“ลิลลี่ เหงียน” ฟาดใส่ “ปู มัณฑนา” หน้าด้าน ประกาศยกหนี้ให้ ลั่นถือว่าทำบุญ ขยะแขยง อยากไล่ออกไปจากชีวิต ด้านผู้เสียหายอีกรายสุดทน ลุยฟ้องฉ้อโกง ทนายคาดไม่จบง่ายๆ ทรงนี้หนี้ไม่จ่ายแถมฟ้องกลับ ยันไม่ได้ไลฟ์ด่าอีกฝ่าย แค่เตือนภัยกลัวเอฟซีโดนโกง
เรียกว่าไม่จบง่ายๆ สำหรับกรณีที่ “ลูกหมี รัศมี ทองสิริไพรศรี”แถลงข่าวพร้อมแจ้งความ “ปู มัณฑนา หิมะทองคำ”อดีตนางเอกชื่อดัง ว่ากู้ยืมเงินแล้วไม่คืน แถมจ่ายเช็คเด้ง 2 ล้าน ทวงถามแล้วก็เงียบ จนเมื่อวันที่ 4 ก.ค. 67 ที่ผ่านมา จะได้เผชิญหน้ากันที่ สน.ทองหล่อ เพื่อเจรจาไกล่เกลี่ย สุดท้ายล่มไม่เป็นท่า ด้าน “ลูกหมี” ยอมให้จ่าย 1.4 ล้าน โดยมีเงื่อนไขต้องจ่ายทั้งหมด แต่ “ปู” ยันไม่สะดวกจ่าย เพราะชื่อเสียงพังหมดแล้ว
โดยตำรวจได้นัดอีกครั้งวันที่ 16 ก.ค.นี้ซึ่งงานนี้ก็มีแววว่าฝั่ง “ปู” และสามี “หาญส์ ภักดีหาญส์ หิมะทองคำ”อาจจะฟ้องกลับ เพราะที่สน. ก็เดือดน่าดู แถมล่าสุดไปออกรายการ “เปิดปากกับภาคภูมิ” ทางช่องไทยรัฐทีวี ได้มีการพาดพิงถึงนักแสดงชาวเวียดนาม “ลิลลี่ เหงียน”ที่ก่อนหน้านี้ออกมาเผยว่าโดนปูยืมเงินไป 6.7 แสนไม่คืน ซึ่งในรายการทางฝ่ายปู ระบุว่าลิลลี่ได้พามิจฉาชีพมาทำให้ตนเป็นหนี้ 5 แสนบาท ทำเอา “ลิลลี่ เหงียน” เกิดความไม่สบายใจ ต้องออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าววันนี้ (7 ก.ค.67) ที่สำนักงานทนายคลายทุกข์ พร้อมกับ “ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์” และ “ทนายกุ้ง อำนวยพร มณีวรรณ์”โดยมี “ลูกหมี” และ “อ้อม อรัญญา ณัฐวัชรเสถียร” ผู้เสียหายอีกหนึ่งคนร่วมแถลงด้วย
ลิลลี่ : “หนูได้ดูที่พี่ปูพูด ว่าลิลลี่พามิจฉาชีพเข้ามาทำให้พี่ปูเสียเงิน 5 แสน หนูเลยขอมาชี้แจงตรงนี้ว่ามันไม่เป็นความจริง คนที่เสียเงินคือหนู เพื่อที่จะช่วยเขา ก็ขอฝากข้อความนี่ถึงพี่ปู ให้พี่ได้ฟังว่าทุกอย่างที่หนูพูดไปมันคือความจริง เริ่มต้นคือคนที่เขากล่าวอ้างว่าเป็นมิจฉาชีพ หนูรู้จัก ขอเรียกว่าพี่ ก.ไก่ คือบังเอิญเจอกันในร้านอาหารแล้วแลกไลน์คุยกันแต่ไม่ได้สนิท เนื่องจากพี่เขาเคยดูข่าวที่ลี่ถูกโกงเงิน 50 ล้านจาก เอิร์ก เลเดอเรอร์ แล้วเขาก็เข้ามาให้กำลังใจ ลี่ก็คุยแค่นั้น จากนั้นประมาณเดือนที่ พี่ปูแจ้งว่าถูกโกงที่ดินร้อยล้าน แล้วก็เครียดมาก เลยชวนลี่ไปทานข้าวที่ทองหล่อ แต่ลี่นัดกับพี่ก.ไก่ไว้แล้ว เขาบอกว่าเขาอกหัก ไม่มีเพื่อน พี่ปูก็บอกว่างั้นชวนพี่คนนี้มาทานข้าวด้วยกัน”
“ซึ่งวันที่เจอกัน ก่อนพี่ก.ไก่จะมา หนูได้พูดกับพี่ปู ว่าพี่ก.ไก่คนนี้ จะมาเป็นสปอนเซอร์รายการให้หนู พี่ปูก็บอกว่างั้นดีเลย พาพี่เขามาที่นี่ พอพาไปพี่ปูก็พูดเกี่ยวกับกรณีที่พี่ปูถูกโกงที่ดินร้อยล้าน แล้วพี่ก.ไก่ก็เสนอจะช่วยพี่ปูเกี่ยวกับเรื่องที่ดิน วันนั้นหนูก็เป็นพยานให้พี่ปูได้ พี่ก.ไก่บอกว่าหนูจะช่วยนะ จะไม่เสียเงินใดๆ เลย พอวันรุ่งขึ้น พี่ก.ไก่ก็โทร.มาบอกว่าผผู้ใหญ่พร้อมจะช่วยพี่ปูแล้วนะ พี่ปูก็นัดไปเจอที่ร้านอาหาร พอเจอกัน ซึ่งหนูก็ไม่ได้สนิทกับพี่ก.ไก่นะ หนูก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น แต่รอบนี้พี่ก.ไก่เขาบอกว่าต้องจ่ายค่าดำเนินการให้กับผู้ใหญ่ 4 แสนบาท ตรงนี้หนูกับพี่ปูบอกพี่ก.ไก่ว่างั้นขอยุติการดำเนินการ เพราะตอนนี้พี่ปูไม่มีเงิน ตัวหนูก็ไม่สามารถช่วยได้”
“แต่ต้นเรื่องมันเกิดขึ้น เพราะว่าพี่ก.ไก่คนนี้ เขาบอกว่าว่าพี่พูดกับผู้ใหญ่ไปแล้ว มันเสียคำพูดไม่ได้ แต่พวกเราสองก็ไม่โอเคที่จะต้องจ่ายเงิน 4 แสน แต่อยู่ๆ พี่ก.ไก่ ก็โอนเงินออกจากบัญชีส่วนตัวของตัวเอง ไปให้ผู้ใหญ่ทางฝั่งที่บอกว่าจะช่วย แล้วตัวหนูกับพี่ปูก็งง เพราะเราสั่งห้ามแล้ว เลยขอดูสลิป เขาก็ให้ดูแป๊บหนึ่ว แต่ไม่ได้ส่งมาให้ จากนั้นเขาก็บอกลี่ ว่าช่วยเพราะรู้จักลี่นะ ไม่ได้รู้จักพี่ปู แล้วพี่ก็เต็มใจช่วยขนาดนี้แล้ว ลี่ก็ต้องข่วยพี่ปูด้วย คือเขาพยายามเอาเงินขากลี่เพื่อช่วยพี่ปู ซึ่งลี่โชว์เงินในบัญชีเลยว่าเงินแค่ 250,000 บาท เขาก็พยายามพูดว่าพี่จ่ายให้พี่ปูไปแล้ว ลี่ก็ต้องช่วยพี่ด้วยสิ ต้องเอาเงินมา 1 แสนก็ได้เพื่อการันตีให้พี่ปู หนูก็บอกว่าหนูไม่มีจริงๆ จนเขาก็พูดเพื่อให้หนูเอาเงินโอนไปให้คุณก.ไก่คนนี้ วันนั้นหนูเสียเงิน 1 แสนบาท เพื่อช่วยพี่ปู แล้วคุณก.ไก่ก็บอกว่าเดี๋ยวจะรีบดำเนินการ วันศุกร์จะเสร็จสิ้น และจะคืนเงินหนูทั้งหมด หนูก็จำใจโอนไป”
“ทีนี้พอโอนไป แต่เขาไม่สามารถดำเนินการแล้วเสร็จได้ มันเลื่อนไปเรื่อยๆ เขาก็บอกพี่ปู ว่าพี่ปูต้องคืนเงินนะ 4 แสน แต่วันนั้นที่หนูให้เงินไป 1 แสน เขาบอกว่าวันศุกร์จะทำงานแล้วเสร็จ แล้วจะได้โฉนดที่ดินของพี่ปูมา แล้วพี่ปูก็จะเอาโฉนดนี้ไปค้ำประกันกับผู้ใหญ่ของเขาที่จะให้เงินพี่ปู 1 ร้อยล้าน แล้วถ้าได้เงินมาก็จะหักเปอร์เซ็นต์ไป 4 แสนก็หักตรงนั้น ซึ่งตรงนี้หนูเป็นพยานให้ได้ แต่เรื่องมันก็เกิดขึ้น คือเขาดำเนินการไม่แล้วเสร็จ แต่คนที่เสียเงินคือหนู พี่ปูไม่ได้เสียสักบาทเดียว แต่พี่ปูบอกว่าเสียเงิน 5 แสน อันนี้ไม่เป็นความจริงนะ”
“แล้วหลังจากนั้น 1-2 วัน ลูกชายหนูเข้าโรงพยาบาล หนูต้องเอาเงินไปจ่ายค่าประกัน แต่พี่ปูก็มาหลอกหนูว่าขอยืมเงินหน่อย 7 หมื่น เดี๋ยวคืนตอนเย็น เพราะจะเอาเงินนี้ไปทำสัญญา เสร็จแล้วจะคืนเลย แต่วันนั้นถึงวันนี้ผ่านมา 2-3 อาทิตย์แล้วหนูยังไม่ได้เงิน หนูมีหลักฐานทั้งหมดนะคะ โอน 7 หมื่น วันที่ 6 มิ.ย. 67 หนูบอกหนูเหลือเงินแค่ 2 หมื่น พี่ต้องคืนนะ หนูขอร้อง พี่ต้องหามาให้หนูให้ได้นะ ประกันขาดไม่ได้จริงๆ”
“แต่ว่านับไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ที่รู้จักพี่ปูวันแรก วันนั้นพี่ปูบอกสงสารลี่ ไม่น่าโดนหลอกเลย งั้นเดี๋ยวพี่ช่วยให้หนูได้เข้าวงการ จะพาไปหาผู้จัด ผู้ใหญ่ที่ช่อง 7 ซึ่งหนูดีใจมาก แต่วันรุ่นขึ้นพี่ปูโทร.หาหนู ว่าขอยืมเงินไปลงทุน ยืนไปให้พี่ให้เพื่อนเขา แต่เขาจะค้ำประกันให้ หนูไม่เคยเชื่อว่าเพื่อนเขายืม แต่ก็ปิดหูปิดตาเออออตามเขาไป โอนไปให้ 5 แสนบาท แต่ไม่กี่วันต่อมาก็มายืมเพิ่มอีก 3 แสนบาท รวมเป็น 8 แสนบาท ก็ผ่านไปเกือบปี หนูไม่เคยได้เงินคืน จนช่วงนั้นหนูโดน เอิร์ก เลเดอเรอร์ โกง เลยไปทวงพี่ปูหลังจากไม่เคยทวง เขาก็ตอบว่ารอพี่ก่อนๆ วันที่ทวงได้ คือวันที่ 16 พ.ย. 65 พี่ปูบอกว่าเพื่อนแม่จะจ่ายดอก หุ้นทำธุรกิจเอาไว้ หนูเลยบอกว่าไม่เอาดอก เอาแค่ต้น เป็นพี่น้องกันไม่ต้องคิดมาก”
“คือเราไม่เคยเรียกร้องให้จ่ายดอกเบี้ย แต่เขาเป็นคนเสนอให้เอง แต่หนูพูดชัดเจนว่าไม่เอา ซึ่งเขาพูดแบบนี้หลายครั้ง รู้จักกันมา 2 ปี พี่ปูโทร.หาหนูทุกครั้งจะเป็นเรื่องเงินอันดับแรก เงินเก่าหนูยังไม่ได้คืน หนูเลยไม่ให้ พี่เขาเลยบอกว่าไม่กี่วันเดี๋ยวคืน เอาไปลงทุนเดี๋ยวให้ดอกเบี้ย แต่หนูปฏิเสธจนมาเจอก้อนสุดท้าย 170,000 บาทอันนี้ ส่วนหนี้ 8 แสนบาท กว่าหนูจะได้คืนเป็นปีนะคะ ตอนนี้ได้คืนมา 2 แสน แบ่งเป็น 1 แสนแรกได้คืนมาตอนเกือบปี แสนที่ 2 เพิ่งได้คืนเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว เท่ากับว่าเหลือ 6 แสน กับก้อนใหม่คือ 7 หมื่น ส่วนอีก 1 แสนคือให้คนที่เขาบอกว่าเป็นมิจฉาชีพ ที่ผ่านมาพี่ปูคุยกับหนูแต่ละที คือให้หานายทุน หานักลงทุนให้หน่อย จะอ้างว่าช่วยให้หนูมีผลงาน แต่หนูก็ยังไม่เคยเห็นสักอย่าง เคยพอไปเจอนักแสดงช่อง 7 ที่กองถ่าย 1 ครั้ง”
“ตอนนี้หนูอยากให้เขามาขอโทษ หนูไม่ชอบที่หนูจริงใจ แต่พี่ปูมาทำร้ายจิตใจหนู ตอนนี้หนูไม่สนใจหนี้ 670,000 บาท เพราะหลายปีที่ผ่านมาหนูโดนโกงร้อยล้าน หนูยังไม่สนใจเลย กับอีแค่ 670,000 บาท ถ้าพี่หน้าด้านพอ โดนที่ไม่ต้องพูดให้มันยืดเยื้อ เพราะหนูเบื่อคำว่าเดี๋ยวก่อน รอก่อน หนูทวงไม่เก่ง ไม่งั้นคงไม่เสียเงินไปมากขนาดนั้น ถ้าพี่หน้าด้านพี่ก็พูดมาเลย หนูยกหนี้ให้เลย ถือว่าหนูทำบุญแล้วออกไปจากชีวิตหนูซะ หนูพูดจริงๆ ตอนนี้เงินในกระเป๋าหนูเกลี้ยงเลย แต่หนูใจป๋าคะ หนูให้พี่เลยถือว่าหนูทำบุญ หนูคงจะได้บุญกลับมานะ และหวังว่าบุญนี้จะส่งผลให้พี่มีดวงตาเห็นธรรมบ้าง สิ่งในหนูพูดไม่จริง โหนกระแสต้องเข้าแล้วนะคะ พี่กล้าออกมาพูดความจริงหรือเปล่า ถ้าพี่ฟ้องมา หนูฟ้องกลับ ไม่รับคำขอโทษใดๆ ขอรับเป็นเงินสด”
“หนูเป็นลิลลี่แล้วพี่ไม่รัก ไม่เมตตา ทำร้ายหนู งั้นเจอลิลลี่สไตล์ค่ะ หนูพูดเลยยกหนี้ให้ เพราะว่าสงสาร เป็นหนี้หลายคนเหลือเกิน ยกให้เลย สมบัติหนูเหลือเยอะเดี๋ยวไปขายแล้วจะล่อให้เข้ามาโกงใหม่นะคะ ถ้าคำพูดลี่มันไปสะกิดใจของสามีพี่ หนูขอโทษนะคะ แต่ถ้าพี่ฟ้องหนูกลับ หนูก็ฟ้องกลับเหมือนกัน 10 ล้านเหรอ จัดให้เลยค่ะ ส่วนพี่ก.ไก่ ที่พี่ปูอ้างว่าเขาเป็นมิจฉาชีพ ตอนแรกหนูก็เข้าใจว่าอย่างนั้น แต่เราอาจจะเข้าใจผิด หนูไม่รู้ พี่เขาบอกว่ามีหลักฐานทุกอย่างว่าพยายามช่วยเหลือพี่ปู แต่พี่ปูไม่เอาเอง แต่เขาคืนเงินลี่ครบแล้ว 1 แสนบาท แต่พี่ปูอะยังเลย”
เคลียร์ประเด็นยอดเงินไม่กันตรง เพราะอยากให้จบๆ รำคาญคนแบบนี้
ลูกหมี : “มันไม่ตรงกัน วันนั้นถ้าจะหักดอกที่เกินมา ลูกหมีก็ยอม ก็คือเหลือ 1,800,000 บาท แล้วเขามาบอก 1,400,000 บาท ทีมไกล่เกลี่ยก็มาบอกลูกหมีเอาไปเถอะๆ เราก็คิดว่า 1,400,000 บาท ก็ได้ จะได้จบๆ ไป รำคาญกับคนอย่างนี้ เรื่องดอกเบี้ยเขาเสนอทุกครั้ง เราไม่เคยคิด แล้วมาใส่ร้ายเราแบบนี้ ก็วัดกันในศาลค่ะ นัดอีกทีวันที่ 16 ก.ค.นี้ แต่ลูกหมีไม่ไปก็ได้ ก็แจ้งความเลย เพราะถ้าคุยแล้วพี่เขายังทำแบบนี้ ลูกหมีก็ไปต่อได้”
ลิลลี่ : “ถ้าหนูยังอยากได้เงินหนูคืน พี่บอกว่าพี่พร้อมจ่ายพี่ลูกหมี 1,400,000 บาท แต่ของหนูแค่ 670,000 บาท ทำไมไม่ให้หนู แล้วบอกให้หนูไปคุยกับอีกคนหนึ่ง บอกว่าลูกหนี้ต้องไปคุยกับคนนั้น ทำไมต้องไปคุยกับคนนั้น มันเป็นใคร พี่มาเอาเงินกับหนู หนูโอนเงินให้พี่ พี่ก็คุยกับหนูสิ แต่ให้ใครหน้าไหนมาคุยกับหนู หนูต้องไปกราบเท้าขอเงินมันปะ แต่หนูยกให้ ยกให้จริงๆ หนูขยะแขยงคนแบบนี้ ต้องเอามันออกไปจากชีวิต จะได้ไปปวดหัว เดี๋ยวหนูจะเป็นบ้า แต่ถ้าเขาคืนก็เอาค่ะ เงินหนูค่ะ ก่อนจะออกมาแถลงข่าวหนูพูดกับเขา ว่าถ้าเป็นแบบนี้หนูขอไปออกสื่อ แต่เขาบอกอย่าไปออกได้ไหม เดี๋ยวหาเงิน 170,000 บาท แต่อย่าไปออกสื่อ หนูก็ตกลง แต่สุดท้ายหนูไม่ได้”
ด้านผู้เสียหายอีกรายสุดทน ขอฟ้องเพิ่มคดีฉ้อโกง
อ้อม : “ที่มาวันนี้เพราะที่เขาไปออกรายการ มันมีคำพูดไม่น่ารัก บอกว่าไม่รู้จักใครเลยนอกจากพี่ลูกหมีกับลิลลี่ ส่วนคนที่ไปยืนเรียงไม่รู้จักใครเลย ไม่รู้ว่าเป็นหนี้จริงหรือเปล่าที่ไปยืนตรงนั้น ถ้าเขาใช้คำว่าได้คุยกัน แต่ไม่เคยเจอกัน จะโอเค จริงๆ เขาขอเจอตลอด เป็นอ้อมที่ปฏิเสธเขาเอง อ้อมมีหลักฐานที่เขากับสามีเขาพยายามติดต่อที่จะไปหาอ้อม แต่เขามาบอกว่าสามีไม่เคยรับรู้อะไรเลย”
“เรื่องเงินที่เขาเสนอให้ลิลลี่ อ้อมก็ได้เงินนี้ในวันนั้น 120,000 บาท เขาบอกว่าเขาจะโอนเงินให้นะเป็นดอกเบี้ย ไม่ให้มาแถลงข่าว แต่อ้อมก็ไม่ได้รับปากว่าได้เงินแล้วจะมาหรือไม่มา เขาโอนให้เอง แล้วทุกครั้งที่เขาเอาเงินอ้อมไป พอถึงกำหนดคืนเขาจะไม่โอนต้นมาคืน จะบอกว่ายังเก็บเงินไม่ได้ ขอแบ่งกำไรให้ก่อน แต่หลังๆ เราบอกว่าไม่ เราอยากได้เงินคืน ก็เอาเช็คไปเข้า แต่ก็เด้งทั้ง 3 ใบ”
“ตั้งแต่ที่ไปมาวันที่ 4 ก็รอเขาติดต่อมาคืนเงิน เพราะวันนั้นสามีเขาบอกว่ามีเงิน ก็รอว่าจะคืนเมื่อไหร่ พอดูเปิดปากกับภาคภูมิ ก็เห็นว่าเขาไม่ได้รู้สึกผิดอะไรเลย กลับโทษว่าเจ้าหนี้ทำให้เสียชื่อเสียง เลยคิดว่าไม่รอไกล่เกลี่ยแล้ว วันนี้จะให้ทนายกุ้งฟ้องคดีฉ้อโกง ยอดของอ้อมทั้งหมด 1,160,000 บาท ยังไม่ได้หัก 120,000 ที่เขาโอนมา เพราะเขาพิมพ์มาบอกว่าเป็นดอกเบี้ย”
ทนายกุ้ง : “ส่วนของอ้อมเตรียมฟ้องเรียบแล้วเรื่องฉ้อโกง เพราะเขาชวนอ้อมเนี่ยไป สมมติว่าเอาเงินลงทุนมาปันผลกัน สุดท้ายก็ไม่ได้จ่ายทั้งปันผล และเงินต้นก็ไม่คืน ที่ฟ้องฉ้อโกงเพราะอ้อมเช็กมา ว่าไม่ได้เอาไปทำธุรกิจจริง ตรวจสอบมาหมดแล้ว”
คาด 16 ก.ค. นี้ก็ไม่จบ
ทนายกุ้ง : “วันที่ 16 ก.ค. นี้คิดน่าว่าไม่จบค่ะ เพราะอย่างที่เขาตั้งธง ที่เขาไปออกรายการมา เขาบอกว่าจะฟ้อง ลักษณะว่าหนี้ไม่จ่าย แล้วจะให้เราติดคุกด้วย คิดว่าน่าจะคุยกันไม่ได้”
ลูกหมี : “เขาบอกว่าเราแถลงข่าวทำให้นามสกุลเสื่อมเสีย แต่มันต้องมองต้นเหตุไง ถ้าพี่เขาไม่ทำเหตุแบบนี้ มันไม่ได้มีเรื่องจนถึงวันนี้หรอก แต่เขาทำเองก็ต้องได้รับผล ก็ต้องแฟร์ๆ กันหน่อย ก็ไม่เป็นไรสู้กันในศาล ยินดีค่ะ เท่าที่ทราบเขาเจอใครเขาก็ยืมเงิน ก็เลยต้องพูดเพื่อให้สังคมระวังตัว ว่าเจอใครครั้งแรกมายืมเงินมันก็แปลกๆ นะ เราเลยต้องพูด”
อ้อม : “ขอฝากถึงพี่ผู้ชายที่บอกว่ามีเงิน ถ้ามาเงินจริงๆ ก็ช่วยชำระคืนแทนภรรยาด้วย แฟนพี่รู้อยู่แล้วว่าหนี้เท่าไหร่ เอาเงินไปเท่าไหร่ ไม่จำเป็นต้องให้เราไปเคลียร์กับคนกลาง ถ้าอยากไกล่เกลี่ยคืนเงินจริงๆ ก็ติดต่อเรามา เอาหลักฐานมาว่าติดหนี้เรา ไม่ใช่ให้เราเอาหลักฐานไปติดคกับคนกลางใครไม่รู้ ตอนยืมคุณแทบกราบเรา แต่พอเราอยากได้เงินเราคืน ให้เราไปคุยกับใครไม่รู้ เวลาอ้อมโอนเงินให้นี่คือกราบค่ะอ้อมค่ะ กราบอย่างนั้นอย่างนี้ แต่พอเป็นอย่างนี้บอกให้ไปคุยกับบริษัทที่เขาแต่งตั้งขึ้นมา คุณเป็นหนี้คนอื่นคุณจำไม่ได้หรอก หรือว่ามันเยอะหลายคน ถึงจำไม่ได้ มันไม่โอเคมากๆ มันไม่ยุติธรรมสำหรับเจ้าหนี้ค่ะ”
ถอยให้สุดตอนนี้คือกลับไปที่ 2 ล้าน งงนามสกุลตัวเองมีค่าแค่คนเดียวเหรอ
ลูกหมี : “คือกลับไปตั้งต้นใหม่ที่ 2 ล้านค่ะ แล้วเดี๋ยวไปเจรจาไกล่เกลี่ยใหม่ ส่วนเรื่องหมิ่นหรือไม่หมิ่น ฟ้องไม่ฟ้องก็ได้หมดค่ะ ลูกหมีมีครอบครัววงตระกูลเหมือนกัน ไม่รู้ว่าการที่เรามีนามสกุลคนละนามสกุล มันตีมูลค่าได้หรือเปล่า อันนี้ลูกหมีไม่เคยรู้ว่าก่อน ว่านามสกุลคุณมีค่า 10 ล้าน นามสกุลลูกหมีมีค่าแค่ 2 ล้าน มันเป็นอย่างนี้เหรอ งงเหมือนกัน วันไกล่เกลี่ยเขาบอกให้พี่ปูกับลูกหมีคุยกัน พี่หาญส์ก็พูดว่าคุณพูดมาสิให้เข้าหูผม ให้ผมพอใจ ผมถึงจะโอเค เป็นคำพูดที่รู้สึกว่า… ลูกหมีก็นั่งท่าสลดมาก แล้วก็บอกว่าขอโทษค่ะ แล้วลูกหมีจะไปออกรายการให้ที่เขาพอใจ แต่เราไม่ได้บอกว่ากี่รายการ พอพูดไปเขาก็ไม่ยอม บอกว่าไม่เพียงพอ คุยกันนายจนเหนื่อย ถ้าไม่อยากไกล่เกลี่ยก็ไม่เป็นไรค่ะ”
“ส่วนยอดเงินที่เขายืนยันว่าแค่ 140,000 บาท คือเช็คมัน 2 ล้าน หลังวันที่ 2 มี.ค. พี่ปูโอนกลับมาให้เรา 5 ครั้ง ยอด 220,000 บาท เสร็จแล้วทีมไกล่เกลี่ยเขาบอกว่ามีดอกเบี้ยเกิน แล้วหักลบเหลือ 1,800,000 บาท เราก็โอเค แต่พอไปคุยกับเขา เขาบอกว่าเขาจ่ายมาหมดแล้ว ทั้งหมดเหลือแค่ 1,400,000 บาท เราก็งง แต่เรารำคาญที่ต้องคุยยาว เราเลยบอกแฟร์ๆ 1,600,000 แต่เขาก็ยังบอกแค่ 1,400,000 เราก็ยอมอีก จะได้จบ จะได้ทำมาหากิน แต่เขายังตั้งท่าว่าเราไปออกรายการหมิ่นเขา”
ลิลลี่ : “หนูได้ยินมาว่าเขาจะฟ้องหนู แต่หนูจะไม่ขอความเมตตา มันเปลืองน้ำลาย แต่หนูขอความเมตตาจากผู้ใหญ่ ว่าหนูเป็นชาวต่างประเทศ หนูรักประเทศไทย ขอให้ช่วยหนูด้วย หนูไม่เคยมีใครเลย ตอนนี้หนูก็กลัวเหมือนกัน ก็ขอให้ช่วยหนูด้วยถ้าเกิดเขาฟ้องกลับ ตัวหนูไม่ได้มีสติปัญญา วันนี้หนูใช้คำพูดไม่ดีหรือหยาบคาย อาจเพราะอารมณ์ แต่หนูตั้งใจพูดแบบนั้นจริงๆ เพราะหนูอยากให้รู้ว่าหนูโกรธได้โมโหร้ายเป็น หนูอยากปกป้องตัวเอง ถ้าพูดไปแล้วมันผิดก็ต้องขอโทษ และขอให้ทุกท่านช่วยหนูด้วย หนูไม่รู้ว่าเขาจะมาฟ้องกลับไหม ถ้าเขาฟ้องหนูก็ยินดีฟ้องกลับเหมือนกัน แต่หนูไม่ได้มีแบ็กเหมือนเขา ไม่ได้มีนามสกุลใหญ่โต”
“ทนายกุ้ง-ทนายเดชา” ยืนยันไม่ได้ไลฟ์ด่า แค่ชี้แจงและเตือนภัยเอฟซี ไม่อยากให้โดนเพื่อนหลอกยืนเงิน
ทนายกุ้ง : “ไม่ได้ไลฟ์ด่านะ ที่ออกมาไลฟ์กับลูกหมี มันเป็นเรื่องที่เอามาเล่าให้ฟัง เรื่องชี้แจงความถูกต้อง เหตุผลว่าทำไมเหลือ 1,400,000 บาท ไม้ได้ไลฟ์ด่าอะไรเขาเลย เพียงแต่ที่เขาไปอ่านคอมเมนต์จากเพจต่างๆ ไม่ใช่แค่ของเรา แล้วมันเป็นคอมเมนต์ลบไปทางเขามากกว่า ทำให้เขาเกิดความเครียด ไม่เกี่ยวกับเราไลฟ์ด่าจริงๆ (หัวเราะ)”
ทนายเดชา : (หัวเราะ) ของผมส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะรายการเตือนภัย ว่ามีเพื่อนอย่าให้ยืมเงิน เพราะจะเป็นแบบลูกหมี กลัวเอฟซีผมไปหลงเชื่อเพื่อนฝูงมันจะลำบาก เหนื่อย แจ้งความก็ไม่มา แถลงข่าวก็ยังไม่จ่าย ทวงไปก็จะฟ้องกลับ เงินมีแต่ไม่จ่าย จะเอาไปจ้างทนาย ก็อยากจะเตือนภัย มีเพื่อนอย่าให้เพื่อนยืมเงิน ก็พูดอย่างนี้ทุกวัน เพราะกลัวเอฟซีจะไปโดนโกง เป็นห่วงเอฟซีตั้ง 2,500,000 คน เขาเลยคิดว่าไม่มีใครหรอกแบบนี้ กูแน่ อาจจะคิดไปเอง คิดมาก ความจริงคนเบี้ยวเงินในสัมคมมันเยอะ ยังไม่รวมพวกหักหลังเพื่อนอีกมีเยอะ เลยต้องพูดซ้ำๆ ทุกวัน เป็นหนี้ก็เอาเงินมาใช้เขา ไม่ใช่จ้างทนายมาฟ้องเจ้าหนี้ อย่าไปทำ เขาเรียกคนหัวหมอ ไม่ได้พูดถึงเขาเลย เตือนภัยเพราะภัยมันเยอะ ยิ่งบุคคลสาธารณะต้องระวัง เดี๋ยวเกิดไปเจอที่ไหนก็ยืมเงินหน่อยนะคะ ก็เตือนภัยให้ระวัง เรามีหน้าที่ให้ความรู้ อย่าไปคิดมาก ไม่เกี่ยวกับเขาเลย ส่วนที่เข้าโรงพยาบาลเห็นว่าเข้าหลายครั้งแล้ว ก็บอกให้เขา Get well soon หายไวๆ เราก็รู้จักเขามา 20 กว่าปีแล้วนะ ถ้าเขาฟังอยู่ก็หายไวๆ อย่าคิดเยอะ”