สหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี (18 เม.ย.) ดำเนินการที่เท่ากับเป็นการหยุดยั้งสหประชาชาติจากการรับรองปาเลสไตน์ในฐานะรัฐเอกราช ด้วยการใช้สิทธิวีโต้ในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ปฏิเสธอ้าแขนรับปาเลสไตน์เข้าเป็นสมาชิกเต็มขั้นขององค์กรระหว่างประเทศแห่งนี้
อเมริกาวีโต้ร่างญัตติที่จะเสนอให้ที่ประชุม 193 สมาชิกของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ อ้าแขนรับรัฐปาเลสไตน์เข้าเป็นสมาชิกของสหประชาชาติ ทั้งนี้นอกเหนือจากสหรัฐฯ ที่ไม่คัดค้านแล้ว ในบรรดา 15 ชาติสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ มี 12 ประเทศที่ยกมือเห็นชอบ ส่วนสหราชอาณาจักรและสวิตเซอร์แลนด์งดออกเสียง
โรเบิร์ต วู้ด รองเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ บอกกับคณะมนตรีความมั่นคงว่า "อเมริกายังคงเดินหน้าสนับสนุนอย่างแข็งขันต่อแนวทาง 2 รัฐคู่ขนาน การโหวตนี้ไม่ได้สะท้อนจุดยืนคัดค้านความเป็นรัฐของปาเลสไตน์ แต่เป็นการยอมรับว่ามันจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมาจากการเจรจาระหว่างฝ่ายต่างๆ เท่านั้น"
มาห์มูด อับบาส ประธานองค์การบริหารแห่งชาติปาเลสไตน์ ประณามการวีโต้ของสหรัฐฯ ว่า "ไม่ยุติธรรม ไร้จริยธรรมและปราศจากเหตุผล" พร้อมระบุมันท้าทายเจตจำนงของประชาคมนานาชาติ ซึ่งสนับสนุนอย่างแข็งขันต่อการเป็นสมาชิกเต็มรูปแบบของปาเลสไตน์
ความพยายามผลักดันให้ปาเลสไตน์เป็นสมาชิกสหประชาชาติเต็มตัว เกิดขึ้นท่ามกลางสงครามระหว่างอิสราเอลกับฮามาสในฉนวนกาซาที่ลากยาวมากว่า 6 เดือน และอิสราเอลกำลังขยายการตั้งถิ่นฐานในดินแดนยึดครองเวสต์แบงก์
ปัจจุบัน ปาเลสไตน์เป็นรัฐสังเกตการณ์ที่ไม่ได้เป็นสมาชิก ซึ่งถือเป็นการรับรองความเป็นรัฐโดยพฤตินัย ที่ได้รับการอนุมัติโดยสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติในปี 2012 อย่างไรก็ตาม การเสนอตัวเข้าเป็นสมาชิกสหประชาชาติเต็มรูปแบบ จำเป็นต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเสียก่อน และจากนั้นก็ตามด้วยคะแนนเสียง 2 ใน 3 ของที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ รับรองมาช้านานต่อเวอร์ชัน 2 รัฐคู่ขนาน ใช้ชีวิตอยู่เคียงข้างกันภายในดินแดนที่ได้รับการคุ้มกันและรับรอง โดยปาเลสไตน์ต้องการสถาปนารัฐในเวสต์แบงก์ เยรูซาเลมตะวันออกและฉนวนกาซา ซึ่งทั้งหมดถูกยึดไปโดยอิสราเอลในปี 1967
อามาร์ เบนจามา เอกอัครราชทูตแอลจีเรีย ประจำสหประชาชาติ บอกก่อนหน้าลงมติ ว่าการอ้าแขนรับปาเลสไตน์เข้าสู่สหประชาชาติ จำเป็นต้องช่วยเสริมความเข้มแข็งแก่แนวทาง 2 รัฐคู่ขนาน พร้อมบอกว่า "สันติภาพจะเกิดขึ้นเมื่อนับรวมปาเลสไตน์ ไม่ใช่มาจากการกีดกันปาเลสไตน์"
องค์การปาเลสไตน์ ที่นำโดยอับบาส มีอำนาจในการปกครองตนเองแบบจำกัดในเวสต์แบงก์ หลังจากพวกฮามาสโค่นองค์การปาเลสไตน์ลงจากอำนาจในกาซา เมื่อปี 2007
การลงมติครั้งนี้มีขึ้นในขณะที่อิสราเอลยังคงเดินหน้าปฏิบัติการแก้แค้นนักรบฮามาสในฉนวนกาซา เอาคืนที่พวกนักรบกลุ่มนี้ทำการโจมตีเล่นงานอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม สังหารผู้คนไปราว 1,200 ราย และอีกกว่า 250 คนถูกลักพาตัว
นับตั้งแต่นั้นปฏิบัติการแก้แค้นในกาซาของอิสราเอล ได้สังหารผู้คนไปแล้วเกือบ 34,000 รายในกาซา ส่วนใหญ่เป็นพลเมืองชาวปาเลสไตน์
(ที่มา : รอยเตอร์)