xs
xsm
sm
md
lg

มะกันกุมขมับนักท่องเที่ยวจีนบางตา หวั่นพนักงานโรงแรมตกงานระนาว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:


กลุ่มนักท่องเที่ยวเดินอยู่บนถนนฮอลลีวูดบูเลอวาร์ดท่ามกลางพายุฝนในนครลอสแองเจลิส สหรัฐฯ - แฟ้มภาพรอยเตอร์
หลังจากรัฐบาลจีนมีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เมื่อปีที่แล้ว ทว่าจนถึงขณะนี้ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมในสหรัฐอเมริกายังคงนั่งตบยุงรอนักท่องเที่ยวจากประเทศจีน
 
รัฐบาลจีนเริ่มยกเลิกมาตรการโควิด-19 ที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางอย่างค่อยเป็นค่อยไปมาตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2566 และยกเลิกข้อจำกัดด้านการท่องเที่ยวแบบหมู่คณะทั้งหมดในเดือนสิงหาคมปีเดียวกัน แต่ผลที่ได้รับคือมีชาวจีนเดินทางมาสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นก็จริงคือเกือบ 1 ล้าน 1 แสนคน แต่ยังคงน้อยกว่าในปี 2562 อันเป็นช่วงก่อนการระบาดถึง 60% จากข้อมูลของสำนักงานการเดินทางและการท่องเที่ยวแห่งชาติสหรัฐฯ (NTTO


นายไรอัน ยอนก์ นักวิจัยอาวุโสของสถาบันวิจัยเศรษฐกิจอเมริการะบุว่า การเข้ามาของนักเที่ยวจีนฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดหวังกันว่าการผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 จะทำให้การเดินทางไปมาระหว่างสหรัฐฯกับจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเดินทางท่องเที่ยวจะเติบโตอย่างมากและฟื้นคืนสู่ระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาด


จำนวนนักท่องเที่ยวแดนมังกรที่ไม่ได้ตามเป้าอาจเพิ่มแรงกดดันต่อรายได้ของผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมในสหรัฐฯ ซึ่งยังต้องต่อสู้กับปัญหาท้าทายในการทำให้ผู้คนในประเทศกลับมาเดินทางกันตามปกติ ท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อเรื้อรัง


นักท่องเที่ยวชาวจีนเล่นน้ำฉลองวันหยุดสงกรานต์ซึ่งเป็นวันขึ้นปีใหม่ไทยในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2567 - ภาพรอยเตอร์
นักวิเคราะห์มองว่า นักท่องเที่ยวชาวจีนเองก็เผชิญกับปัญหาความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ จึงเลือกการออมเงินไว้ก่อน และหันมาเที่ยวในประเทศ หรือในประเทศใกล้เคียงแทน

สมาคมเจ้าของโรงแรมชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย (The Asian American Hotel Owners Association) ซึ่งเป็นตัวแทนเจ้าของโรงแรมประมาณ 2 หมื่นแห่งในสหรัฐฯ ระบุว่า การลดลงของนักท่องเที่ยวจีนทำให้รายได้และผลกำไรของผู้ประกอบการลดลง ส่งผลให้เกิดการตกงาน พนักงานและคนงาน ซึ่งต้องพึ่งพาการท่องเที่ยวต่างชาติในการหาเลี้ยงชีวิตเกิดความตึงตัวด้านการเงิน

นักท่องเที่ยวจีนใช้จ่ายเงินในสหรัฐฯ มากถึง 1,500 ล้านดอลลาร์ในปี 2562 มากกว่านักท่องเที่ยวจากชาติอื่นๆ ตามข้อมูลของสมาคมการท่องเที่ยวแห่งสหรัฐฯ


ข้อมูลในปี 2566 ของสำนักงานบริหารการค้าระหว่างประเทศ (ITA) ระบุว่า นักท่องเที่ยวจีนมีการใช้จ่ายโดยเฉลี่ย 4,137 ดอลลาร์ต่อคน ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติอื่นๆ ใช้จ่ายโดยเฉลี่ย 1,850 ดอลลาร์ต่อคน การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวจีนมากกว่าถึง 123.6% นอกจากนั้น ยังพบว่านักท่องเที่ยวจีนใช้จ่ายเงินราว 30% ของงบประมาณการเดินทางท่องเที่ยวไปกับโรงแรมที่พัก


 นักท่องเที่ยวชาวจีนแผ่นดินใหญ่ถ่ายรูปกับหมู่อาคารสูงระฟ้าที่ย่านจิมซาจุ่ยในฮ่องกงเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2566 - แฟ้มภาพรอยเตอร์
นักวิเคราะห์ชี้ว่า บรรยากาศความขัดแย้งตึงเครียดสหรัฐฯ-จีน ค่าเครื่องบินแพง และจำนวนเที่ยวบินระหว่างชาติทั้งสองที่ยังต่ำกว่าช่วงก่อนโควิด-19 ก็เป็นอีกสาเหตุที่นักท่องเที่ยวจีนมาสหรัฐฯ น้อย

ครั้นหันมาดูชาติใกล้เคียงแถบอาเซียนต่างก็สร้างมาตรการจูงใจดึงดูดนักท่องเที่ยวจีน เช่น การยกเลิกวีซ่า


จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมาไทย และสิงคโปร์เพิ่มขึ้น 1,187.1% และ 942.2% ในปี 2566 ต่ำกว่าระดับก่อนเกิดโรคโควิด-19 ระบาดก็จริง แต่สูงกว่าในสหรัฐฯ ที่เพิ่ม 192.9%


ถ้านักท่องเที่ยวจีนเข้าสหรัฐฯ มากเหมือนเมื่อปี 2562 จะสร้างรายได้ให้สหรัฐฯ 3 หมื่นล้านดอลลาร์ และสร้างงาน 5 หมื่นตำแหน่ง นางจีนา ไรมอนโด รมว.พาณิชย์สหรัฐฯ กล่าวเมื่อปีที่แล้ว

แต่ NTTO ระบุว่า ภาคการเดินทางท่องเที่ยวของสหรัฐฯ ต้องรอไปอีกอย่างน้อย 2 ปีคือในปี 2569 กว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามามากเหมือนแต่ก่อน

ขณะที่รายงานของอิโคโนมิสต์ อินเทลลิเจนซ์ ระบุว่า จำนวนคนจีนเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศจะยังคงน้อยกว่าในช่วงก่อนโควิด-19 ระบาดไปจนถึงปี 2568


ที่มา : รอยเตอร์

กำลังโหลดความคิดเห็น