หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สรายงานเมื่อวันจันทร์ (22 เม.ย.)ว่า ผู้นำอิสราเอลมีแผนโจมตีอิหร่านครั้งใหญ่ เพื่อแก้แค้นเหตุเตหะรานปล่อยโดรนและยิงขีปนาวุธถล่มอิสราเอลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ถูกสหรัฐฯ และบรรดาพันธมิตรกดดันให้ลดระดับปฏิบัติการลง
อิสราเอลล็อกเป้าโจมตีอิหร่านด้วยโดรนและขีปนาวุธยิงจากอากาศจำนวนหนึ่งเมื่อวันศุกร์ (19 เม.ย.) ตามรายงานของนิวยอร์กไทม์ส อ้างอิงแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่อเมริกาและอิสราเอลที่ไม่ประสงค์เอ่ยนาม
ทั้งนี้ แม้พวกเจ้าหน้าที่ตะวันตกเชื่อว่าขีปนาวุธลูกหนึ่งของอิสราเอลพุ่งโดนฐานทัพแห่งหนึ่งของอิหร่าน แต่เตหะรานยอมรับเพียงว่าพวกเขาถูกโจมตีด้วยโดรนควอดคอปเตอร์ฝูงเล็กๆ เท่านั้น ในขณะที่ ฮอสเซน อามีร์ อับดอลลาเฮียน รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน ให้คำจำกัดความอากาศยานเหล่านั้นว่าเป็นแค่ "ของเด็กเล่น" ที่สามารถสอยร่วงได้อย่างง่ายดาย
นิวยอร์กไทม์สรายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่ระบุว่า เบื้องต้น อิสราเอลมีความตั้งใจโจมตีด้วยระลอกที่ใหญ่โตกว่านี้มาก เล็งเป้าหมายที่ตั้งทางทหารทั่วอิหร่าน ในนั้นรวมถึงใกล้กรุงเตหะราน อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร และเยอรมนีได้ออกแรงกดดันทางการทูตใส่เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล และบีบให้เขายอมตอบโต้ในวงจำกัด
"การตอบโต้ลักษณะดังกล่าวหลีกเลี่ยงก่อความเสียหายร้ายแรง บรรเทาความเป็นไปได้ของสถานการณ์ลุกลามบานปลาย" หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สระบุ ทั้งนี้ กองทัพอิสราเอลไม่แสดงความคิดเห็นต่อรายงานดังกล่าว และใช้จุดยืนเดิมในนโยบายไม่ยืนยันหรือปฏิเสธใดๆ ต่อปฏิบัติการโจมตีในแผ่นดินต่างชาติ
สถานการณ์ลุกลามบานปลายรอบล่าสุดระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 1 เมษายน ตามหลังปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเล่นงานสถานการณ์กงสุลอิหร่านประจำกรุงดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรีย ที่เตหะรานกล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของอิสราเอล การโจมตีดังกล่าวสังหารสมาชิก 7 นายของกองกำลังคุดส์ แห่งกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน ในนั้นรวมถึงนายพลระดับสูง 2 นาย
เตหะรานเตือนว่าจะแก้แค้น และอีก 2 สัปดาห์ต่อมา ได้เปิดฉากยิงขีปนาวุธและปล่อยโดรนกามิกาเซ่หลายร้อยเข้าเล่นงานอิสราเอล แม้ส่วนใหญ่ถูกสกัดเอาไว้ได้ แต่มีรายงานว่าบางส่วน ในนั้นรวมถึงขีปนาวุธหลายลูกได้เล็ดลอดระบบป้องกันภัยทางอากาศ พุ่งโดนเป้าหมาย ก่อความเสียหายแก่ฐานทัพอากาศแห่งหนึ่งของอิสราเอล
เบื้องต้น เนทันยาฮู มีแผนโจมตีแก้แค้นครั้งใหญ่ในทันที แต่ตัดสินใจลดระดับลงระหว่างการพูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ตามรายงานของนิวยอร์กไทม์สเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยในรายงานทั้งในสัปดาห์ที่แล้วและในวันจันทร์ (22 เม.ย.) พวกเจ้าหน้าที่อิสราเอลและอเมริกัน เปิดเผยว่าวอชิงตันต้องการให้อิสราเอลหลีกเลี่ยงยั่วยุลากอิหร่านเข้าสู่การโจมตีตอบโต้กันไปมาแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน
แผนดังกล่าวดูเหมือนจะประสบความสำเร็จ เมื่อรัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่าน ระบุว่า "ตราบใดที่ไม่มีการกระทำที่เสี่ยงครั้งใหม่โดยอิสราเอลต่อผลประโยชน์ของเรา เมื่อนั้นเราก็จะไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองครั้งใหม่ใดๆ"
แม้พวกพันธมิตรทางการเมืองสายแข็งกร้าวของเนทันยาฮู จะแสดงความผิดหวังวิพากษ์วิจารณ์การตอบโต้ดังกล่าวว่า "อ่อนแอ" แต่พวกเจ้าหน้าที่ให้สัมภาษณ์กับนิวยอร์กไทม์ส ยืนยันว่าการโจมตีแก้แค้นดังกล่าวเป็นการแสดงให้เห็นถึงคลังแสงทางทหารที่ใหญ่โตและล้ำสมัยของอิสราเอล"
(ที่มา : นิวยอร์กไทม์ส/อาร์ทีนิวส์)