให้วิเคราะห์ได้ถึงโปรไฟล์ไม่ธรรมดาของคุณพ่อคุณแม่ตระกูลลูค ภายในแวดวงของอิสราเอล และอาจชี้บ่งไปถึงสาเหตุที่ทำให้ชานนิ ลูกสาวคุณพ่อคุณแม่ลูค ถูกหมายหัวจากผู้ก่อการร้ายฮามาส

ดังเห็นได้จากภาพข่าวของเอพีว่า ร่างกายซึ่งหมดสติของชานนิ ถูกมือปืนฮามาสแยกตัวออกมาไว้บนท้ายรถกระบะตามลำพัง โดยมีมือปืนคุมสถานการณ์ถึง 4 ราย และขณะที่เคลื่อนรถข้ามพรมแดน มือปืนรายหนึ่งมีภาษาท่าทางที่แจ้งทราบว่า เป้าหมายที่ต้องการตัวอยู่ตรงท้ายรถแล้ว

ร่างกายซึ่งหมดสติของชานนิ ถูกมือปืนฮามาสแยกตัวออกมาจากกลุ่มตัวประกัน และนำไปวางไว้บนท้ายรถปิคอัพตามลำพัง โดยมีมือปืนคุมสถานการณ์ถึง 4 ราย ทั้งนี้ มือปืนคนที่ยืนอยู่ ชี้นิ้วลงไปที่ชานนิ อันเป็นภาษาท่าทางที่ดูออกว่ากำลังแจ้งว่า เป้าหมายที่ต้องการตัว อยู่ตรงท้ายรถแล้ว

เด็กหญิงชานนิ ลูค ขณะเรียนชั้นอนุบาลที่ชุมชนชาวยิวในพอร์ตแลนด์ รัฐออริกอน โดยคุณพ่อคุณแม่ทำงานกับจอมยักษ์ไอทีระดับโลก คือ Intel
จำนวนเหยื่อที่ถูกยิงทิ้งในจุดตั้งเวทีคอนเสิร์ต ตามพื้นที่รอบนอก และในหลายเมืองที่ถูกโจมตี คือ 260 ศพ โดยผู้ที่พยายามขับรถหนีถูกปลิดชีพตายเกลื่อน

กองกำลังติดอาวุธฮามาสตระเวนตามไล่ล่านักปาร์ตี Supernova Music Festival แบบยุ่บยั่บไปทั่ว หนีไปทางไหนก็เจอ หนีไปข้างไหนก็ตาย บีบีซีรายงานและบอกด้วยว่า

‘ทุกแอ็กเคานต์บนนานาโซเชียลมีเดียระบุตรงกันว่า แคมป์เทศกาลดนตรีถูกล้อมไว้หมดทุกทิศทาง ขณะที่บรรดาถนนขาเข้าและขาออกถูกบล็อกแน่นหนา’

เหยื่อมือปืนฮามาสที่ถูกยิงทิ้งอย่างโหดเหี้ยมทั้งในพื้นที่ตั้งแคมป์เทศกาล และในรถขณะพยายามขับหนีให้พ้นทุ่งสังหารหมู่ ล้วนแต่น่าสงสาร มีทั้งชายและหญิงในวัยทำงานอายุประมาณ 20-30 ปีซึ่งล้วนแต่ไม่คิดเลยว่า ชีวิตในอิสราเอลที่คุณพ่อคุณแม่พาย้ายประเทศมาตั้งถิ่นฐานเพื่ออนาคตที่มีโอกาสทางเศรษฐกิจมากขึ้น จะต้องจบลงแบบอเนจอนาถ

ผู้คนที่พยายามดิ้นรนหาทางหนีตายจากเวทีคอนเสิร์ต ต่างไม่เชื่อเลยว่าจะต้องเผชิญกับอีกหนึ่งเฟสของการถูกล่าสังหารโดยมือปืนฮามาส บีบีซีรายงาน โดยใช้ข้อมูลจากวิดีโอที่ตรวจสอบแล้วว่าเป็นคลิปจริง

“ตอนที่มีการระดมยิงจรวดเข้ามาในอิสราเอล พวกมือปืนก็เดินดาหน้าเข้ามาที่แคมป์ และเริ่มลั่นไกครับ กระสุนมาจากทุกทิศทาง และเสียงก็ดังมากขึ้นเรื่อยๆ” กีแลด คาร์พลุส วัย 31 ปี นักบำบัดด้วยการนวดซึ่งทำงานในพื้นที่คอนเสิร์ต เล่ากับบีบีซี และบอกว่า

“ผมเห็นผู้คนร่วงกองลงกับพื้น พวกผมก็รีบกระโจนขึ้นรถจี๊ป แล้วพุ่งไปหาที่หลบซ่อนตามเรือกสวน”

ด้าน มิลเลต์ เบน ฮาอิม เล่าแก่ผู้สื่อข่าวของวอชิงตันโพสต์ถึงห้วงเดียวกันนี้ว่า พวกเธอเห็นกลุ่มติดอาวุธเดินเข้ามาตั้งแต่ไกลๆ แล้ว

“ดิฉันดึงกุญแจรถมาจากเพื่อน และเอาคนขึ้นรถอัดแน่นเต็มคัน แล้วขับตะบึงออกไปอย่างบ้าคลั่ง” เบนฮาอิมเล่าอย่างนั้น และบอกว่า

“คนอื่นๆ ที่ไม่รีบออกมา ส่วนส่วนใหญ่ถูกลักพาตัวไป หรือไม่ก็ถูกฆ่าค่ะ”

พวกมือปืนกระจายไปทั่วทุกจุด และมีรถรามากมายที่ยอมจอด โดยตั้งใจจะให้จับ แต่กลับถูกยิงตายกลางถนน เบนฮาอิมบอก

ร่างกายซึ่งหมดสติของชานนิ ถูกมือปืนฮามาสแยกตัวออกมาจากกลุ่มตัวประกัน และนำไปวางไว้บนท้ายรถกระบะตามลำพัง โดยมีมือปืนคุมสถานการณ์ถึง 4 ราย ทั้งนี้ มือปืนคนที่ยืนอยู่ชี้นิ้วลงไปที่ชานนิ อันเป็นภาษาท่าทางที่ดูออกว่ากำลังแจ้งว่าเป้าหมายที่ต้องการตัวอยู่ตรงท้ายรถแล้ว

สภาพของความเสียหายยับเยินจากการโจมตีของฮามาส รถยนต์ทั้งหลายถูกจอดทิ้งและหลายคันถูกมือปืนฮามาสจุดไฟเผาทิ้ง ขณะที่เจ้าของรถต้องหนีไปหาที่หลบซ่อนตามพุ่มไม้ในเรือกสวน

รถเป็นยิงถล่มเป็นรูพรุน กระจกแตก เจ้าของรถจำนวนมากถูกมือปืนฮามาสยิงตายฟุบคาถนน
นอกจากนั้น กาล ราซ หนุ่มวัย 31 ปี เล่าว่าพอทราบถึงสถานการณ์นักรบฮามาสบุกเข้ามา ก็พยายามขับรถหนีพร้อมเพื่อนหลายคน

“เราได้ยินเสียงปืนดังทั่วไปหมด แต่แล้วรถผมก็ไปติดกับที่ถนนหนึ่ง ผมเห็นรถหลายคันจอดแน่นิ่งปิดช่องทาง บนหลังคารถพวกนั้นมีศพกองทับ” กาล ราซ เล่า และบอกว่า “พวกผมขึ้นหน้าไม่ได้ ถอยกลับก็ไม่ได้”

ดังนั้นจึงย้ายไปอัดกันในรถของเพื่อนอีกคันหนึ่ง แต่เคลื่อนตัวได้นิดเดียว ก็เผชิญนาทีเฉียดตาย

“ผู้ก่อการร้ายมีกันประมาณ 7-8 คน พวกนั้นระดมยิงใส่รถเรา” กาล ราซ เล่าอย่างนั้น

แล้วบอกว่าพอขับรถฝ่าไปได้ไม่กี่ร้อยเมตร ก็ตัดสินใจทิ้งรถ แล้ววิ่งหาที่หลบซ่อนกัน ในจังหวะนั้น ได้วิ่งผ่านรถอีกคัน จึงได้เห็นว่าพวกคนในรถคงจะยอมจอด แล้วก้าวลงมา กลุ่มนี้คือถูกยิงตายร่วงอยู่ข้างรถ

วอชิงตันโพสต์รายงานด้วยว่า ขณะที่ กาล ราซ หลบซ่อนตัว เขาคิดถึงหญิงคนรักอย่างที่สุด อีกไม่นานก็จะเข้าพิธีแต่งงานกันแล้ว

ส่วนสาวอินฟลูเอนเซอร์แห่งอินสตาแกรมนางหนึ่งโพสต์เล่าว่า พอเห็นจรวดมากมายร่อนอยู่ในท้องฟ้า ทุกคนพากันหนีออกจากพื้นที่จัดงาน Supernova Music Festival

“เราขับรถไปตามถนนสายหลักค่ะ แต่นาทีเดียวก็มีเสียงกรี๊ดขึ้นในรถ เพราะพวกผู้ก่อการร้ายระดมยิงเข้ามา” เธอเล่าสู่บรรดาฟอลโลเวอร์

“แล้วแค่สองนาที พวกเรารู้เลยว่าเส้นทางใหม่ที่เรามุ่งหน้าไปนั้นมีผู้ก่อการร้ายเยอะมากกว่า และพวกนี้เตรียมตัวมาฆ่าคนยิว”

สาวนักปาร์ตีอีกรายหนึ่งนามว่า ออร์เทล เล่าออกทีวีอิสราเอลช่องแชนเนล 12 ว่า ผู้ก่อการร้ายในชุดเครื่องแบบทหารราว 50 นายมากันเป็นหลายคันรถตู้ มาถึงก็ตัดไฟฟ้า แล้วระดมยิงจากสารพัดทิศทางถล่มผู้คนที่ยังหนีออกไปไม่หมด

ออร์เทลเล่าด้วยว่า บรรดาคนในบริเวณรอบนอกกรูกันวิ่งตัดพื้นทรายไปยังรถยนต์ โดยจำนวนมากสามารถขึ้นรถขับหนีออกไปได้ แต่ก็โดนพวกมือปืนบนรถจี๊ปมากมายไล่ยิงทะลุตัวถัง

“รถที่ดิฉันหนีออกมาด้วย พุ่งพ้นออกมาได้ แต่ก็ไปถึงจุดที่เป็นเรือกสวน และมีการบล็อกถนน รถทั้งหลายไปต่อไม่ได้ ต้องจอดแล้ววิ่งหนีออกหาที่หลบ และมีหลายคนถูกยิงร่วง ดิฉันวิ่งไปหลบในดงไม้ใบทึบๆ วิ่งไป มองไป เห็นคนถูกยิงล้มเกลื่อนเลยค่ะ”

รั้วกั้นพรมแดนอิสราเอล-ฉนวนกาซา ถูกฮามาสพังเป็นช่องทางกว้างขวาง เปิดทางให้บรรดามือปืนขับรถตะลุยเข้าไปโจมตีชาวยิวอย่างบ้าระห่ำ
ฟุตเทจจากบีบีซีให้เห็นกระจะ ‘มือปืนฮามาสยิงทิ้งเหยื่อสุดหฤโหด ผู้หลบซ่อนและถูกจับได้ หากเจอสายล่าตัวประกันก็ไม่ตาย

น่าจะเป็นผู้ที่หมดบุญแล้วจริงๆ จึงหลบซ่อนไม่พ้น และถูกสังหารโหด ฟุตเทจที่บีบีซีได้จากโซเชียลมีเดียเผยให้เห็นกระจะตา

ฟุตเทจจากแดชแคม ซึ่งระบุเวลา ณ 09.23 น. บริเวณรถยนต์ที่ถูกจอดทิ้ง ปรากฏมือปืน 3 รายเดินไปยังรถคันดังกล่าว

ในเฟรมของฟุตเทจนี้ มีร่างหนึ่งนอนนิ่งขึงซุกอยู่ข้างรถ แต่ในจังหวะนั้น ชายติดอาวุธพร้อมปืนออโตเมติกมองไปทางขวา นอกเฟรม และเห็นเหยื่อหลบซ่อน ก็สั่งลูกน้องให้ไปจับตัว ลูกน้องในเสื้อแขนยาวสีครีมพร้อมเสื้อกั๊กบรรจุเครื่องกระสุน เข้าไปลากคอเสื้อยืดของเหยื่อ แล้วคุมตัวให้เดินผ่านเฟรมภาพ บีบีซีเล่าไว้อย่างนั้น

แต่แล้ว ร่างที่นอนแสร้งตายตรงท้ายรถเกิดจะขยับกายเพื่อลอบดูเหตุการณ์

มันคือการตัดสินใจผิดพลาดที่ถึงแก่ชีวิต

มือปืนฮามาสในเสื้อสีแดงวิ่งผ่านเข้าสู่เฟรมภาพ และจ่อยิงหัวเหยื่อรายนี้อย่างเลือดเย็น แล้วเดินจากไปเฉยๆ บีบีซีรายงาน

มือปืนฮามาสจับนักปาร์ตีคอนเสิร์ตไปเป็นตัวประกัน ขณะที่ตรงท้ายรถยนต์สีขาวมีคนหลบซ่อนด้วยการแกล้งตาย

ชายที่หลบซ่อนที่ท้ายรถด้วยการแกล้งตาย เกิดจะขยับตัวเพื่อดูสถานการณ์ มือปืนฮามาสในเสื้อสีแดงเห็นเข้า จึงเดินเข้าไปจ่อยิงศีรษะ
ในตอนท้ายๆ ของฟุตเทจนี้ กลุ่มมือปืนอีกทีมผ่านเข้ามาในเฟรมภาพ โดยมีรายเดียวที่ถืออาวุธ ทั้งนี้ คะเนได้ว่าพวกนี้มุ่งจะเข้ามาปล้น โดยไปไล่ค้นกระเป๋าของศพที่เพิ่งถูกสังหารที่ข้างรถ จากนั้นจึงย้ายไปค้นหาทรัพย์ในกระเป๋าเดินทางของรถอีกคันหนึ่ง แล้วก็พบสิ่งมีค่ามากกว่าที่คาดคิด

หนึ่งชายกับหนึ่งหญิงชาวยิวแอบซ่อนในรถ และถูกลากออกมาเพื่อเอาไปเป็นตัวประกัน

ฉากสยดสยองอุบัติขึ้นใน 2 นาทีต่อมา โดยตัวประกันหญิงวิ่งย้อนกลับไปที่รถและจึงปรากฏตัวบนฟุตเทจ เธอโบกมือขึ้นฟ้า คงจะคาดว่ามีใครเข้าไปช่วยเพราะในห้วงเวลานั้น กองกำลังป้องกันประเทศของอิสราเอลเริ่มกระจายกำลังเข้าไประงับเหตุการณ์ร้ายแรงนี้บ้างแล้ว

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เธอร่วงฟุบลงไปกองบนพื้นเพราะกระสุนชุดใหญ่พุ่งเข้าใส่เธอจนทั่วตัว บีบีซีรายงานว่าบอกไม่ได้เลยว่าเธอจะรอดหรือไม่

ในการนี้ บีบีซีใช้เครื่องมือวิเคราะห์ใบหน้าบรรดามือปืนที่เห็นชัดเจนในฟุตเทจ ไปเปรียบเทียบกับใบหน้าในเว็บไซต์ต่างๆ ผลการวิเคราะห์พบว่าสามารถระบุตัวตนได้หนึ่งใบหน้ามือปืน เพราะเป็นใบหน้าที่ตรงกับภาพของชายในชุดเครื่องแบบตำรวจบนเว็บไซต์ของตำรวจนครบาลที่นูเซอิรัตในฉนวนกาซา

ภาพมือปืนสามรายนี้ถูกนำไปตรวจสอบใบหน้า และปรากฏว่ามือปืนคนกลางมีใบหน้าที่ตรงกับตำรวจปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา
โนอา อาร์กามานี และแฟนหนุ่ม หลบซ่อนไม่สำเร็จ ถูกจับเป็นตัวประกัน และถูกถ่ายคลิปเอาไปข่มขวัญชาวยิวบนโซเชียลมีเดีย

เทศกาลดนตรีกลายเป็นสมรภูมิเลือด และสำหรับหลายสิบคนที่ถูกจับไปฉนวนกาซา ความสนุกสนานกลายเป็นฝันร้ายที่ไม่ยอมยุติ

โนอา อาร์กามานี สาว 25 กับแฟนหนุ่มนามว่า อาวินาทาน ออร์ สามารถหนีออกมาจากแคมป์ดนตรีสำเร็จ และหลบไปซุ่มซ่อนตัวในพุ่มไม้ แล้วในเวลาประมาณ 10.00 น. ออร์ ส่งแมสเซจไปแจ้งคุณพ่อของโนอา ว่าปลอดภัยดีทั้งสองคน วอชิงตันโพสต์รายงาน

เพื่อนสนิทของโนอาเล่าว่าเธอพยายามยืนยันกับคุณพ่อว่าไม่ต้องห่วง แต่หลังจากนั้นมา คุณพ่อคุณแม่ไม่ได้ข่าวคราวใดๆ เข้าไปอีกเลย เพื่อนสนิทคนนี้มีนามว่า ชโลมิต มาร์เซียโน ซึ่งเป็นเพื่อนเก่าแก่ของโนอาตั้งแต่สมัยนักเรียน

ในเย็นวันเสาร์หฤโหดนั้นเอง ข่าวคราวของโนอาไปถึงคุณพ่อคุณแม่แบบที่น่าตกใจ กล่าวคือ เป็นข่าวที่มาจากคลิปบนโซเชียลมีเดีย

โนอาถูกกลุ่มมือปืนฮามาสจับกุมไปเป็นตัวประกัน และเธอกรีดร้องตกใจเมื่อถูกแยกจาก ออร์ ให้ไปขึ้นมอเตอร์ไซค์ ขณะที่ ออร์ แฟนหนุ่มถูกมัดมือไพล่หลังและผลักให้เดินไปกับกลุ่มผู้ก่อการร้าย

“เป็นโนอาแน่นอนค่ะ” กล่าวโดย มาร์เซียโน ซึ่งมาค้างเป็นเพื่อนคุณแม่ของโนอา

“ดิฉันยังทำใจยอมรับกับสถานการณ์นี้ไม่ได้ค่ะ เมื่อคืน ดิฉันนอนบนเตียงของโนอา รู้สึกโกรธ นี่มันบ้ามากๆ เลย”

อันที่จริง โนอา ลังเลที่จะไปเทศกาลดนตรี ซึ่งไม่ใช่เพราะเรื่องความปลอดภัย

“ถ้าทราบล่วงหน้าว่าจะเกิดเหตุร้ายอย่างนี้ เธอไม่ไปหรอกค่ะ แต่ก็... ใครจะไปทราบอนาคตใช่ไหมคะ” มาร์เซียโนกล่าวอย่างนั้น

“เธอไม่ค่อยอยากไปเพราะมันไกลบ้าน และค่าใช้จ่ายสูงน่ะค่ะ ดิฉันบอกเพื่อนว่า ‘ไปเถอะ ไปหาประสบการณ์สนุกๆ’ ตอนนี้ดิฉันเสียใจมากค่ะ”

เรื่องราวของโนอา มีความคืบหน้าให้พอคลายทุกข์ได้บ้าง เมื่อมีคลิปอีกอันหนึ่งออกมา ภาพในคลิปเป็นโนอาซึ่งอยู่ในที่กุมขัง นั่งบนหมอนอิงในห้องซึ่งปูพื้นด้วยแผ่นกระเบื้อง โนอาดูดน้ำจากขวด

“อย่างน้อยเราก็ทราบว่าโนอายังมีชีวิตอยู่” มาร์เซียโนพูดอย่างนั้น

ภาพของ โนอา อาร์กามาน เป็นหนึ่งในภาพของตัวประกันมากมายที่ญาติพี่น้องช่วยกันรณรงค์เรียกร้องให้รัฐบาลยิวช่วยเหลือพาออกมาจากกาซาโดยไว

โนอา อาร์กามาน กรีดร้องตกใจและตะโกนว่าอย่าฆ่าฉันเลย เธอถูกแยกจากแฟนหนุ่ม และถูกจับขึ้นรถมอเตอร์ไซค์พาไปเป็นตัวประกันในฉนวนกาซา ภาพนี้จับขึ้นจากคลิปของสื่อมวลชนยิว นามว่าเทเลแกรม

คลิปของ โนอา อาร์กามาน ปรากฏอีกหนบนโซเชียลมีเดีย ในสภาพที่ถูกกักขังเป็นตัวประกัน
รายที่ชะตายังไม่ถึงฆาต เอาตัวรอดกลับบ้านได้ มีไม่น้อยเลย แต่ชีวิตขณะรอความช่วยเหลือก็หนักหนาเหลือเกิน

ในด้านของ มิลเลต์ เบนฮาอิม กับเพื่อนๆ ที่ขับรถหนีออกมา ในที่สุดก็ตัดสินใจทิ้งรถ เพราะไปทางไหนก็พบแต่การเสี่ยงตายจากกระสุนของบรรดามือปืนที่สาดยิงใส่รถ

พวกเธอเหลือกัน 4 คน คือตัวเบนฮาอิมกับเพื่อนสาวสองคน และคนที่หนีมาในรถด้วยคนหนึ่ง ทุกคนพากันไปหาที่ซ่อนตัวเหมือนเพื่อนร่วมชะตากรรมรายอื่นๆ โดยที่พวกเธอประเมินว่าบริเวณนั้นเป็นสวน และมีต้นไม้ให้พอกำบังได้บ้าง วอชิงตันโพสต์รายงาน

“ทุกทิศทางที่พวกเราวิ่งกันไปจะมีคนยิงปืนใส่เรา เราวิ่งหนีอยู่นานค่ะ ตอนหลังก็เลยคลานไปตามพุ่มไม้ ในที่สุดจึงตัดสินใจแอบหลบอยู่กับพื้นดิน” เบนฮาอิมเล่าไว้กับผู้สื่อข่าวของวอชิงตันโพสต์ โดยบอกว่าพวกเธอนอนหลบใต้พุ่มไม้ เอาพวกใบไม้มาคลุมอำพรางร่างกาย

“เรานอนนิ่งๆ อยู่ในความเงียบ และพยายามติดต่อตำรวจเป็นระยะ ตำรวจบอกว่าให้อดทนซ่อนตัวไปก่อน ตอนนี้ยังเข้าไปช่วยไม่ได้ เพราะมีคนถูกลักพาตัวไปมากเลยน่ะค่ะ”

หลังจากหลบซ่อนตัวแบบนั้นนาน 7 ชั่วโมง และแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือเหลือแค่ 2% ความช่วยเหลือก็มาถึง โดยเป็นชาวบ้านในละแวกนั้นซึ่งเห็นสถานการณ์คลี่คลายความรุนแรงลงบ้าง จึงขับรถออกตระเวนไปทั่วๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือ

ส่วนหนุ่มกาล ราซ ก็พ้นออกไปได้ในที่สุด โดยได้รับความช่วยเหลือจากทหารอิสราเอลที่ตระเวนไปตามจุดต่างๆ ที่ได้พิกัดมาจากญาติของผู้เคราะห์ร้ายทั้งหลายซึ่งให้เบาะแสไป

อีกคนหนึ่งคือ กิลี โยสโกวิช ซึ่งซุ่มซ่อนในสวนส้มใบทึบ เล่ากับบีบีซีว่า

“พวกนั้นตระเวนตรวจหาคนหลบในพุ่มไม้ พอเจอก็ยิงทิ้งเลยค่ะ ดิฉันเห็นใครต่อใครถูกยิงตายไปทั่ว ส่วนตัวดิฉันได้แต่ซุ่มเงียบ ไม่ร้องไห้ ไม่ทำอะไรทั้งสิ้นค่ะ”

ในที่สุด สามชั่วโมงต่อมาจึงได้ยินเสียงกลุ่มทหารอิสราเอลร้องเรียกให้ออกมา สถานการณ์ปลอดภัยแล้ว เธอจึงตัดสินใจข่มความกลัว แล้ววิ่งไปขอความช่วยเหลือ

สาวออร์เทล ซึ่งซุ่มซ่อนในต้นไม้ใบทึบ อดทนรอความช่วยเหลือจากทหารเป็นหลายชั่วโมง จึงตัดสินใจย้ายที่ซ่อน จนในที่สุดก็ได้รับความช่วยเหลือจากทหารอิสราเอลเช่นกัน

“ดิฉันปิดเสียงโทรศัพท์มือถือ แล้วคลานไปซ่อนตามแนวสวนส้ม มีเสียงยิงปืนกรีดอากาศไปมาเหนือศีรษะเป็นระยะๆ ค่ะ”

ภาพแสดงให้เห็นลักษณะการซ่อนตัวในพุ่มไม้ โดยนอนไปบนพื้น อดทนฟังเสียงอาวุธสงครามและเสียงคนกรีดร้องเพราะถูกยิง โดยในภาพนี้คือ กีย์ ดาน็อน กับเพื่อนๆ ซึ่งหลบซ่อนใต้พุ่มไม้ของสวนส้ม และต้องรอความช่วยเหลือกว่า 8 ชั่วโมง ในระหว่างนั้น เขาถ่ายคลิปตนเองและมีเสียงน่าสะพรึงกลัวของอาวุธสงครามดังเป็นระยะ

กีย์ ดาน็อน ออกทีวีให้สัมภาษณ์แก่ ซีเอ็นเอ็น ว่าเอาตัวรอดชีวิตกลับบ้านได้ด้วยความช่วยเหลือจากเพื่อนของน้องสาว ซึ่งขับรถเข้าไปรับในช่วงที่ทหารปราบมือปืนฮามาสได้ราบคาบ

โนอา กาลาช เป็นอีกรายหนึ่งที่รอดตายด้วยการหนีไปหลบซ่อนในพุ่มไม้สวนส้ม เธอนอนราบไปกับพื้น (ภาพขวา) แล้วใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิปตนเองขณะตกอยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่ และนำขึ้นไปแชร์บนโซเชียลมีเดีย


เงื่อนงำแปลกๆ ทำไมคอนเสิร์ตยิ่งใหญ่คนสี่พัน เลือกไปจัดติดถิ่นฮามาส ห่างกาซาแค่ 5 กม. &มือปืนทลายรั้วง่ายๆ ขับรถตะลุยฉิว ก็ไร้การต้าน?!?

บริษัท Tribe of Nova ซึ่งเป็นผู้จัดเทศกาลดนตรีเลือดนองแผ่นดิน น่าจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบหลักสำหรับโศกนาฏกรรมถล่มยิงตายกลาดเกลื่อน ทั้งที่เรื่องอย่างนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้น

ที่ผ่านมา Tribe of Nova ไม่ตอบข้อซักถามจากสื่อมวลชน แค่โพสต์ข้อความแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตและสูญหาย และยังไม่เห็นทางการยิวทำการไต่สวน ส่อแววลอยนวลง่ายๆ เลย

เมื่อมีการเข้าไปเก็บกู้ศพอันมากมายในพื้นที่จัดเทศกาลนองเลือดนี้ รวมทั้งบริเวณรอบนอกตามถนนสายต่างๆ และตามเรือกสวนทั้งปวง สภาพที่พบเห็นคือยับเยินน่าสลดสังเวช โดยในที่โล่งจุดหนึ่งห่างจากเต็นท์ยักษ์ของเวทีไม่มาก มีรถยนต์มากมากถูกเผาเหลือแต่ซาก และใกล้ๆ กันมีเต็นท์นอนทิ้งร้างสภาพกระจุยกระจาย ทั้งแผ่นรองนอนแบบแคมปิ้ง และทั้งบรรดาถังเก็บความเย็นที่ไม่เหลือกระป๋องเครื่องดื่มใดๆ แล้วล้มตะแคงระเกะระกะ

ญาติๆ ที่เข้าไปติดตามค้นหาผู้สูญหาย เพราะพอจะคาดเดาพิกัดที่ลูกหลานไปนอนบาดเจ็บหลบซ่อนตัว ได้ให้สัมภาษณ์นักข่าวว่า ตอนที่พวกฮามาสบุกเข้าไปในพื้นที่จัดงานนั้น ผู้ที่เข้าร่วมงานและอยู่โต้รุ่งมีจำนวนมากกว่า 1,000 ราย จากทั้งหมดที่ซื้อตั๋วเข้างานราว 3,000-4,000 ราย

บริษัท Tribe of Nova ผู้จัดเทศกาลดนตรี สร้างความเสี่ยงต่อชีวิตของนักปาร์ตี-นักแดนซ์อย่างร้ายแรง ที่ไปจัดมหกรรมดนตรีรองรับผู้คนมหาศาลใกล้ถิ่นของกองกำลังติดอาวุธฮามาส ระยะแค่ 5 กิโลเมตร

นอกจากนั้น Tribe of Nova ยังมีลูกเล่นอันตรายเหลือเกิน คือ ผู้คนที่ซื้อตั๋วเข้างานจะไม่ทราบสถานที่ที่แน่นอนในการจัดคอนเสิร์ตนี้จนกระทั่งถึงเวลาประมาณ 1 ทุ่มของวันศุกร์ที่ 6 ตุลาคม 2023 โดยนักเที่ยวได้ทราบแค่ว่าคอนเสิร์ตจะอยู่ห่างเมืองหลวงไปทางใต้ ในช่วงระยะขับรถชั่วโมงกว่า โดยเริ่มงานจริงเวลา 22.00 น. ด้วยเหตุนี้ เสียเงินไปแล้ว อย่างไรก็ต้องตามไป

คำพรรณนาของบริษัทผู้จัดบอกว่า “คอนเสิร์ตจะมีขึ้นในโลเกชันอันทรงพลังแห่งธรรมชาติ เต็มไปด้วยต้นไม้ และทิวทัศน์อันงดงามน่าตื่นตะลึงใจ และเพื่อความสะดวกของท่าน คอนเสิร์ตอยู่ห่างจากกรุงเทลอาวีฟไปทางใต้เพียง 1 ชั่วโมง 15 นาที”

แต่ข้อมูลสำคัญที่ผู้จัดมิได้บอกคนซื้อตั๋วเทศกาลดนตรีคือ จุดตั้งเวทีคอนเสิร์ตอยู่ห่างจากรั้วกั้นพรมแดนระหว่างอิสราเอลกับฉนวนกาซาที่เป็นเขตอิทธิพลของฮามาส ระยะแค่บิดมอเตอร์ไซค์ 6-7 นาทีก็ถึงแล้ว

ยิ่งกว่านั้น นักเที่ยวได้รับคำเตือนมิให้นำอาวุธปืนหรือวัตถุมีคมเข้าสู่พื้นที่กิจกรรม

ผังพื้นที่จัดเทศกาลดนตรี Supernova ซึ่งระบุจุดสำคัญต่างๆ 14 จุด ได้แก่ (1)และ(2) ทางเข้า (3)พื้นที่ปักเต้นท์นอน  (4)เต้นท์ยักษ์คลุมเวที Nova  (5)เต้นท์ยักษ์คลุมเวที Mushroom  (6)พื้นที่สวดมนต์เพื่อความสงบ  (7)โซนปลอดภัย “สำหรับคนดี” (ซึ่งอยู่ใกล้ห้องน้ำ)  (8)ร้านขายอาหาร  (9)ที่รับประทานอาหาร  (10)บาร์เครื่องดื่ม  (11)ประกาศของหายและจุดรับของคืน  (12)จุดสอบถามและประชาสัมพันธ์  (13)ห้องน้ำและห้องอาบน้ำ  (14)พื้นที่แสดงผลงานศิลปะ  ทั้งนี้ ทางขวาของลานปักเต้นท์นอน กับทางซ้ายของเวที Mushroom คือพื้นที่จอดรถซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของผืนทะเลทรายเนเกฟ

สภาพกระจุยกระจายยับเยินของลานแคมป์นอนที่เทศกาลดนตรี Supernova Music Festival หลังถูกมือปืนฮามาสบุกไล่ยิงและจับนักปาร์ตีไปเป็นตัวประกัน

ผังพื้นที่จัดเทศกาลดนตรี Supernova ซึ่งระบุจุดสำคัญต่างๆ 14 จุด ได้แก่ (1) และ (2) ทางเข้า (3) พื้นที่ปักเต็นท์นอน (4) เต็นท์ยักษ์คลุมเวที Nova (5) เต็นท์ยักษ์คลุมเวที Mushroom (6) พื้นที่สวดมนต์เพื่อความสงบ (7) โซนปลอดภัย “สำหรับคนดี” (ซึ่งอยู่ใกล้ห้องน้ำ) (8) ร้านขายอาหาร (9) ที่รับประทานอาหาร (10) บาร์เครื่องดื่ม (11) ประกาศของหายและจุดรับของคืน (12) จุดสอบถามและประชาสัมพันธ์ (13) ห้องน้ำและห้องอาบน้ำ (14) พื้นที่แสดงผลงานศิลปะ ทั้งนี้ ทางขวาของลานปักเต็นท์นอน กับทางซ้ายของเวที Mushroom คือพื้นที่จอดรถซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของผืนทะเลทรายเนเกฟ

ป้ายเรียกร้องให้รัฐบาลอิสราเอลเร่งดำเนินการนำตัวประกันออกมาจากฉนวนกาซาโดยเร็ว

แผนที่แสดงให้เห็นว่าพื้นที่จัดมหาอีเวนต์ยักษ์ Supernova Music Festival ซึ่งมีหนุ่มสาววัยทำงานจำนวนมากมายเกือบ 4,000 ราย ซื้อตั๋วไปเข้าร่วมนั้น ใกล้ถิ่นกาซาของกองกำลังติดอาวุธฮามาส พร้อมกันนี้ เมืองชเดรอตเป็นพื้นที่ซึ่งถูกฮามาสโจมตีสาหัส โดยมีผู้เสียชีวิตกว่า 100 ราย

เมื่อมองแผนที่ภาพรวม เห็นได้ว่าฉนวนกาซามีขนาดเล็กเหลือเกินเมื่อเทียบกับอิสราเอล ความยาวของฉนวนกาซาจากเหนือจดใต้แค่ 41 กิโลเมตร หรือประมาณกรุงเทพฯ – สมุทรปราการ และบนพื้นเล็กๆ นี้ มีชาวปาเลสไตน์อาศัยอยู่ถึง 2.1 ล้านราย
ดังนั้น เมื่อกองกำลังติดอาวุธฮามาสถล่มทำลายกำแพงกั้นชายแดน แล้วขับรถและขี่มอเตอร์ไซค์บุกข้ามแดน พร้อมกันกับพวกที่เหินเครื่องร่อน ตะลุยเข้าถึงเต็นท์ยักษ์แห่งเวทีคอนเสิร์ต นักเที่ยวล้วนอยู่ในสภาพอ่อนล้า ปราศจากเครื่องมือเพื่อการต่อสู้ และจึงไม่สามารถป้องกันตนเอง หนำซ้ำยังอยู่ในพื้นที่โล่งกว้างซึ่งแทบจะไม่มีที่ให้หลบซ่อน

หน่วย ZAKA ซึ่งเป็นกลุ่มอาสาสมัครช่วยเหลือฉุกเฉินในอิสราเอล ยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิตในพื้นที่งานเทศกาล และบริเวณรอบๆ ตลอดจนชุมชนใกล้เคียง ว่าโดยรวมแล้วไม่น้อยกว่า 260 ราย ณ วันอาทิตย์ที่ 8 ตุลาคม 2023

ด้านกองกำลังป้องกันประเทศของอิสราเอลเปิดเผยยอดผู้เสียชีวิตทั่วประเทศ ณ วันที่ 12 ตุลาคม 2023 ว่ามากกว่า 1,300 ราย และมีจำนวนที่ถูกจับเป็นตัวประกันจากหลายๆ พื้นที่รวมกว่า 160 ราย

ทั้งนี้ ฝ่ายฮามาสแถลงว่าตัวประกันที่จับกุมไป ถูกกักขังในอุโมงค์ลับและที่ซ่อนลับต่างๆ ของพวกตนในเขตกาซา โดยขู่ว่าถ้าอิสราเอลโจมตีพื้นที่ในกาซาโดยไม่แจ้งเตือนให้มีการอพยพผู้คนออกไปล่วงหน้า ฮามาสจะแก้แค้นด้วยการสังหารตัวประกันทุกๆ ครั้ง

ในการนี้ ญาติพี่น้องของตัวประกันต่างหวั่นเกรงกันว่ารัฐบาลยิวจะมีนโยบายอย่างไรต่อตัวประกัน เพราะตลอดที่เกิดการโจมตีเลือดนองแผ่นดินเป็นต้นมา อิสราเอลเดินหน้าถล่มทำลายย่านต่างๆ ในกาซาซิตี โดยมีการประกาศสงครามไปอย่างแจ่มแจ้งตั้งแต่วันเสาร์มหาวิปโยค

ความประหวั่นรุนแรงขึ้นเมื่อฮามาสประกาศในวันจันทร์ (9) ว่าการโจมตีทางอากาศโดยอิสราเอลทำให้ตัวประกันชาวยิวเสียชีวิตไปแล้ว 4 ราย โดยที่ผู้คุมซึ่งอยู่ในพื้นที่เดียวกันก็ไม่รอดเช่นกัน

ยิ่งกว่านั้น ในวันอังคาร (9) รัฐบาลยิวประกาศจะเดินหน้าทำสงครามเพื่อยึดฉนวนกาซาให้ได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์พากันชี้ว่า การที่อิสราเอลไม่มีทหารอยู่ในฉนวนกาซา ทำให้เกิดจุดอ่อนที่เปิดช่องแก่การเติบใหญ่ของกองกำลังติดอาวุธฮามาส ซึ่งออกปฏิบัติการทางทหารเล่นงานอิสราเอลเป็นครั้งคราว

ดังนั้น จึงกลัวกันเหลือเกินว่ารัฐบาลอิสราเอลจะเดินหน้ากวาดล้างกองกำลังฮามาส โดยไม่ให้เรื่องตัวประกันชาวยิวที่อยู่ในฉนวนกาซา มาเป็นอุปสรรคขัดขวาง

ในปฏิบัติการของทหารยิวเพื่อปราบปรามผู้ก่อการร้ายฮามาสที่รุกข้ามแดนเข้าไปสังหารชาวยิวเมื่อวันเสาร์ที่ 7 ตุลาคม 2023 ฝ่ายมือปืนฮามาสล้มตายไปมากกว่า 1,500 ราย ในภาพนี้เป็นศพของผู้ก่อการร้ายฮามาสที่ถูกสังหาร

อีกหนึ่งศพของผู้ก่อการร้ายฮามาส ที่ถูกทหารอิสราเอลสังหารระหว่างการปราบปรามระงับการบุกโจมตี ที่กองกำลังติดอาวุธสงครามของฮามาสไล่ล่าฆ่าชาวยิวในพื้นที่ชายแดนติดกับฉนวนกาซา
พร้อมนี้ การวิเคราะห์ได้เทน้ำหนักไปในทางที่จับตาว่า กองกำลังติดอาวุธฮามาส ซึ่งแม้จะเป็นกองโจรใต้ดิน เอาตัวรอดได้อย่างเชี่ยวชาญ จะเสียหายใกล้ระดับสูญพันธุ์หรือไม่ ทั้งส่วนที่ถูกปราบปรามตายอนาถในอิสราเอลตอนวีกเอนด์วิปโยค (7-8 ตุลาคม) กว่า 1,500 ราย และทั้งส่วนที่เสียชีวิตในการโจมตีทางอากาศที่อิสราเอลถล่มทำลายสิ่งก่อสร้างมากมายในฉนวนกาซาวันแล้ววันเล่า ซึ่งส่งผลเป็นการสังหารหมู่ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาไปในเวลาเดียวกัน

ด้วยเหตุนี้ ฝ่ายต่างๆ เห็นวี่แววอนาคตแล้วว่าชะตากรรมของตัวประกัน และของชาวปาเลสไตน์ทั้งปวงฉนวนกาซานั้นน่าเป็นห่วงอย่างที่สุด ขณะที่ชะตากรรมของกองกำลังติดอาวุธฮามาสก็คงย่ำแย่พอๆ กัน

เงื่อนงำเด่นชัดที่โศกนาฏกรรม 7 ตุลาคม 2023 เปิดช่องทางให้รัฐบาลอิสราเอลสามารถยกระดับความได้เปรียบ มีข้อสังเกตดังนี้

= การโจมตีหนักหน่วงด้วยน้ำมือกองกำลังติดอาวุธฮามาส ประสบความสำเร็จได้ง่ายดายเกินไป โดยมีการวิเคราะห์ว่าจริงล่ะหรือ ที่คุณภาพมาตรฐานของหน่วยข่าวกรองอิสราเอลตกต่ำหนักหนา จึงทำให้ไม่ทราบล่วงหน้าถึงการสะสมอาวุธอย่างมหาศาลภายในฉนวนกาซา

= พร้อมกันนั้นปฏิบัติการต้านทานการรุกรานก็ไม่ปรากฏ นับเป็นความผิดปกติอย่างยิ่ง

= หนำซ้ำ ยังมีเงื่อนไขเรื่องเทศกาลดนตรีดึงดูดผู้คนหลายพันชีวิตไปรวมตัวกันที่ริมพรมแดนอิสราเอล-ฉนวนกาซา เปิดโอกาสให้มือปืนฮามาสได้รับความสะดวกในการสังหารชาวยิวอย่างเมามันเพื่อล้างหนี้แค้นแห่งประเทศชาติ

= ความย่อหย่อนอย่างผิดปกติในส่วนของอิสราเอล จึงดูเสมือนจะเป็นการล่อให้เกิดโศกนาฏกรรม นักวิเคราะห์ชี้ไว้อย่างนั้น พร้อมบอกว่าความจริง-ความไม่จริงจะเป็นอย่างไรก็ตาม แต่ผลสืบเนื่องนั้นชัดเจน คือ อิสราเอลมีข้ออ้างที่จะใช้ความรุนแรงขั้นสุดเข้าไปกวาดล้างกองกำลังติดอาวุธฮามาส ทั้งในด้านการทำสงครามฆ่าล้างกาซา และทั้งในด้านการบุกเข้าไปยึดครองฉนวนกาซาแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ภายใต้ภาพลักษณ์ว่าป้องกันตัวและแก้แค้นเอาคืน

เงื่อนงำทั้งหลายทั้งปวงนี้ชี้เบาะแสว่า ที่แท้นั้นอาจเป็นได้ว่ากองกำลังติดอาวุธฮามาสถูกล่อให้หลงกล และลงเอยด้วยการถูกบดขยี้ขบวนการ

ส่วนเมืองกาซาอันเป็นที่อยู่อาศัยของคนปาเลสไตน์สองล้านกว่าชีวิต ก็จะเป็นเมืองของคนตั้งเต็นท์นอนยาวๆ ไปตลอดฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง

ต้องลุ้นระทึกกันจนถึงต่อไป เพราะรัฐบาลขวาสุดโต่งมักจะเป็นอะไรที่ดุเดือดเกินเบอร์เสมอเลย

เมื่อมองแผนที่ภาพรวม เห็นได้ว่าฉนวนกาซามีขนาดเล็กเหลือเกินเมื่อเทียบกับอิสราเอล ความยาวของฉนวนกาซาจากเหนือจดใต้แค่ 41 กิโลเมตร หรือประมาณกรุงเทพฯ-สมุทรปราการ และบนพื้นเล็กๆ นี้มีชาวปาเลสไตน์อาศัยอยู่ถึง 2.1 ล้านราย

สุเหร่าในกาซาซิตีถูกขีปนาวุธอิสราเอลพุ่งเข้าทำลายจนถล่มราบเป็นหน้ากลองในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล เมื่อวันจันทร์ที่ 9 ตุลาคม 2023

แต่ละครั้งที่เครื่องบินไอพ่น Fighter Jet ติดขีปนาวุธของอิสราเอล เข้าไปโจมตีทางอากาศใส่กาซาเพื่อถล่มทำลายศักยภาพการรบของฮามาส อาคารสูงซึ่งเป็นตึกพักอาศัยและสำนักงานของชาวปาเลสไตน์ก็จะถูกเผาไหม้ไฟลุกท่วมน่าสะเทือนใจ

เด็กและเยาวชนชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาเป็น 25% ของเหยื่อการโจมตีทางอากาศที่อิสราเอลส่งเข้าไปกวาดล้างฮามาส ในภาพนี้เป็นช่วงที่หน่วยแพทย์ฉุกเฉินของปาเลสไตน์เร่งทำปฐมพยาบาลแก่เด็กหลายคน
คอลัมน์ "PLANET No.3"

โดย รัศมี มีเรื่องเล่า


(ที่มา : วอชิงตันโพสต์ ซีเอ็นเอ็น เอพี บีบีซี เดลิเมล์ออนไลน์)
กำลังโหลดความคิดเห็น