xs
xsm
sm
md
lg

คู่แท้! “นุ้ย” แม้สามีป่วยมะเร็ง ผ่าตัดหลายครั้งจนเหลือแค่ครึ่งตัว ไม่เคยคิดทอดทิ้ง จะอยู่สู้ไปด้วยกันจนลมหายใจสุดท้าย!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา พาคุณผู้ชมไปรู้จัก “นุ้ยและหลอด” คู่สามีภรรยา ที่ จ.ลพบุรี ที่แม้ฝ่ายสามีจะป่วยพิการ 6 ปีแล้ว แต่ภรรยาก็สู้ดูแลและเป็นเสาหลักทำงานหารายได้เลี้ยงครอบครัว ไม่เคยคิดทอดทิ้ง จะอยู่สู้ไปด้วยกันจนกว่าลมหายใจสุดท้ายจะมาถึง



กว่า 6 ปีแล้ว ที่ ดวงกมล ผลทอง หรือนุ้ย ต้องเป็นเสาหลักในการทำงานหารายได้เลี้ยงครอบครัว หลัง สิทธิชัย สุขมั่น หรือหลอด สามี ล้มป่วยด้วยโรคมะเร็ง ถึงขั้นต้องตัดอวัยวะเพื่อรักษาชีวิตมาหลายครั้ง จนร่างกายของหลอด เหลือเพียงแค่ครึ่งตัวอย่างที่เห็น และแม้จะพิการถึงเพียงนี้ แต่โรคมะเร็งก็ยังไม่หยุดคุกคาม โดยได้ลามไปถึงปอดแล้ว ทำให้หลอดต้องทนทุกข์ทรมานกับความเจ็บปวดตลอดเวลา


“(ถาม-ครอบครัวเรามีใครอยู่บ้าง?) มีลูก มีแฟน มีตัวเอง และมีพ่อ และพี่ชายของแฟน ทั้งหมด 5 คน (ถาม-เห็นบอกว่า ที่บ้านนี้ มีเราเป็นเสาหลักคนเดียว แต่ละคนเป็นอย่างไรบ้าง?) แฟนตอนนี้ติดเตียง ผ่าตัดครึ่งตัว เป็นมะเร็งขั้นสุดท้าย ตอนนี้ลามไปที่ปอด ลูกชายตอนนี้เรียนอยู่ ป.5 คุณพ่อ อายุ 60 กว่า พี่ชายก็ 40 กว่า (ถาม-แต่ละคนช่วยเหลือตัวเองได้มากน้อยแค่ไหน?) พอได้อยู่ แต่เรื่องการใช้จ่าย หนูเป็นคนใช้จ่ายหมดทุกอย่าง (ถาม-เห็นพี่ชายก็เจ็บป่วยด้วยเป็นอะไร?) เป็นอัมพฤกษ์ข้างหนึ่ง”


ก่อนที่จะถูกโรคมะเร็งเล่นงานเมื่อหลายปีก่อน หลอดเป็นคนขยันขันแข็ง ทำงานค้าขายมีรายได้เลี้ยงครอบครัวอย่างสบาย

“ผมค้าขาย แฟนเป็นคนทำแซนด์วิช และผมเป็นคนส่ง วิ่งส่งตามร้านค้า ทุกที่ที่มีร้านค้าที่เราไปติดต่อไว้ ทั้งในโคกสำโรง ชัยนาท สระบุรี ไปทั่ว แต่ละสาย วันหนึ่งร้านค้าเยอะ (ถาม-ทำของเยอะไหม?) เยอะ 2 พันชิ้นต่อวัน และจะมีของแผงด้วย เช่น ถั่ว มะขาม ปลาหวาน เชอรี่ พุทราจีน ถั่วปากอ้า แหนม ข้าวเกรียบ แค็บหมู (ถาม-ภรรยาเป็นคนทำอยู่ที่บ้าน?) ใช่ มีภรรยาทำ และคนที่ว่างงานในบ้าน มาทำด้วย (ถาม-แสดงว่าตอนนั้นมีอาชีพที่มั่นคงดูแลครอบครัวได้?) ก็พอได้กินได้อยู่”


ขณะที่นุ้ย ภรรยา ยอมรับว่า หลอดเป็นคนค้าขายเก่ง“เขาเป็นคนที่ร่าเริง ทำงานเก่ง ค้าขายเก่ง เก่งทุกอย่าง ในการพูดการขาย (ถาม-แสดงว่า เมื่อก่อนสองคนสามีภรรยาช่วยกันหารายได้ดูแลครอบครัวได้สบาย?) สบาย”


สัญญาณเริ่มเตือน...ปัญหาสุขภาพ!

“ตอนแรกมีอาการปวดหลัง ก็ไปหาหมอ ผมก็คิดว่าเรายกของหนัก หมอก็วินิจฉัยว่า เราเป็นหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ได้รับยามา เราเป็นคนหาเช้ากินค่ำ เราก็ต้องไปทำงานทุกวัน วันไหนเราไม่ไป เราไม่ได้กิน อยู่ๆ มาก็มีก้อน จนก้อนมันโตขึ้นๆ จนผมมาล้มตรงนี้”


นุ้ย เล่าว่า หลอดถูกส่งตัวไปหลาย รพ. เพราะบาง รพ.ยอมรับว่า รักษาไม่ได้“เป็นมา 6 ปีแล้ว ก็รักษามาตลอด (ทราบว่าเป็นมะเร็งได้ยังไง) หมอก็ส่งไปเอกซเรย์บ้านหมี่ แล้วมันมีก้อนขึ้นมา ปวดทนไม่ไหว ก็พาแฟนไปที่คลินิก คลินิกบอกว่า รักษาไม่ได้ ต้องไปหาหมอที่ รพ. หมอที่ รพ.โคกสำโรงก็ส่งไปที่ รพ.จุฬาภรณ์ หมอก็ตรวจ เจาะชิ้นเนื้อไปดู มันร้ายแรง รักษาไม่ได้ เขาก็ส่งไป รพ.เลิศสิน ก็บอกว่า ต้องผ่าตัดเอาก้อนออกมา 4 กิโล”


หลังผ่าตัดครั้งแรก แม้ยังไม่สูญเสียขา แต่ก็ใข้งานไม่ได้!

“ผ่าตัดครั้งแรก ผมก็พิการครึ่งตัวเลย สูญเสียครึ่งตัวไปเลย แต่ยังมีขาอยู่นะ พิการเฉยๆ ทำอะไรไม่ได้ แต่อยู่ๆ ขาก็ขยับได้บ้าง เป็นปีๆ ที่ผมรักษามา ขามันขยับได้ แต่เท้ามันขยับไม่ได้ ผมก็พาแฟนไปรับปลาที่บ่อมาขาย ไปรับปลาที่วังน้อย แถวโน้นบ่อปลาเยอะ และไปที่ตลาดอ่างทอง แต่ผมใช้วีลแชร์ลง ให้ลูกเข็นบ้าง แฟนเข็นบ้าง (เดินไม่ได้ก็ยังทำงาน) ครับ”


หลังผ่าตัดครั้งแรกได้ 1 ปี มะเร็งก็คุกคามหลอดอีกครั้งด้วยการลามไปที่อวัยวะต่างๆ ทำให้หลอดต้องผ่าตัดอีก หลายรอบ

“ผ่ามา 3 รอบ รอบแรกเอาก้อนออกประมาณ 4 กิโล รอบแรกที่สูญเสียครึ่งหนึ่งไปเลย ไม่เป็นไร ผมก็ยังสู้อยู่ รอบสอง อยู่มาเป็นปีๆ ก็มีก้อนขึ้นมาอีก รอบสองผ่า 10 ก้อนทั้งเล็กและใหญ่ แต่มันก็ยังออกไม่หมด หรือมันขึ้นมาอีก รอบสามก็ผ่าอีก รอบสี่มันกินสะโพกด้านซ้ายและขวาหมดแล้ว ผ่าไม่ไหวแล้ว ต้องตัด ตอนแรกอาจารย์หมอเขาจะไม่ยอมตัดกัน เพราะเคสของเราเป็นเคสเดียวและเคสแรก ที่ตัดเยอะมาก ตัดครึ่งตัว สูญเสียเยอะ หมอก็กลัวจะเสียชีวิต ความสูญเสียมันเยอะ ความเสี่ยงสูง”


“ผมก็บอกว่า จะเป็นจะตายไม่รู้ พอผมได้ยินว่า ไม่เคยผ่า ผมก็ดีใจ คิดว่า อย่างน้อยเราจะตาย ขอให้ตายแบบมีประโยชน์ต่อเคสต่อไป หรือคนต่อไป หมอจะได้มีความรู้หรือประสบการณ์ต่อไป (ถาม-เหมือนให้เคสของเราเป็นกรณีศึกษาให้กับหมอท่านอื่น ถ้ามีกรณีอย่างเรา จะได้ประสบการณ์จากการรักษาเรา แล้วความหวังในการมีชีวิตของเรา หมอบอกไหมว่า มีโอกาสจะรักษาชีวิตเรากี่เปอร์เซ็นต์?) ส่วนใหญ่หมอจะไม่บอก บอกแต่ข้อเสียก่อนว่า มีโอกาสเสี่ยงนะ มีโอกาสจะไม่ได้กลับคืนมา คือตาย ภาษาบ้านๆ เรา”


ปัจจุบัน หลอดป่วยมะเร็งระยะที่ 4 โดยมะเร็งลามไปที่ปอดแล้ว“(ถาม-ปัจจุบันเป็นยังไงบ้าง?) ปัจจุบันก็มีอาการปวดมาก เหมือนมีใครเอามีดมาแทงตัวเรา ด้านหลังก็เหมือนมีใครเอาน้ำกรดหรือน้ำร้อนอะไรมาราด เจ็บ ปวด หายใจลำบาก”


เมื่อการรักษาตัวกินเวลายาวนาน ส่งผลให้หลอดต้องยอมขายที่นา เพื่อเอาเงินมารักษาตัว ขณะที่นุ้ย ภรรยา ต้องเป็นเสาหลักทำงานหารายได้เลี้ยงครอบครัวเพียงลำพัง


“แต่เดิมสามีเป็นเสาหลักของบ้าน ค้าขาย เราก็ทำของเพื่อให้สามีไปขาย (ถาม-แล้วทำยังไง 6 ปีที่ผ่านมาหลังสามีป่วย?) ทำทุกอย่าง ทำน้ำจิ้มหมูกระทะขายตามหมู่บ้าน และรับซ่อมโทรศัพท์ (ถาม-เราทำอะไรได้บ้างซ่อมโทรศัพท์?) เปลี่ยนแบตฯ เปลี่ยนจอ เปลี่ยนลำโพง เปลี่ยนกล้อง ฯลฯ”


หลังมะเร็งลามสู่ปอด ตัดสินใจไม่ผ่าตัดแล้ว พร้อมสู้ในสภาพนี้ ไม่อยากให้ภรรยาลำบากกว่านี้

“ถามว่าทำไมถึงไม่รักษา 1.ถ้าเราไปรักษา เรามีโอกาสที่จะตัดปอดข้างขวาออก และมีการกรีดเนื้อข้างซ้าย เพราะมันมี 2 ข้างเลยตอนนี้ ถ้าเราเอาข้างขวาออก แผลหาย 1 เดือน เราก็ต้องไปเอาข้างซ้ายออก ตอนเอาข้างขวาออก เราจะหายใจเหนื่อยกว่าเดิม และพอแผลหายปุ๊บ เราต้องไปเอาก้อนเนื้อข้างซ้ายออก เอาเครื่องช่วยหายใจออกไม่ได้ ต้องเจาะคอ ถ้าเจาะคอยังหายใจไม่สะดวก ต้องเจาะหน้าท้อง ผมคิดว่าผมสู้มาไกลแล้ว ถ้าเกิดตอนนั้น ผมพูดอะไรกับแฟนไม่ได้ ผมคิดว่า มันจะลำบากแฟน ลำบากคนดูแล ผมเลยตัดสินใจว่า ไม่ผ่าดีกว่า ผมขอสู้แบบนี้ไปเลยดีกว่า”


รางวัลที่ 1 คือ การมีภรรยาและลูกอยู่เคียงข้าง!

“(ถาม-เราเคยท้อแท้หรือหมดกำลังใจไหม จากวันที่เคยทำงานได้ แล้วทำไม่ได้ ภรรยาต้องดูแลทุกอย่าง เคยคุยกับภรรยาไหมเวลาที่รู้สึกอย่างนั้น?) มีแต่บอกว่า อย่าท้อนะ ร่างกายเขาดีอยู่ เขาจงอย่าท้อ ขนาดเราเป็นแบบนี้ เรายังไม่ท้อเลย (ถาม-เห็นเขาทำทุกอย่างเลย บอกเขาว่ายังไง?) สู้ไปด้วยกัน ถ้าไม่มีเขา ผมก็ไม่มีใคร รางวัลที่ 1 ของหลายๆ คนอาจจะเป็น ถูกรางวัลที่ 1 แต่รางวัลที่ 1 สำหรับผมคือ มีแฟนและลูกอยู่เคียงข้าง บอกเขาแบบนี้ตลอด (ถาม-แล้วภรรยาให้กำลังใจเรายังไงบ้าง?) ทุกวัน ให้กำลังใจ หอมกันบ้าง กอดกันบ้าง ส่วนใหญ่เราไม่แสดงออกว่าเราอ่อนแอให้เห็น กลัวเขาท้อ เราจะไม่เอาเรื่องเล็กๆ มาทำให้เป็นปัญหา (ถาม-อยากบอกอะไรกับพวกเขาที่ยังอยู่เคียงข้างเราทุกวันนี้?) ก็รัก เราก็รักเขา และอยากให้เขารักตัวเอง ให้ดูแลตัวเอง อะไรที่เกิดกับผม ไม่อยากให้ไปเกิดกับเขา”


“(ถาม-มองไปอนาคตบ้าง ทุกคนมีเวลาของตัวเอง เรารู้สึกยังไงกับสิ่งที่จะต้องเกิดขึ้น เราคาดหวังอะไรกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น?) ผมคิดว่าคาดหวังอะไรไม่ได้ มี 2 สิ่งที่อยู่ในใจผมคือ สิ่งที่เราคิดอยู่ตลอดคือ ความจริงกับความตาย ที่เราหนีมันไม่ได้ เราต้องยอมรับความจริงกับสิ่งที่เราเป็นอยู่ กับความตายที่กำลังจะเข้ามา เราต้องยอมรับมันให้ได้”


“(ถาม-ถ้าพูดถึงชีวิตเรา ถ้ามองในแง่ศึกษา สิ่งที่เราได้เรียนรู้เป็นประสบการณ์ และเป็นบทเรียนอันล้ำค่า และมีประโยชน์สำหรับเราคืออะไร?) หลายๆ อย่างที่เคยผ่านมันมา ทุกสิ่งอย่างคงน่าจะเป็นบทเรียน เรามัวแต่เอาเวลาไปหาอนาคต เมื่อก่อนต้องการทำงานเหน็ดเหนื่อย หนักแค่ไหน เราต้องไป จะไปให้ได้ เราลืมปัจจุบัน เราลืมดูแลตัวเราให้ดี (ถาม-เรามัวแต่คิดสร้างอนาคต จนลืมตัวเองที่จะเป็นรากฐานปัจจุบันที่จะเป็นอนาคตที่ดีไป ทำให้เราละเลยกับการรักษา ทำให้มันสูญเสียตรงนั้นไป ถ้าเป็นไปได้คือ ตอนนี้รักษาตรงนี้ ทำตรงนี้ให้ดีที่สุด?) ถึงร่างกายเราจะรักษาไม่ได้ เราก็ต้องรักษาใจให้ดีตอนนี้ ใจสำคัญสุด”


สำหรับนุ้ย ภรรยาที่ใช้ชีวิตร่วมทุกข์ร่วมสุขกับหลอดมานานกว่า 17 ปี ยอมรับว่า กังวลกับสิ่งที่จะเกิดกับสามีในอนาคต แต่ก่อนจะถึงวันนั้น พร้อมสู้ไปด้วยกันให้ถึงที่สุด

“(ถาม-กลัวการที่จะต้องพลัดพรากจากกันไหม?) ก็มีบ้าง (ถาม-กลับมาเข้มแข็งได้ยังไง?) ก็ต้องสู้กับเขาไปให้ถึงที่สุด ไม่ว่ายังไงเราก็ต้องสู้ไปด้วยกัน สู้ให้ถึงที่สุด จนลมหายใจสุดท้าย”


หากท่านใดต้องการช่วยเหลือครอบครัวของหลอดและนุ้ย โอนเงินไปได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย ชื่อบัญชี สิทธิชัย สุขมั่น เลขที่บัญชี 1-972-30813-3

คลิกชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ตอน “สู้...สุดลมหายใจ”
https://www.youtube.com/watch?v=duYQ7dVI-rI&t=1450s


ติดตามรับชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ได้ ทุกวันเสาร์ เวลา 09.00-09.30 น. ทางสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ( IPM ช่อง 64 / PSI ช่อง 211 )

หรือรับชมรายการย้อนหลังได้ที่เพจ ฅนจริงใจไม่ท้อ https://web.facebook.com/KonJingJaimaitor/
หรือยูทูบฅนจริงใจไม่ท้อ https://www.youtube.com/channel/UCsb4sLqdHs35km4uQ_tOCjQ/videos
กำลังโหลดความคิดเห็น