รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา พาคุณผู้ชมไปรู้จัก “ยายปรานี” และ “แจน” เด็กกำพร้า ที่โชคชะตาพาให้ทั้งคู่ได้มาเจอกันและใช้ชีวิตร่วมกัน นับว่าโชคดีที่แจนได้คุณยายช่วยรับเลี้ยงดู หาไม่แล้ว ชีวิตและอนาคตของน้อง ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหนแล้ววันนี้
ยายปรานี ช้อสูงเนิน กับอาชีพแม่ค้าขายหมูปิ้ง ไม่เคยคิดมาก่อนว่า วันหนึ่ง โชคชะตาจะพาให้ต้องมาเลี้ยงดูเด็กกำพร้าคนหนึ่งอย่าง “แจน “ รัตนา ศาเมืองชล วัย 11 ลูกสาวของคนที่เช่าห้องอยู่ข้างๆ ห้องยายในย่านคลองสามวา กทม.
“แม่เด็กเขามาเช่าห้องอยู่ใกล้ๆ ห้องยาย ยายก็เช่าห้องอยู่ แค่รู้จักกัน พอแม่เขาเสียแล้ว พ่อเขามาฝากไว้ พ่อเขาบอกว่า เดี๋ยวเขาจะติดต่อกับสงเคราะห์เอง เดี๋ยวผมจะโทรมาหายายเองนะ เพราะเราเอาเบอร์ให้เขา เบอร์เขาบางทีไม่แน่นอน บางทีเขาก็เปลี่ยน พ่อเขาอะ”
แจนมีความคุ้นเคยกับยายปรานีอยู่ก่อนแล้ว เพราะตอนที่แม่ของแจนยังมีชีวิตอยู่ ได้นำแจนมาฝากยายเลี้ยงระหว่างที่เธอต้องไปทำงาน
“ที่หนูรู้จักกับยาย แม่มาฝากยายเลี้ยงไว้ หนูก็ไม่ได้อยู่กับยายถาวร ไปๆ มาๆ (ถาม-ตอนนั้นพ่อแม่ทำงานอะไร?) ทำงานก่อสร้าง (ถาม-แล้วเขาได้ดูแลหนูไหม?) ดูไหม ก็ไม่ค่อยได้ดูมากเท่าไหร่ (ถาม-เขาไม่มีเวลาหรือ?) น่าจะไม่มีเวลา เพราะทำงานทั้งวัน บางทีกลับมาดึก หนูก็อยู่บ้านคนเดียว 4-5 ทุ่ม ก็ยังไม่กลับมา (ถาม-แล้วหนูอยู่ที่ไหน?) ก็อยู่กับยาย ถ้าแม่ยังไม่กลับมา ตั้งแต่ 6 ขวบ”
ยายปรานียอมรับว่า เห็นความขัดสนของแจนกับแม่แล้ว ก็อดรู้สึกหดหู่ใจไม่ได้ จึงต้องช่วยเหลือ
“เริ่มแรก แม่เขามาซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งกิน เราก็ขายไปๆ ต่อไป ยาย หนูเซ็นไว้ก่อนนะ หนูไม่มีตังค์ เออ เอาๆๆ ไอ้นี่ก็วิ่งมา แม่ไม่มีข้าวให้กิน ยาย ยาย หนูกินข้าวยายได้ไหม เออ กิน ไม่เป็นไร เดี๋ยวหนูจะมาช่วยยายล้างของล้างถาด ถ้วยชาม เดี๋ยวหนูมากินข้าวบ้านยาย (ถาม-ตอนนั้นเขากี่ขวบ?) 6 ขวบ (ยายเห็นแล้วรู้สึกยังไง) หดหู่ใจ กินไปวะ เอ็งจะเอาอะไร เอาไป”
“(ถาม-แล้วแจนมาอยู่กับยายอย่างถาวรเมื่อไหร่?) ก็ตอนที่แม่หนูเสีย ไม่กี่เดือนนี้แอง (ถาม-แม่เป็นอะไรเสีย?) แม่หนูกินเหล้าแล้วน็อค (ถาม-ที่ไหน?) ที่นนทบุรี (ถาม-ที่ทำงานใช่ไหม?) ใช่ แม่หนูไปตายที่ รพ.ตอน 3 โมงเย็น (ถาม-หนูรู้ไหมตอนแม่เสีย?) รู้อีกทีตอนเช้าแล้ว เขามาบอกว่า แม่หนูเสียเมื่อวานนี้ เขาจะเผาวันนี้ตอน 3 โมงเย็น (ถาม-แล้วพ่อหนู?) พ่อหนูเลิกกับแม่ไปตั้งแต่เด็กแล้ว ไม่รู้ว่าพ่ออยู่ที่ไหน (ถาม-เลยต้องมาอยู่กับยาย แล้วหนูบอกยายว่ายังไง?) หนูบอก ยาย หนูขออยู่ด้วยนะ ยายก็บอกว่า อยู่ได้ ก็เลยอยู่กับยายเลย”
ทุกวัน ยายปรานีจะตื่นตั้งแต่ตี 2 เพื่อจัดเตรียมหมูปิ้ง ก่อนเข็นรถเข็นไปขายกับแจนบริเวณถนนไทย-รามัญ แขวงคลองสามวา เขตหนองจอก กทม. ซึ่งอยู่ปากซอยบ้าน
“(ถาม-ขายดีไหมแต่ละวัน?) ก็แล้วแต่ลูกค้านะ เป็นบางวัน อย่างวันนี้ขายดี (ถาม-ขายดีนี่กี่ไม้?) ขายดีก็ 40 ไม้ ไม้ละ 10 บาท (ถาม-400 บาท หักทุนกำไรแล้วเหลือเท่าไหร่?) ก็มีขาดทุนเหมือนกัน บางคนเขาไม่ค่อยมีตังค์ 3 ไม้ 20 แล้วกันยาย เราก็ เขาไม่ค่อยมีตังค์ เขาขี่จักรยานมา”
“(ถาม-ยายขายของตรงนี้มานานหรือยัง?) ประมาณ 6 เดือนได้แล้วมั้ง (ถาม-เคยมองหาทำเลที่อื่นไหม?) มอง แต่เขาบอก เสียค่าเช่า ไหวไหม ก็เลยไม่กล้ามองแล้ว (ถาม-ขายตั้งแต่กี่โมงถึงกี่โมง?) ปกติจะออกตี 5 ตี 5 ครึ่ง พอ 9 โมง 9 โมงกว่า ก็กลับแล้ว”
ปัจจุบัน ยายปรานี อายุ 71 แล้ว ต้องกินยารักษาโรคประจำตัวอยู่ตลอด
“(ถาม-แจนเห็นยายมีปัญหาสุขภาพบ้างไหม?) มีหลายโรคอยู่ มีเส้นเลือดในสมองตีบ มีไขมันอุดตันเส้นเลือด ความดัน และตา (ถาม-เวลาทำงาน ยายมีอาการอะไรบ้างไหม?) ไม่มี ถ้ามี แกจะบอกว่าเวียนหัวแค่นั้น (ถาม-อยู่ด้วยกัน เคยเห็นยายล้มบ้างไหม?) ล้มประจำ แต่ไม่เป็นไร (ถาม-หนูเห็นแล้วทำยังไง?) ก็พยายามประคองยายขึ้น”
“หมอจะมีใบนัดมา 3 เดือนไปเจาะเลือดครั้งหนึ่ง 3 เดือนไปวัดสายตาครั้งหนึ่ง 3 เดือนไปวัดความดันครั้งหนึ่ง (ถาม-เป็นยังไงบ้างผลการตรวจ?) เขาบอกปกติ ยายอย่าเครียด ยายอย่าหักโหม ต้องพักผ่อนนอนบ้าง ไม่ใช่เอาแต่ทำงาน ไม่นอน (ถาม-เห็นยายเดินแทบไม่มีแรง ต้องใช้ไม้เท้า?) ก็ยายไปผ่าขา สะโพก 2 ข้างนี่ใส่เหล็ก เคยล้ม สะโพกหลุด 2 ข้าง รพ.พระมงกุฎเกล้า เขาใส่เหล็กให้ 2 ข้าง (ถาม-ทุกวันนี้เป็นยังไงบ้างขา?) เขาบอกว่า ยายก็พยายามอย่ายกของหนัก (ถาม-เดินเป็นยังไงบ้าง?) ยังเดินได้ ไม่ลำบากถึงขั้นใช้วอล์คเกอร์ (ถาม-การไปหาหมอแต่ละครั้ง เสียค่าใช้จ่ายไหม?) เสียแต่คาแท็กซี่ เหมาเขาไป 1-2 พัน”
ยายปรานีต้องดำรงชีวิตอย่างประหยัด เพื่อออมเงินไว้ใช้จ่ายสิ่งจำเป็น
“ห้องเช่าเดือนละ 2 พัน ค่าน้ำค่าไฟ 500 ขายของเราก็ต้องเก็บใส่กระปุกไว้บ้าง นี่ต้องประหยัดไว้นะ เดี๋ยวซื้อหมู ข้าวเหนียว ซื้อถ่าน (ถาม-เคยทำให้เราขัดสนบ้างไหม?) บางทีต้องติดค่าห้อง เขาก็มีปัญหาเจ้าของบ้าน เขาไม่ให้ติด พัดลมตัวนี้เขาก็เอามาให้ แต่มันพังแล้ว อันนี้ก็ไปผ่อนพัดลม ไปซื้อพัดลมมาใหม่ 650 ยังไม่ได้ให้ตังค์เขา ผ่อนเขามา ผ่อนวันละ 50 บาท”
ไม่เพียงกำพร้าตั้งแต่เด็ก แต่แจนยังไร้โอกาสทางการศึกษา ยายปรานีแม้ไม่ได้มีความรู้มากมาย แต่พยายามสอนแจนเท่าที่พอทำได้
“เขาบอกว่า พ่อเขาเคยเอาไปโรงเรียนบ้านนอก เรียนอนุบาลมา เรียนได้ไม่กี่วันมั้ง แม่ก็ย้ายมาทำงานกรุงเทพฯ ก็เลยย้ายลูกมาด้วย เลยไม่ได้ให้เรียน”
“ตอนนั้นพ่อกับแม่ทะเลาะกัน พ่อเผาเอกสารหนูหมด แม่ก็บอกว่า เรียนทำไม ยิ่งเรียนยิ่งโง่ (ถาม-แล้วหนูไม่บอกแม่ว่า หนูอยากเรียนหนังสือ?) บอกแม่ไปแล้ว แต่แม่ไม่ฟัง”
“ยายก็สอนตั้งแต่ ก ถึง ฮ (ถาม-บวกลบคูณหารได้ไหม?) ได้ (ถาม-ยายมีความรู้ถึงชั้นไหน?) ยายพูดตรงๆ พอจะอ่านออกเขียนได้ แต่เรื่องจบ ป.1-ป4 ไม่จบ พ่อแม่ก็ยากจน เราก็ลูกชาวนา ไปเรียนตามวัด ตามศาลาวัด พออ่านออก ใครหลอกไม่ได้ แต่ไม่สันทัดเรื่องเขียน แต่เรื่องอ่านได้”
ยายปรานีพยายามสอนแจนให้เป็นคนดี และรู้จักเผื่อแผ่
“บอกแจนเกิดเป็นคนนะลูก 1. รู้จักเผื่อแผ่ 2. ไม่ใช่ของของเรา อย่าไปเอานะลูก 3. อย่าไปบ้านใครหยิบโน่นหยิบนี่ ไม่เอา 4. เกิดเป็นคน เราต้องรู้จักการกินการอยู่ อย่ายุ่งกับใคร แล้วอย่าไปขอสตางค์ อย่าไปยืมสตางค์ใคร ไม่เอา เอ็งมี เอ็งก็กิน เอ็งไม่มี เอ็งมาขอยาย 5 บาท 10 บาท ยายให้ แต่ถ้ามึงไปวุ่ยวายกับคนอื่นเรื่องสตางค์ ยายจะตีมึง”
“(ถาม-เขาเห็นยายรักและห่วงเขาขนาดนี้ เขาดูแลยายยังไงบ้าง?) มันก็เป็นห่วง ไปไหนนานๆ มันก็แหกปากเรียกตั้งแต่ปากซอย มันก็เป็นห่วงเหมือนกัน เราไปไหนนานๆ กลับมา ยาย เรียกเสียงดัง ห้องข้างๆ บอก เบาๆ หน่อยเสียง”
ไม่เคยคิดว่า การต้องเลี้ยงดูเด็กกำพร้าคือภาระหรือความทุกข์!
“มันไม่ใช่ความทุกข์ว่า เรารับทุกข์นะ เรายังไม่หมดเวร เพราะเมื่อก่อนเราคง พูดง่ายๆ เขาคงเลี้ยงเรา เราคิดอย่างนี้ เมื่อก่อนเขาเลี้ยงเรา เดี๋ยวนี้เราเลยต้องเลี้ยงเขา กฎแห่งกรรม ตอนนี้เราเป็นคนดีเท่าไหร่ เราก็ทำไป เราทำดีเท่าไหร่ เราทำได้ เราทำไป เราทำไม่ได้ ก็ต้องพยายามทำให้ได้”
“(ถาม-ในวันที่แจนไม่ได้รับความรักจากพ่อแม่ แต่ได้รับจากยาย หนูคิดว่าสิ่งเหล่านี้มันมีคุณค่าสำหรับหนูยังไงบ้าง?) มีบุญคุณเยอะอยู่ (ถาม-ถ้าวันนั้นไม่มียาย หรือวันที่แม่เสียไป แล้วหนูไม่มีใคร หนูคิดว่าชีวิตหนูวันนี้จะเป็นยังไง?) ก็ลำบากอยู่ (ถาม-หนูต้องโตขึ้น กำลังยายก็ถดถอยลง หนูคิดว่าจะดูแลยายต่อไปได้ไหม?) ก็ยังไม่รู้ว่าจะดูแกต่อไปได้ไหม เพราะบางทีถ้าเกิดแกเสียไป เราก็ไม่รู้จะทำยังไง ถ้ามีชีวิตอยู่ก็ดูแกต่อไป (ถาม-จะไหวไหม?) ก็น่าจะไหว ถ้าไม่ไหว ก็ต้องไหว”
หากท่านใดต้องการช่วยเหลือ สามารถโอนเงินไปได้ที่ ธนาคารกรุงไทย สาขารังสิต-นครนายก คลอง 11 ชื่อบัญชี นางปรานี ช้อสูงเนิน เลขที่บัญชี 692-0-16153-2
คลิกชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ตอน “กาเหว่าเจ้าเอย”
https://www.youtube.com/watch?v=R683uRhtCFY
ติดตามรับชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ได้ ทุกวันเสาร์ เวลา 09.00-09.30 น. ทางสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ( IPM ช่อง 64 / PSI ช่อง 211 )
หรือรับชมรายการย้อนหลังได้ที่เพจ ฅนจริงใจไม่ท้อ https://web.facebook.com/KonJingJaimaitor/
หรือยูทูบฅนจริงใจไม่ท้อ https://www.youtube.com/channel/UCsb4sLqdHs35km4uQ_tOCjQ/videos