ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันอาทิตย์ (11 ก.พ.) เนื่องจากล้มป่วยฉุกเฉินด้วยโรคเกี่ยวกับกระเพาะปัสสาวะ ตามข้อมูลจากโฆษกเพนตากอน
พลอากาศจัตวาแพต ไรเดอร์ โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุว่า ออสติน วัย 70 ปี ได้ถ่ายโอนอำนาจหน้าที่ต่างๆ ให้แคธลีน ฮิกส์ ซึ่งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมดูแลแทนชั่วคราว
เดือนที่แล้ว ออสติน ถูกสมาชิกสภาคองเกรสทั้งสายเดโมแครต และรีพับลิกันวิจารณ์อย่างหนักที่ปกปิดข้อมูลเรื่องการป่วยเป็นมะเร็งจนต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเมื่อช่วงเดือน ธ.ค. จนถึง ม.ค. และแม้กระทั่งประธานาธิบดี โจ ไบเดน เองก็ยังไม่ทราบเรื่องนี้
แกนนำรีพับลิกันบางคน รวมถึงอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ถึงกับยกเรื่องนี้มาเป็นเหตุเรียกร้องให้ปลด ออสติน ออกจากตำแหน่ง
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเหตุการณ์นี้สร้างความอับอายขายหน้าให้ ไบเดน ไม่น้อย และออสติน เองได้ออกมาแถลงขออภัยผ่านสื่อโทรทัศน์ และมีกำหนดเข้าชี้แจงต่อสภาคองเกรสในวันที่ 29 ก.พ.
ไบเดน ยืนยันว่าเขายังคงเชื่อมั่นในตัวออสติน แม้จะยอมรับว่าสิ่งที่เจ้าตัวทำนั้นเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดไปหน่อยก็ตาม
การที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ รีบออกมาประกาศเรื่องที่ ออสติน เข้าโรงพยาบาลและถ่ายโอนอำนาจแก่รัฐมนตรีช่วยในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นว่าไม่ต้องการให้เกิดกระแสวิจารณ์ทางการเมืองเหมือนเช่นที่ผ่านมา
ออสติน ซึ่งเคยเป็นผู้บัญชาการกองกำลังสหรัฐฯ ในอิรัก และยังเป็นรัฐมนตรีกลาโหมผิวสีคนแรกของอเมริกา นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลขณะที่กองทัพสหรัฐฯ เปิดปฏิบัติการโจมตีแก้แค้นผู้นำกลุ่มติดอาวุธโปรอิหร่านในกรุงแบกแดดของอิรักเมื่อเดือนที่แล้ว
เวลานี้มีคณะทำงานของสหรัฐฯ ถึง 3 ชุดที่กำลังสอบสวนพฤติกรรมของ ออสติน อยู่ หนึ่งในนั้นคือสำนักงานผู้ตรวจสอบของกระทรวงกลาโหม (Pentagon's Inspector General) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่กำกับดูแลเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณสิ้นเปลือง การฉ้อโกง หรือการล่วงละเมิดต่างๆ นอกจากนี้ ไมค์ โรเจอร์ส ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการกิจการกองทัพของสภาผู้แทนราษฎรยังส่งหนังสือเรียกให้ ออสติน เข้าชี้แจงข้อมูลด้วย
ทั้งนี้ ออสติน มีกำหนดการเดินทางไปยังกรุงบรัสเซลส์ในวันพุธ (14) เพื่อร่วมประชุมกลุ่ม Ukraine Defense Contact Group และยังไม่ชัดเจนว่าการเข้าโรงพยาบาลครั้งนี้จะกระทบต่อแผนการเดินทางของเขาหรือไม่
ที่มา : รอยเตอร์