ตำรวจ ปปป.เตรียมเสนอ ปปง.ยึดทรัพย์แก๊งศรีสุวรรณ พบหัวหน้าขบวนการถือครองทรัพย์สินมีค่านับ 100 รายการ ด้าน ผอ.กองพัฒนาผลิตภัณฑ์ข้าว โร่พบตำรวจ ยันไม่ได้นำข้อมูลให้แก๊งตบทรัพย์ เผยรู้จัก ดร.เอก เพราะเป็นรุ่นน้องสถาบันเดียวกัน
วันนี้ (12 ก.พ.) ที่ บก.ปปป. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พร้อมคณะพนักงานสอบสวน บก.ปปป.เข้าร่วมประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าคดีตบทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว ในประเด็นต่างๆ ตามที่ได้สั่งการไปแล้ว
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้พูดคุยถึงแนวทางการสืบสวนขยายผลไปยังมิติต่างๆ ส่วนกรณีข้าราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่จะเข้ามาแจงกรณีนำข้อมูลเกี่ยวกับการทุจริตภายในกรมการข้าวไปส่งต่อให้ นายเอกลักษณ์ วารีชล หนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหานำไปใช้ในขบวนการตบทรัพย์นั้น ก็จะเดินทางเข้ามาให้ข้อมูลกับตนเองในวันนี้ แต่เป็นการพูดคุยส่วนตัว ยังไม่ได้เป็นการสอบปากคำ
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่าส่วนเจ้าหน้าที่คณะทำงานเขตตรวจราชการที่ 11 สำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นคณะทำงานชุดเดียวกับ นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋งดอกจิก และ น.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ หรือ การ์ตูน เดิมจะเข้ามาให้ข้อมูลในวันนี้ แต่ก็แจ้งมาว่าจะขอเข้ามาให้ข้อมูลในวันพรุ่งนี้ ( 13 ก.พ.) สำหรับประเด็นที่จะต้องสอบคณะทำงานเขตตรวจราชการที่ 11 นั้น เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่หลายคนก็จะตั้งประเด็นสอบแบบแยกกลุ่ม พร้อมจะเรียกดูเอกสารที่เกี่ยวข้องกับทางราชการ ซึ่งเป็นเอกสารรายละเอียดคำสั่ง และเอกสารที่เกี่ยวข้อง หากไม่นำมาให้ครบถ้วนก็คงออกหมายเรียกเอกสารมาอีกครั้งหนึ่ง
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวถึงกรณีอายัดทรัพย์สินของกลุ่มผู้ต้องหา ว่า กำลังดำเนินการให้เกิดความชัดเจน และเตรียมเสนอ ปปง. เพื่ออายัดทรัพย์สินของกลุ่มผู้ต้องหา ตามความผิดมูลฐานคดีฟอกเงิน เนื่องจากตรวจสอบเส้นทางการเงินแล้วพบว่า มีทรัพย์สินหลายรายการที่กลุ่มผู้ต้องหาได้มาอย่างไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะในรายของนายศรีสุวรรณ จรรยา ที่พบว่ามีทรัพย์สินจำนวนมาก เฉพาะแค่บ้านพักนั้นมีอยู่ถึง 5-6 หลัง รวมมูลค่าไม่ต่ำกว่ำ 15 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีโฉนดที่ดิน และของสะสมต่างๆ เช่น พระเครื่อง, งาช้าง,เขาสัตว์ ,เฟอร์นิเจอร์เก่า และครุฑที่มีมูลค่านับ 100 รายการ ซึ่งขบวนการยึดทรัพย์จะเริ่มเมื่อไรนั้น กำลังเร่งดำเนินการเพราะได้มีการคุยประสานกับทุกภาคส่วน เพื่อให้งานเดินเร็วที่สุดด้วย
“เราต้องการให้นักร้องพวกนี้เข็ดหลาบ ไม่ใช่เฉพาะนักร้องกลุ่มนี้ แต่ยังมีนักร้องที่ยังเดินอยู่บนสภา และนักร้องที่อาละวาดอยู่ในต่างจังหวัด ที่ชอบมาตีเงินข้าราชการ เอาประชาชนเป็นเหยื่อล่อ พวกนี้จะต้องจัดการให้หมด เพราะถือเป็นกลุ่มแก๊งอุบาทว์ ชอบแสดงความรักชาติรักแผ่นดิน แต่มีอะไรที่หลบๆ ไว้เยอะ” รอง ผบช.ก.กล่าว
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวอีกว่าสำหรับความคืบหน้าทางคดี ขณะนี้กำลังเร่งทำสำนวนกลุ่มผู้เสียหายวงแรก เพื่อให้เป็นแผนประทุษกรรม ก่อนขยายไปยังวงอื่นๆ ที่น่าจะมีกว่า 10 กลุ่ม ส่วนในวงที่ 2 อยู่ระหว่างการสอบปากคำพยาน และยังมีผู้ประสงค์จะเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกด้วย ส่วนการออกหมายเรียกคนใกล้ชิดของนายศรีสุวรรณให้มารับทราบข้อกล่าวหานั้น มีการติดต่อมายืนยันแล้วว่าจะมาตามกำหนดนัดหมายคือวันที่ 15 ก.พ.นี้ ส่วนนายวีระ สมความคิด นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่มีข้อมูลเกี่ยวโยงกับการตบทรัพย์ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้ อีสาน อดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ก็น่าจะเดินทางมาให้ข้อมูลในวันอังคารที่ 20 ก.พ.นี้เช่นกัน
วันเดียวกัน นายโอวาท ยิ่งลาภ ผู้อำนวยการ กองพัฒนาผลิตภัณฑ์ข้าว กรมการข้าว ได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับขบวนการตบทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว
นายโอวาท เปิดเผยว่า วันนี้ตนมายื่นเอกสารเพื่อชี้แจงกับพนักสอบสวน ตามหลักฐานเป็นเอกสารแชตไลน์ ยืนยันว่าตนเองไม่ได้เกี่ยวข้องกับขบวนการของ นายศรีสุวรรณใดๆ ทั้งสิ้น และยืนยันว่าไม่ได้นำข้อมูลไปให้แก๊งตบทรัพย์แต่อย่างใด
นายโอวาท กล่าวอีกว่า ที่ไปรู้จักกับนายเอกลักษณ์ หนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหา ก็เพราะเคยเรียนสถาบันเดียวกันมาก่อน แต่ไม่ใช่รุ่นเดียวกัน โดยมีหลักฐานการพูดคุยส่วนตัวกับนายเอกลักษณ์ที่มอบให้ตำรวจไปแล้ว เป็นการพูดคุยเรื่องส่วนตัว ไม่ใช่ข้อมูลของกระทรวงเกษตรฯ แม้กระทั่งวันที่จับกุม นายศรีสุวรรณ ตนยังถามนายเอกลักษณ์ว่าเกี่ยวข้องหรือไม่ นายเอกลักษณ์ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้อง ตนยังเตือนไปว่าอย่าเข้าไปยุ่ง และก็ห้ามนำชื่อของตนไปแอบอ้างด้วย
นายโอวาท กล่าวต่อถึงกรณีที่ถูกกล่าวหา จะมีการฟ้องกลับหรือไม่ว่า คงต้องขอดูก่อน หากมีการนำข้อความที่เป็นเรื่องผิดกฎหมาย และทำให้ตนเสียหาย ก็จะหารือกับนักกฎหมายอีกครั้ง เพราะส่วนตัวก็ไม่อยากมีปัญหากับใคร
"หลังถูกพาดพิงทำให้ผมรู้สึกกังวลมาก แต่ขณะนั้นยังติดอบรมอยู่ที่ต่างประเทศ เมื่อกลับมาแล้วจึงรีบเข้ามาชี้แจงทันที หลังจากนี้คงต้องระมัดระวังในการทำงานมากขึ้น เพราะไม่รู้เบื้องหลังว่าใครเขาทำอะไรบ้าง ส่วนตัวแล้วอาจจะรู้จักกันจริง แต่ไม่ได้รู้จักการทำงานของเขา" นายโอวาท กล่าว