เว็บไซต์รัฐสภา เผยผลโหวตความคิดเห็น ปชช.กว่า 64% ไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับที่ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธมนุษยชนและผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 3.6 หมื่นคนเสนอ โดยมีเนื้อหารวมให้นิรโทษกรรมแก่ผู้ทำผิด ม.112 ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่เว็บไซต์รัฐสภา www.parliament.go.th ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชนต่อ ร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมประชาชน พ.ศ. ....ที่เสนอโดย น.ส.พูนสุข พูนสุขเจริญ ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษชนกับผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 36,723 คน ตามมาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญ ซึ่ง น.ส.พูนสุข และ ตัวแทนจาก “ไอลอว์” ยื่นต่อประธานรัฐสภาไว้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2567 ต่อมารัฐสภาได้เปิดรับฟังความเห็นตั้งแต่ 13 พ.ค. ถึงวันที่ 12 มิ.ย.ปรากฏว่า มีจำนวนผู้ร่วมโหวต 90,503 คน มีผู้ไม่เห็นด้วยถึง 64.66 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่เห็นด้วยมีเพียง 35.34 เปอร์เซ็นต์
สำหรับร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวมีสาระสำคัญ คือ หลักการให้มีกฎหมายว่าด้วยนิรโทษกรรมประชาชนในคดีการเมือง โดยที่ความขัดแย้งทางการเมืองของประเทศไทยดำเนินมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน หากนับจากความขัดแย้งภายหลังการบังคับใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับ พ.ศ. 2540 มีการชุมนุมและแสดงออกทางการเมือง จนนำไปสู่การดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมและประชาชนหลายพันคน ความขัดแย้งยังก่อให้เกิดการเปลี่ยนผ่านอำนาจโดยไม่สงบจากการรัฐประหาร สร้างความเสียหายต่อระบบนิติรัฐและประชาธิปไตย ในขณะที่เจ้าหน้าที่รัฐ หรือผู้ถือครองอำนาจรัฐไม่ต้องรับผิดใดๆ ประชาชนกลับถูกดำเนินคดีมาโดยตลอด เนื่องในโอกาสที่ประเทศกลับมาสู่การเลือกตั้งและรัฐบาลมีที่มาจากประชาชน สมควรปลดเปลื้องคดีความทางการเมืองเพื่อโอกาสในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่ยืดเยื้อมาอย่างยาวนาน เป็นการคืนความยุติธรรมแก่ประชาชน จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
ร่างพระราชบัญญัตินี้กำหนดให้นิรโทษกรรมแก่การกระทำความผิดที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2549 จนถึงวันที่พระราชบัญญัติมีผลใช้บังคับ โดยมีคณะกรรมการนิรโทษกรรมประชาชนเป็นผู้วินิจฉัยการกระทำของบุคคลที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมทางการเมืองหรือการแสดงออกทางการเมืองที่สมควรได้รับการนิรโทษกรรม เว้นแต่คดีตามร่างมาตรา 5 ซึ่งได้รับการนิรโทษกรรมโดยคณะกรรมการไม่ต้องพิจารณาวินิจฉัย ดังนี้
1. คดีความผิดตามประกาศและคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
2. คดีพลเรือนที่ถูกดำเนินคดีในศาลทหารตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 37/2557 และฉบับที่ 38/2557
3. คดีตามฐานความผิดในมาตรา 112 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
4. คดีตามฐานความผิดในพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548
5. คดีตามฐานความผิดในพระราชบัญญัติออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2559
6. คดีตามฐานความผิดที่เกี่ยวโยงกับคดีข้างต้น
ทั้งนี้ การกระทำของบรรดาเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ชุมนุมประท้วงหรือการสลายการชุมนุมที่เกินสมควรกว่าเหตุ หรือเป็นความผิดตามมาตรา 113 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ไม่ได้รับนิรโทษกรรม และหากการกระทำของบุคคลที่ได้รับนิรโทษกรรมตามพระราชบัญญัตินี้สร้างความเสียหายแก่บุคคลซึ่งไม่ใช่องค์กรหรือหน่วยงานของรัฐ ผู้เสียหายนั้นยังคงมีสิทธิในการเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งจากผู้กระทำ
อนึ่ง โดยที่คำวินิจฉัยและประกาศของคณะกรรมการไม่อยู่ภายใต้บังคับของกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง การโต้แย้งคำวินิจฉัยและประกาศดังกล่าวจึงต้องฟ้องคดีต่อศาลยุติธรรมซึ่งมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีทั้งปวงที่ไม่อยู่ในอำนาจของศาลอื่นตามมาตรา 194 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
ก่อนหน้านั้น เมื่อคืนวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา น.ส.พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า ทวีตข้อความผ่าน X ว่า สุดยอดไปเลย เมื่อคืนมีคนมาแสดงความเห็นในร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม 30,000 นิดๆ ตื่นเช้ามาเพิ่มเป็นเกือบ 60,000 และคะแนนไม่เห็นด้วยเพิ่มเป็นกว่า 60% ไม่แน่ใจว่าเป็น active citizen ที่ไม่หลับไม่นอน หรือเจ้าหน้าที่เวรดึกฝากประชาชนช่วยกันเข้าไปแสดงความเห็นค่ะ วันนี้วันสุดท้ายแล้ว ช่อทำในมือถือ ระบบรวนมาก กรอกอยู่ 4 รอบกว่าจะได้ สงสัยทำในคอมจะดีกว่า ลำบากจัง แต่ต้องสู้.