xs
xsm
sm
md
lg

เวียดนามกวาดล้างทุจริตเข้ม ประธานสภาแห่งชาติลาออกอีกรายเหตุละเมิดข้อบังคับพรรค

เผยแพร่:   ปรับปรุง:


เวือง ดิ่ง เหวะ ขณะดำรงตำแหน่งประธานสภาแห่งชาติเวียดนาม.
เอเอฟพี - พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามระบุว่าประธานสภาแห่งชาติได้ลาออกจากตำแหน่งแล้ว หนึ่งในผู้นำทางการเมืองระดับสูงของประเทศที่ตกเป็นเป้าของปฏิบัติการกวาดล้างการต่อต้านการทุจริตครั้งใหญ่

เวือง ดิ่ง เหวะ ถูกขอให้ลาออกจากตำแหน่งเนื่องจากการละเมิดข้อบังคับและข้อบกพร่อง พรรคระบุในคำแถลงที่เผยแพร่บนเว็บไซต์

ผู้คนหลายพันคนรวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงและนักธุรกิจอาวุโสถูกดำเนินคดีจากการปราบปรามการรับสินบนของประเทศ

“เขาละเมิดข้อบังคับเกี่ยวกับสิ่งที่สมาชิกพรรคทำไม่ได้ และข้อบังคับเกี่ยวกับความรับผิดชอบในการเป็นตัวอย่างให้เจ้าหน้าที่และสมาชิกพรรค” คำแถลงของพรรคระบุ

“การละเมิดและข้อบกพร่องของสหายเวือง ดิ่ง เหวะ ก่อให้เกิดความคิดเห็นที่ไม่ดีจากประชาชน ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงพรรค รัฐ และตัวเขาเอง”

เวือง ดิ่ง เหวะ เป็นหนึ่งใน 4 ผู้นำที่ทรงอำนาจที่สุดของประเทศ ในฐานะประธานสภาแห่งชาติ ผู้นำที่ทรงอิทธิพลอีกคนหนึ่งคือ ประธานาธิบดีหวอ วัน เถือง ถูกบังคับให้ออกจากตำแหน่งเมื่อเดือนที่แล้วหลังจากดำรงตำแหน่งดังกล่าวได้เพียง 1 ปี จากการละเมิดและข้อบกพร่องที่ไม่ได้ระบุรายละเอียด

การลาออกของเหวะ ได้รับการยอมรับจากคณะกรรมการกลางพรรค แต่สภาจะต้องจัดการประชุมเพื่อลงมติรับรองการลาออกดังกล่าว

ตามประกาศก่อนหน้านี้ สภาแห่งชาติจะจัดการประชุมฤดูร้อนตามปกติในวันที่ 20 พ.ค.

การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งใหญ่เช่นนี้เป็นเรื่องผิดปกติในเวียดนาม ที่ตลอดหลายปีที่ผ่านมาการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดจะถูกจัดการอย่างรอบคอบโดยให้ความสำคัญกับเสถียรภาพอย่างระมัดระวัง

เหวียน ฝู จ่อง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม บุคคลผู้ทรงอิทธิพลที่สุดของประเทศ ถูกมองว่าเป็นผู้กำกับเบื้องหลังการขับเคลื่อนการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันที่ได้รับความนิยมจากประชาชน

แต่นักวิเคราะห์เตือนว่า ความวุ่นวายนี้อาจคุกคามชื่อเสียงของประเทศในด้านเสถียรภาพ ที่ช่วยสร้างเศรษฐกิจการผลิตที่ขับเคลื่อนด้วยการส่งออกที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ที่ผลิตผลิตภัณฑ์ให้แบรนด์ระดับโลกหลายราย

เช่นเดียวกับผู้นำทางการเมือง นักธุรกิจรายใหญ่ก็ตกเป็นเป้าของการกวาดล้างทุจริตเช่นกัน เช่นเจือง หมี ลาน เจ้าแม่อสังหาริมทรัพย์ ถูกตัดสินประหารชีวิตเมื่อต้นเดือนในคดีฉ้อโกงมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเมื่อเวียดนามกำลังแสวงหาการลงทุนจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากสหรัฐฯ เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศตั้งแต่การผลิตมูลค่าต่ำไปจนถึงอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง.
กำลังโหลดความคิดเห็น