xs
xsm
sm
md
lg

ลูกชาย “ดุก คาราบาว” ภูมิใจพ่อเป็นที่รัก ครอบครัวยังเศร้า จากไปไม่ทันร่ำลา ขอบคุณ “แอ๊ด คาราบาว” ให้โอกาสพ่อมาตลอด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



วงการเพลงเพื่อชีวิตต้องสูญเสีย “ดุก คาราบาว” ลือชัย งามสม มือคีย์บอร์ดเก๋าประสบการณ์ของวงคาราบาว ที่เสียชีวิตด้วยอาการกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน เมื่อวันที่ 18 มี.ค.2567 ในวัย 70 ปี โดยเจ้าตัวป่วยเป็นโรคหัวใจ เคยผ่าตัดเมื่อ 1-2 ปีก่อน สร้างความรู้สึกช็อกต่อครอบครัว และเพื่อนพี่น้องร่วมวง รวมถึงแฟนเพลงเพราะไม่คิดว่าเจ้าตัวจะจากไปกะทันหันแบบนี้
 
โดยครอบครัวนำร่างมาบำเพ็ญกุศลที่ ศาลา 1 วัดบางเพ็งใต้ ซอยรามคำแหง 187/1 ซึ่งวันนี้ (22 มี.ค.) มีพิธีสวดอภิธรรม เวลา 19.00 น. วงคาราบาว และค่ายวอร์นเนอร์ มิวสิก(ประเทศไทย) ร่วมกันเป็นเจ้าภาพ บรรยากาศในงานมีคนในวงการเพลงเพื่อชีวิตมาร่วมไว้อาลัยมากมาย อาทิ แอ๊ด คาราบาว, หงา คาราวาน, ปู พงษ์สิทธิ์ คำภีร์, เล็ก คาราบาว, เทียรี่ เมฆวัฒนา, ไข่ มาลีฮวนน่า ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีแฟนเพลงจำนวนมากมาร่วมงาน

ด้าน “ต้อง กฤษณะ งามสม” ลูกชายคนกลางของ “ดุก คาราบาว” ได้เปิดใจถึงการสูญเสียคุณพ่อว่ากะทันหันจนไม่ทันได้ร่ำลา
“หลักๆ คุณพ่อจะมีปัญหาเรื่องโรคหัวใจ ที่เคยไปผ่าตัดมาในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ก็เข้าโรงพยาบาลหนักๆ ก็จะเป็นรอบนั้น แล้วก็เลยกลายเป็นโรคประจำตัวเขา ก็เข้าออกโรงพยาบาลเป็นช่วงๆ ครับ ถ้าไม่หนักมาก ปกติพ่อจะไม่ค่อยไปโรงพยาบาล เขาจะพยายามรักษาสุขภาพ อยู่กับธรรมชาติ คือช่วงปกติของพ่อ เขาจะแข็งแรง เคลื่อนที่รวดเร็ว ไม่ได้เชื่องช้าเป็นคนชรา ทุกอย่างเป็นปกติหมด แค่ว่าจะเจ็บเป็นส่วนๆ จะแน่นบ้าง จุกเสียดบ้าง ไม่ได้มีสัญญาณว่าท่านจะเป็นอะไรหนัก เพราะในทุกครั้งที่มีอาการ ไม่ว่าจะอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วย สุดท้ายเขาก็กลับมาได้ เขาจะมีวิธีรักษาตัวเอง เราด้วยความเป็นลูก เราก็จะได้ข่าวว่าช่วงนี้พ่อป่วยหนัก ซึ่งถ้าป่วยหนักเราต้องไปเยี่ยมอยู่แล้ว แต่รอบนี้ก็ทราบมาว่าพ่อป่วยนะ เป็นโรคคล้ายๆ เดิม กำลังรักษาอยู่ เราก็คิดว่าเดี๋ยวพ่อคงหาย”

เผยพ่อทำงานหนักตลอด ล่าสุดไปทัวร์ใต้ได้ครึ่งทางต้องกลับ เพราะไม่ไหว ก่อนมาเสียชีวิตที่บ้าน ด้วยอาการกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน
“ใช่ครับ คือโดยคิวงานเข้าใจว่าเยอะมาก เวลาแม่ส่งคิวมาให้ดู จะนัดทานข้าว ส่วนใหญ่ก็อยู่ต่างจังหวัดซะเยอะ ก่อนจะเสียก็ทราบมาว่าไปทัวร์ใต้ แล้วก็เหมือนที่แจ้งมา ว่าไปได้ครึ่งทางก็ต้องกลับ น่าจะไม่ไหว ปกติพ่อจะลุยมาก ถ้าพ่อไม่ไหวแสดงว่าพ่อน่าจะหนักจริง พอกลับมาเขาก็ไปอยู่บ้านที่ระยองก่อน แล้วก็พยายามรักษา ผมอาจจะจำรายละเอียดตรงนั้นไม่ได้ แต่ว่าเขาไปรักษาตรงนั้นตรงนี้ เหมือนเขาจะมีวิธีรักษาหลายๆ อย่างที่เพื่อนเขาแนะนำ แต่รอบสุดท้ายที่เสีย ที่ทราบคือคุณแม่และพี่ชายโทร.มาบอก ว่าเหมือนเข้าไปพักอยู่ที่บ้านนี่แหละ แล้วก็ไปนั่งในห้องน้ำแล้วก็หลับไปเลย ทีมงานเขาก็รีบพาไปโรงพยาบาล แต่โรงพยาบาลแจ้งว่าเหมือนท่านจะเสียก่อนไปแล้ว ที่ทราบก็คือมีการปั๊มหัวใจ แต่คือไม่ทันแล้ว ก็เลยระบุการเสียชีวิต ว่ามาจากกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน เหมือนหัวใจวายแล้วก็เสียไปครับ”

ได้เจอพ่อครั้งสุดท้ายหลายเดือนที่แล้ว ส่วนใหญ่จะโทร.และคุยไลน์กันมากกว่า
“ตัวผมเองเจอคุณพ่อครั้งสุดท้ายนี่หลายเดือนแล้วครับ เพราะส่วนมากเราจะคุยกันทางโทรศัพท์ มีอะไรก็จะโทร.คุยกัน ก็เพิ่งคุยกันไม่นาน เพิ่งคุยกันไปอยู่เลย บางทีก็ไลน์หากัน แต่แม่จะคุยกับพ่อตลอด เวลาที่แม่คุยกับพ่อ เขาก็จะคอยมาสื่อสารกับเรา ว่าพ่อทำโน่นทำนี่อยู่นะ เราก็ไม่ได้คุยกับพ่อบ่อย แต่ว่ามีอะไรก็จะโทร.หากันได้”

ไม่มีคำพูดอะไรเป็นลาง แค่บ่นว่าช่วงนี้เจ็บเยอะ
“ถ้ากับผมเนี่ยไม่มีเลย แต่ที่แม่บอกมา ช่วง 2-3 วันก่อนจะเสีย เขาก็มีบ่นเยอะเหมือนกัน ว่าช่วงนี่เจ็บเยอะอยู่ แต่ด้วยความที่เราอาจจะชะล่าใจ คิดว่าเดี๋ยวพ่อก็หาย เพราะทุกครั้งที่เวลาที่ลูกเจอพ่อ พ่อจะบอกว่าพ่อสบาย แต่เขาอาจจะไปบอกกับแม่มากกว่า ไม่อยากให้ลูกห่วง”

เชื่อพ่อไม่ห่วงอะไรแล้ว แต่ลูกๆ แอบเศร้าเพราะแพลนจะพาไปเที่ยวไปกินข้าวด้วยกัน ตอนพ่องานซาลง
“ผมคิดว่าโดยรวมไม่น่าจะห่วงแล้ว เพราะลูกทุกคนทำงานแล้ว จริงๆ มันเป็นช่วงบั้นปลายชีวิตของแกแหละ เขาก็พยายามจะเตรียมแพลนชีวิตในแบบที่เขาชอบ มีบ้านสวนที่ระยอง มีบ่อน้ำเลี้ยงปลา เลี้ยงไก่ เขาชอบธรรมชาติแบบนั้น แล้วฝั่งของพวกผมเอง ทางลูกๆ ส่วนมากเราจะอยู่กรุงเทพฯ กัน เราก็แอบคิดไว้ล่วงหน้า ก็แอบเศร้านิดหนึ่ง เราคิดไว้ว่าเดี๋ยวพอพ่อเริ่มงานซาลง เพราะคาราบาวเขาแจ้งแล้ว ว่าเดี๋ยวงานละลงลดเรื่อยๆ เราก็เล็งแล้วว่าเดี๋ยวพ่อจะว่าง เราค่อยไปเที่ยวเล่นกับเขา พาเขาไปกินข้าว คิดเอาไว้แต่ยังไม่ทันได้ไปทำเลย”

ช็อกตอนรู้ข่าว เป็นเรื่องที่กะทันหัน ไม่ทันได้สั่งเสียอะไรเลย ทุกคนในบ้านยังเสียใจมากๆ
“ก็ถือว่ากะทันหันมากๆ ครับ คือในวันที่ทราบเราก็ช็อก อย่างก่อนนี้ถ้าเราจะช็อก คือพ่อประสบอุบัติเหตุ เราก็จะถามอยู่โรงพยาบาลไหน เราก็จะรีบไปเยี่ยม หรือเจ็บป่วย แต่อันนี้คือโทร.มาพ่อเสียแล้ว เราก็งง ว่าเอ๊ะ ทำไมปุบปับ เราไม่ได้คุย ไม่ได้สั่งเสียหรือร่ำลาอะไรเลย คือมันไม่ได้เป็นการเจ็บป่วยที่อยู่โรงพยาบาลแล้วเราไปนั่งคุยกับเขา มันเลยปุบปับมาก ทุกคนในบ้านก็คือเสียใจมากๆ แต่ด้วยความที่เราพยายามไม่คิด มันอาจจะมีข้อดีที่ว่า ลักษณะของบ้านผม เราไม่ได้เจอพ่อตลอดอยู่แล้ว แต่เรารู้ว่าเขาอยู่ตรงนั้น เราโทร.หาได้ตลอด ก็จะพยายามทำใจให้ได้ ว่าไม่เป็นไร เขาก็ทำหน้าที่ของเขา มันก็จะมีแค่บางโมเมนต์ที่เศร้า ตอนเอาน้ำเอาข้าวให้พ่อผ่านธูปแทน อะไรอย่างนี้แม่จะไม่ทำเลย เศร้ามาก”

พ่อรับผิดชอบหน้าที่ตัวเองได้ดี และเป็นคนมีน้ำใจมาก เห็นมาตลอดว่าพ่อชอบช่วยเหลือคนอื่น
“จริงๆ หลักๆ เขาจะบอกให้ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ให้ดูแลที่บ้าน ดูแลครอบครัว เขาจะเป็นคนที่ทำงาน รับผิดชอบหน้าที่ได้ดี คอยปลูกฝังให้เราโดยที่ไม่ต้องบอกเราเยอะ ลูกๆ ก็ทำหน้าที่ของตัวเองอยู่แล้ว เขาจะบอกว่าเต็มที่ลูก ไม่ต้องห่วง พ่อดูแลตัวเองได้ ก็ให้ดูแลแม่ ดูแลน้องด้วย จริงๆ แล้วสิ่งที่ผมเห็นพ่อตั้งแต่เด็กเลย คือความชอบช่วยเหลือคน เขาจะเป็นคนที่มีน้ำใจมาก เราเห็นภาพนั้นมาตลอด มันก็เลยติดมาในตัวทุกคนที่บ้านด้วย จะชอบช่วยเหลือคนทุกครั้งที่มีโอกาส ผมเห็นภาพนี้มาร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่พอวันที่คุณพ่อจากไป เราไปนั่งไถเฟซบุ๊กดู เรายิ่งเห็นว่าคนรักเขาเยอะมาก มันยิ่งตอกย้ำว่าโอเค เราจะดำเนินชีวิตในแบบที่เขาวางไว้ ว่าให้มีน้ำใจ ช่วยเหลือคน”

คงไม่ได้สานต่อเรื่องดนตรี แต่จะดูแลครอบครัวให้ดีเหมือนที่พ่อทำ
“จริงๆ ทางบ้านจะไม่ได้มาสายดนตรีซะทีเดียว พี่ชายทำบริษัทของตัวเอง ผมก็ทำงานบริษัท ก็จะเป็นแนวที่เราถนัด แต่ถ้าจะสานต่อ ก็คงเป็นเรื่องของการดูแลกันในที่บ้านมากกว่า อย่างน้องสาวก็เริ่มโตแล้ว อายุ 27-28 ปี ก็ดูแลตัวเองได้ ส่วนพี่ชายก็มีครอบครัวแล้ว ตัวผมเองก็มีงาน คนที่เราต้องดูแลก็คือแม่ ทุกคนก็ต้องช่วยกันดูแลแม่ เพราะปกติพ่อจะชัดเจน ว่าเดี๋ยวพ่อดูแลเอง เขาก็ดูแลแม่ตลอด แม่อยากได้อะไร แม่จะใช้จ่ายอะไร พ่อเขาจะปลูกฝังมาชัดเจน ว่าให้แม่ดูแลลูก แล้วพ่อก็ดูแลครอบครัวรวมๆ จากแม่อีกที ก็ส่งมาที่ตัวเรา ว่าให้ช่วยกันดูแลครอบครัว”

ภูมิใจพ่อเป็นคนเก่ง มีแต่คนชื่นชม
“จริงๆ มันเป็นความภูมิใจมาแต่เด็กแล้ว ตอนเด็ก เราก็อาจจะไม่ได้ทราบทั้งหมด ว่าคาราบาวเป็นยังไง ยิ่งใหญ่ขนาดไหน แต่ว่าทุกครั้งที่เราไปดูคอนเสิร์ตที่เขาเล่น เราจะรู้สึกว่าโอ้โห มีคนชื่นชมในวงนี้ ในตัวเขามากมายมากๆ แล้วในมุมมองของผม พ่อเป็นคนเก่ง ทั้งในเรื่องดนตรีและหลายๆ อย่าง เราเคยถามเขาว่าพ่อไปเล่นอันนี้เป็นได้ยังไง ทำไมอยู่ดีๆ พ่อก็ไปเล่นอันโน้นอันนี้ ช่วงหนึ่งพ่อไปเล่นอังกะลุง คือพ่อทำได้หมด เขาก็จะสอนเราว่ามันเรียนรู้ได้ แล้วเวลาผู้คนมาหาเขา เราจะรู้สึกได้ถึงพลัง ว่าเขาชื่นชมพ่อเรา มันก็เป็นความภูมิใจของพ่อ”

ขอบคุณ “แอ๊ด คาราบาว” ยืนยง โอภากุล ที่ให้โอกาสพ่อ และคุณอาทุกคนที่ช่วยดูแลกันและกันมาตลอด
“อยากขอบคุณอาแอ๊ด ขอบคุณอาทุกคน เพราะจริงๆ คุณอาแต่ละท่าน ผมก็เจอตั้งแต่เด็กๆ จนโตมา ที่ได้ยินเรื่องราวจากพ่อ คือแต่ละคนก็เป็นเพื่อนที่สนิทกับพ่อ เป็นเพื่อนที่ใช้ชีวิตด้วยกัน เขาดูซึ่งกันและกันมาตลอด ก็ขอบคุณคุณอาทุกคน ขอบคุณอาแอ๊ดด้วย ที่ให้โอกาสหลายๆ อย่าง พ่อจะเล่าตลอดว่าอาแอ๊ดให้ทำโน่น ให้ทำนี่ ทำให้เขาได้รับโอกาส และได้เติบโตขึ้นมา

ขอบคุณทุกกำลังใจจากแฟนคลับ คุณพ่อไปสบาย ได้พักไม่เหนื่อยแล้ว
“ก็อยากขอบคุณแฟนคลับคุณพ่อทุกคน มีเยอะกว่าที่คาดมากจนตกใจ คุณพ่อไปสบายแล้ว เขาไม่ต้องเหนื่อยแล้ว เขาได้พักแล้ว เพราะเขาเป็นคนสนุกสนานกับมาตลอด ยังไงก็ขอบคุณทุกกำลังใจครับ เดี๋ยวที่เหลือทางบ้านก็จะทำหน้าที่แทนคุณพ่อต่อไปให้ดีที่สุด คุณพ่ออยู่ตรงนั้นก็พักแล้ว ขอบคุณทุกกำลังใจมากๆ ครับ ในส่วนของกำหนดการ วันนี้กับวันพรุ่งนี้ ก็จะเป็นการสวดอภิธรรมตามปกติ แล้ววันอาทิตย์จะเป็นพิธีฌาปนกิจ หลักๆ ในช่วงเช้าก็จะมีการทำบุญ วันจันทร์ก็จะเป็นการเก็บกระดูกไปลอยอังคารครับ”

























กำลังโหลดความคิดเห็น