สุราษฎร์ธานี - ประเทศไทยอะไรก็ได้ ตำรวจบุกตรวจค้นจับกุมหนุ่มพม่า แอบปล่อยเงินกู้รายวัน รับจำนำรถจักรยานยนต์ให้กลุ่มต่างด้าว สุดอึ้ง พบเส้นทางเงินจำนวนมาก ยึดเงินสดในกระเป๋าสะพาย 330,000 บาท สมุดเล่มทะเบียนรถจักรยานยนต์ในบ้านพักกว่า 100 เล่ม อ้างว่าเป็นของนายทุนชาวพม่าที่อยู่กรุงเทพฯ
ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.นิพนธ์ พานิชเจริญ รอง ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.เสริมพันธ์ุ ศิริคง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.เด่นดวง ทองศรีสุข ผกก.สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี มอบหมายและสั่งการให้ พ.ต.ท.อนุมัติ รื่นพานิช รอง ผกก.สส.บ่อผุด พ.ต.ต.ภานุมาศ ชูเกื้อ สว.สส.พร้อม ร.ต.อ.อรุณ มูสิกิ้ม รอง สว.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี นำกำลังเข้าตรวจสอบและตรวจค้นห้องเช่าไม่มีเลขที่ หมู่ 3 ตำบลมะเร็ต อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี หลังสืบทราบว่าที่ห้องเช่าไม่มีเลขที่ดังกล่าวมีชาวพม่าพักอาศัย และมีพฤติการณ์ปล่อยเงินกู้ให้ชาวพม่าด้วยกัน โดยใช้วิธีหลบเลี่ยง ด้วยวิธีการในรูปแบบจำหน่ายรถจักรยานยนต์ และรถยนต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนจึงได้เดินทางไปตรวจสอบ ภายในบ้านมีนายออง โก ลัท AUNG KO LATT สัญชาติพม่า อายุ 40 ปี รับว่าเป็นเจ้าของห้อง
จากการตรวจสอบภายในห้องเช่าดังกล่าว พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อต่างๆ จำนวน 5 คัน จอดคลุมผ้าอย่างดี และพบเงินสดในกระเป๋าสะพาย จำนวน 330,000 บาท และยังพบ สมุดคู่มือรถจักรยานยนต์ จำนวน 107 เล่ม สมุดบัญชีจดรายชื่อบัญชีลูกค้า จำนวน 1 เล่ม
จึงได้ทำการยึดไว้เป็นของกลางทั้งหมด พร้อมนำรถจักรยานยนต์ทั้ง 6 คัน และ รถยนต์กระบะ 1 คัน ไว้เป็นของกลาง และนำมาไว้ที่ สภ.บ่อผุด และทำการสอบปากคำผู้ต้องหา
ในเบื้องต้น นายออง โก ลัท ผู้ต้องหาให้การว่า ตนได้นำรถจักรยานยนต์ดังกล่าวมาจากนายสะมม สัญชาติพม่า ซึ่งเป็นนายทุนอยู่ในกรุงเทพฯ และตนจะเป็นคนสั่งรถจักรยานยนต์มาขาย และให้ชาวพม่าเช่าซื้อ ซึ่งหากตนขายได้จะได้รับค่านายหน้าคันละ 1,000 บาท และหากเป็นการเช่าซื้อตนจะได้รับค่านายหน้าคันละ 300 บาทต่อเดือน ส่วนรถกระบะที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบตนได้ซื้อมาจากเพื่อนชื่อนายวินยูเตง สัญชาติพม่า ในราคา 150,000 บาท และได้ทำธุรกิจนี้มาแล้วประมาณ 2 ปี
แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การ และไม่เชื่อว่านายออง โก ลัท จะทำเพียงคนเดียว และเชื่อว่าน่าจะทำกันเป็นขบวนการ และยังทราบว่า นายออง โก ลัท ยังปล่อยเงินกู้รายวันให้กลุ่มแรงงานชาวพม่าด้วยกัน โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการขยายผล พร้อมตรวจสอบเส้นทางที่มาที่ไปของเงิน ทางชุดจับกุมได้เเจ้งข้อกล่าวหาในเบื้องต้น ในข้อกล่าวหา “ประกอบธุรกิจสินเชื่อโดยไม่ได้รับอนุญาต” นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ่อผุด ดำเนินคดีต่อไป
ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับชาวต่างชาติที่เดินทางมาประกอบอาชีพด้วยการใช้วีซ่าประเภทท่องเที่ยว และวีซ่าทำงานในระยะนี้ จากการตรวจสอบพบว่ามักไม่ตรงกับเอกสารที่ยื่นขออนุญาตเดินทางเข้ามา และนักท่องเที่ยวรวมทั้งกลุ่มผู้ใช้แรงงานชาวพม่า และกัมพูชาที่อาศัยอยู่บนเกาะสมุย จะมีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยง หรือมองว่าประเทศไทยอะไรก็ได้ ชาวต่างชาติจะใช้วิธีหลบเลี่ยงแอบแฝงมาทำธุรกิจ ปล่อยเงินกู้ รับจำนำรถ ปล่อยรถให้เช่า และยังมีอีกหลายประเภทที่กลุ่มนักท่องเที่ยวแอบแฝงทำธุรกิจที่สุ่มเสี่ยงผิดกฎหมายบนเกาะสมุย มองว่าประเทศไทยอะไรก็ได้อย่างนั้นหรือ
