นครสวรรค์ - ชี้อดีตคนนั่งรถไฟผ่านเห็นอ้าปากผึ่งแดดสลอน..บึงบอระเพ็ดเดินหน้าอนุรักษ์ ปล่อยไอ้เข้ผสมพันธุ์-ฟักไข่เพิ่มประชากรเอง ล่าสุดพบมีแม่จระเข้ฟักไข่อีกรัง ขณะที่นักท่องเที่ยวสนใจเดินทางเข้าชมต่อเนื่องตั้งแต่รู้ข่าวจระเข้พร้อมลูกน้อยอาศัยหากินตามธรรมชาติเพิ่มมากขึ้น
นายจิระเดช บุญมาก หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์ บอกว่าบึงบอระเพ็ดมีจระเข้อาศัยตามธรรมชาติอยู่ 2 จุด คือ บริเวณปากคลองบึงบอระเพ็ด ต.แควใหญ่ และบริเวณเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงบอระเพ็ด ซึ่งทั้งสองจุดมีจระเข้รวมแล้วกว่า 28-35 ตัว
ขณะที่บริเวณเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงบอระเพ็ดมีจระเข้ตัวอ่อนเพิ่งเกิดใหม่อีก 8 ตัว ล่าสุดต้นเดือนที่แล้ว (มิภุนายน) มีแม่จระเข้กำลังฟักไข่อีก 1 รังแต่ยังไม่ออกมาเป็นจระเข้ตัวอ่อน ทำให้ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเข้ามาชมจระเข้ตามธรรมชาติกันเป็นจำนวนมาก
ในอนาคตเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงบอระเพ็ดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมอนุรักษ์จระเข้ให้อยู่คู่บึงบอระเพ็ดเหมือนอดีตที่ผ่านมา ทำความเข้าใจกับประชาชนและเกษตรกรรอบบึงบอระเพ็ดให้เข้าใจถึงเรื่องการอนุรักษ์จระเข้ตามธรรมชาติและเรื่องของพื้นที่ชุ่มน้ำว่ามีความสำคัญอย่างไร เพื่อให้ทั้งมนุษย์และจระเข้สามารถอยู่ร่วมในพื้นที่เดียวกันได้ โดยเน้นย้ำเรื่องการบริหารจัดการทั้งปริมาณน้ำ พื้นที่อยู่อาศัย ความปลอดภัยของจระเข้และมนุษย์
“สมัยก่อนคนที่โดยสารทางรถไฟสายเหนือผ่านบึงบอระเพ็ดจะเห็นจระเข้นอนผึ่งแดดอ้าปากกันเป็นจำนวนมาก”
ด้านนายณัฐพงศ์ ผิวขำ นักท่องเที่ยวจากกรุงเทพฯ ที่เดินทางมาเที่ยวชมจระเข้ในพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงบอระเพ็ดเปิดเผยว่า ที่ผ่านมาเคยดูแต่ในสวนสัตว์ พอมาดูจระเข้ตามธรรมชาติที่บึงบอระเพ็ดเป็นครั้งแรก รู้สึกว่าจะไม่มีอาการดุร้ายหรือก้าวร้าว และรู้สึกได้ว่าจระเข้มีความเป็นอิสระมากกว่าอยู่ในที่คุมขัง แต่จระเข้ถือว่าเป็นสัตว์ที่ดุร้ายชนิดหนึ่งซึ่งหากว่าปล่อยตามธรรมชาติก็ควรมีการบริหารจัดการที่ดีและนักท่องเที่ยวควรเที่ยวอย่างมีความรู้และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตามมาตรการต่างๆ ที่กำหนดไว้ด้วย
