“นิพิฏฐ์” เผย “ชวน” รับหมดหนทางปกป้อง ปชป. เหตุ กก.บห.สกัดกลุ่มเลือดเก่าฟื้นฟูพรรค หนุนผนึกกำลังตั้งพรรคใหม่ แต่ไม่ขอร่วมเพราะเหนื่อยแล้ว พร้อมเป็นคนกลางประสานดีล ผิดหวังร่วม พท.ไม่เคารพ ปชช. สวนอุดมการณ์หวังตำแหน่งเพื่อตัวเอง ทำนายลดจากหลักสิบเป็นหลักหน่วย
วันนี้ (1 ก.ย.) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยถึงการเข้าพบ นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่า จากที่ตนและอดีต สส.พรรคหลายคนมีข้อกังวลหลังประชาธิปัตย์ ร่วมกับเพื่อไทย จึงได้เข้าหารือกับนายชวน เรื่องของการเมือง ตนได้มีการปรึกษากับทางนายชวน ว่า ในส่วนคนเก่าที่เคยมีอุดมการณ์ร่วมกับประชาธิปัตย์ แต่ในปัจจุบันไม่ได้มีตำแหน่ง หรือเป็นสมาชิกพรรค สามารถจะมีช่องทางเข้าไปฟื้นฟูพรรคได้หรือไม่ ซึ่งนายชวนบอกว่า หมดหนทางแล้ว ผู้บริหารชุดนี้มีอำนาจเด็ดขาด ไม่ยอมให้คนเก่าเข้าไปแน่ ตนเลยสอบถามต่อในมุมของคนที่เคยอยู่ในพรรคประชาธิปัตย์และยังคงรักยึดหลักอุดมการณ์ของพรรค และไม่อยากเห็นพรรคประชาธิปัตย์ล้มหายตายจากหรือตกต่ำไปมากกว่านี้ ว่า หากคนเหล่านี้รวมถึงตนไม่สามารถเข้าไปภายในพรรคและแก้ไขอะไรได้ จะมีความเป็นไปได้หรือไม่ที่เราเองจะมาตั้งพรรคใหม่ และแสดงเจตนารมณ์อุดมการณ์ว่าเราคือพรรคประชาธิปัตย์ที่แท้จริงได้ไหม ซึ่ง นายชวน ก็ได้ตอบกลับว่าวันนี้มีความชอบธรรมที่จะตั้งพรรคการเมืองใหม่แล้ว “
“ความคิดเห็นของผมและท่านชวนไม่ได้เห็นด้วยกับการที่ประชาธิปัตย์จะเข้าไปร่วมกับเพื่อไทยตั้งแต่แรก วันนี้หากคณะกรรมการบริหารพรรคปิดทางไม่ให้โอกาสคนเก่าสามารถเข้าไปฟื้นฟูพรรคได้ จึงมีความเป็นไปได้ว่าบุคคลเก่าที่รักประชาธิปัตย์มีความชอบธรรมในการไปตั้งพรรคใหม่ แต่ในส่วนของท่านชวนเอง ท่านคงไม่ขอเข้าไปมีอำนาจ หากมีการตั้งพรรคใหม่ ท่านเองก็เหนื่อยมากแล้ว ”
อดีตรองหัวหน้าพรรค กล่าวว่า วันนี้ตนเองก็เล็งพูดคุยกับคนกลุ่มเก่าที่มีสายเลือดประชาธิปัตย์ที่แท้จริงมาร่วมกันหาทางออกในการสร้างบ้านหลังใหม่พร้อมอุดมการณ์เก่า หลังจากนี้ ก็ต้องพูดคุยกันอีกครั้ง ตนไม่ได้หวังว่าใครจะกลับมาในตำแหน่งใด หวังแค่อยากเห็นประชาธิปัตย์ในแนวทางพรรคเดิม พรรคประชาธิปัตย์ไม่จำเป็นที่จะมองแค่เป็นพรรคร่วมหรือฝ่ายค้าน แต่เน้นแนวทางเดิมเห็นประชาชนเป็นหลัก ตนอยากเห็นคนหนุ่มที่ไม่กลัวแพ้กลับมารวมตัวกัน ไม่อยากเห็นพรรคการเมืองที่เน้นทุนนิยม ที่สร้างความวุ่นวายจนเสียหลัก
นายนิพิฏฐ์ กล่าวยอมรับว่า ไม่ใช่แค่ตนที่เสียความรู้สึก แต่ในกลุ่มของประชาธิปัตย์คนเก่าก็ค่อนข้างคิดเหมือนกัน และมองว่าไม่ใช่อุดมการณ์เดิม รวมถึงประชาชนที่ศรัทธาในพรรคประชาธิปัตย์กว่า 90% ก็ไม่เห็นด้วยกับแนวทางนี้ ที่ผ่านมาว่าตนไม่ได้มีโอกาสพูดคุยกับกลุ่มผู้บริหารพรรคปัจจุบัน เพราะมองว่าพูดไปก็ป่วยการ ไม่มีอะไรสามารถแก้ไขได้ เพราะเขาเลือกแนวทางที่จะเดินและปิดตายช่องทางที่จะกลับมาทำให้ประชาธิปัตย์เป็นอย่างเดิม เมื่อ กก.บห.ชุดปัจจุบัน มองผลประโยชน์ในส่วนของตำแหน่งทางการเมืองเป็นหลักมากกว่ามองผลประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับ ตนเชื่อว่าจะยิ่งทำให้สัดส่วนของสมาชิกพรรคและ สส. ลดน้อยลงจากหลักสิบปัจจุบันเป็นหลักหน่วยในอนาคต
”ถ้าเป็นได้ หากคนเก่าของพรรคประชาธิปัตย์ที่ยังคงรักและยึดมั่นอุดมการณ์ กลับมารวมตัวกัน ผมพร้อมที่จะเป็นคนกลางในการประสานเพื่อก่อตั้งพรรคใหม่ ผมไม่หวังตำแหน่งทางการเมือง แค่อยากรักษาบ้านหลังเก่าที่ชื่อ ประชาธิปัตย์ ให้คู่กับประเทศไทย ไม่อยากให้พรรคล้มหายตายจากเพราะอุมดมการณ์ที่เปลี่ยนไป”
เมื่อถามว่า จะฝากอะไรถึงกลุ่มผู้บริหารพรรคปัจจุบัน หรือไม่ นายนิพิฏฐ์กล่าวว่า ตนไม่ขอฝากอะไร เพราะขนาดท่านชวน ซึ่งเป็นบุคคลที่ทุกคนเคารพและยังคงอยู่ภายในพรรคพูด แต่ก็ไม่มีใครฟัง ตนเป็นเพียงคนนอกหากพูดไปก็เชื่อว่าไม่มีใครฟังเช่นกัน คงได้แค่เป็นห่วงอนาคตพรรคเท่านั้น เพราะตนไม่ได้เป็นคนเคยรัก แต่ยังคงรักพรรคประชาธิปัตย์อยู่