“ปีเตอร์ คอร์ปฯ” เดือด เสียความรู้สึกถูกโบรกเกอร์มือใหม่โกงค่าตัวทัวร์คอนเสิร์ตยุโรป 5 ประเทศ ฉุนใส่ไฟหาว่าตนไปเที่ยวเองแต่กลับมาขอค่าตัว อี๊ด วงฟลาย, แคท อิงลิชก็โดน ลั่นกำลังรวบรวมเอกสาร เตรียมแถลงข่าวชี้แจงรายละเอียดอีกครั้ง
เพิ่งกลับจากไปทัวร์คอนเสิร์ตต่างประเทศได้ไม่ทันไร นักร้องหนุ่ม “ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล” ก็ออกมาโพสต์ร่ายยาวว่าโดนโบรกเกอร์ที่ไปด้วยกันโกงเงินไปหลายล้าน ไม่ยอมจ่ายค่าตัวศิลปิน ซึ่งโดนกันถ้วนหน้า ไม่ว่าจะเป็น อี๊ด วงฟลาย, แคท แคทรียา อิงลิช ฯลฯ ซ้ำโบรกเกอร์รายนี้ยังไปให้ข้อมูลผิดๆ กับคนอื่น ทำให้ตนเสียหายอีก ซึ่งปีเตอร์เผยถึงเรื่องนี้ในงานเปิดตัวภาพยนตร์ Taklee Genesis : ตาคลี เจเนซิส ณ ควอเทียร์ ซีเนอาร์ต ชั้น 4 ศูนย์การค้า The Emquartier บอกมีการตกลงค่าตัวกันตั้งแต่ก่อนไป แต่สุดท้ายกลับมาบอกหน้างานว่าไม่มีค่าตัว
“จริงๆ แล้วเราไม่ได้ติดใจอะไรกับผู้จัดท้องถิ่นนะครับ เราขอบคุณผู้จัดท้องถิ่นทุกๆ ท่านเลย และขอบคุณแฟนคลับด้วย เพราะเราไปเล่นคอนเสิร์ตกันสนุกมากจริงๆ แต่ในการเดินทางเราเจอปัญหากันค่อนข้างเยอะนิดนึง ด้วยความเป็นโบรกเกอร์ใหม่ด้วยและหลายๆ อย่าง แต่ปัญหาทั้งหมดก็ไม่เป็นไร ปล่อยไป ก็ปล่อยวาง ช่างมัน แต่มารู้ตอนหลังว่ามันมีการพูดถึงเรื่องโน้นเรื่องนี้ ผมก็เลยต้องออกมา ผมรู้สึกว่าเราอยู่เฉยไม่ได้ เพราะข่าวที่ออกมากับข่าวที่ไปถึงผู้จัดมันไม่ตรงกัน ซึ่งตอนที่ผมไปเพื่อไปเล่นคอนเสิร์ต มีการตกลงค่าจ้างค่าตัวกันแล้ว แต่พอไปถึงหน้างานมาบอกว่าไม่มีค่าตัว ผมก็งงว่ายังไง แต่ไม่เป็นไร ผมก็ไปคุยกับทีมศิลปินว่าจะยังไงดี ผู้จัดก็ดีลไปแล้ว แฟนเพลงก็รอฟังอยู่ ซื้อบัตรไปแล้ว ด้วยสปิริตนักร้อง เราก็ต้องลุยต่อ
แต่ที่มันเป็นเรื่องเพราะผมมารู้ตอนหลังมีการพูดว่าผมแค่ไปเที่ยว แล้วขึ้นไปแจมบนเวที แต่พอลงมาแล้วขอค่าตัว ซึ่งผมคิดว่าข้อมูลมันไม่ตรงและต้องมีการเคลียร์ จนมาถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่ได้รับค่าตัว และมันมีการเอาของไปขายในงาน พวกเสื้อยืดอะไรต่างๆ แล้วจะเอาเงินมาให้ ซึ่งผมก็ไม่ได้รับ ถ้ามีการสื่อสารอะไรที่ว่าผมเป็นคนรับมา ก็ต้องเคลียร์ว่ายังนะครับ มันมีรายละเอียดเยอะพอสมควร ตอนนี้กำลังหาคิวที่ตรงกัน 3 ศิลปินและจะออกมาแถลงข่าวอีกที มีเรื่องราวของพี่กบ แท็กซี่ด้วย พี่เจ ซิกเซ้นส์ มีหลายอย่างมากที่ชุลมุนวุ่นวาย และที่ต้องออกมาพูดเพราะว่าข้อมูลที่พูดกับเรา กับข้อมูลที่พูดกับคนอื่นมันไม่ตรงกัน
พอกลับมาได้ 5-6 วัน ข้อมูลทุกอย่างที่เขาไปพูดกับคนอื่นเริ่มกลับมาที่เรา และเมื่อวานก็มีพวกเจ้าภาพโทร.หาผมด้วย เป็นเจ้าภาพท้องถิ่นที่อยู่ที่โน่นเขาก็ถามว่าเกิดอะไรขึ้น ผมก็อธิบายไป ซึ่งโบรกเกอร์ของเราก็บอกว่ายังไม่ได้รับเงินจากเจ้าภาพท้องถิ่นที่โน่นก่อนเดินทาง ซึ่งพี่เอก็เป็นคนรูดบัตรจ่ายค่าตั๋วไปทั้งหมด แต่เมื่อวานเจ้าภาพบอกว่ารับเงินไปทุกอย่างหมดแล้วก่อนเดินทาง ก็มีข้อมูลที่ไม่ตรงกัน ก็เลยต้องขอออกมาเคลียร์นิดนึงครับ”
ทำใจตั้งแต่ต้นกับความเป็นโบรกเกอร์มือใหม่ แต่ไม่คิดว่าจะทำขนาดนี้
“จริงๆ แล้วผมไม่ได้ซีเรียสหรอก เพราะเราก็ตัดสินใจเดินหน้าต่อ คือตามหลักการทำงานถ้าผมไม่ได้รับค่าตัวก่อนเดินทาง ผมก็จะไม่ไป หรือถ้าไม่ได้รับเงินก่อนเล่นคอนเสิร์ตเราก็จะไม่เล่น หรือถ้าสมมติรับมาบางส่วน เราก็ยินดีคืน แต่การที่เราตกลงกันแล้ว และมาบอกว่าผมไปเที่ยว แล้วมาทวงค่าตัวตอนที่ลงจากเวทีแล้ว มันไม่ใช่ครับ แต่เรื่องรายละเอียดต้องไปคุยกับพี่อี๊ดอีกที เพราะพี่อี๊ดก็โดนหาว่าไปโกงเขา 2.1 ล้าน แต่ก็รู้อยู่แล้วว่าพี่อี๊ด พี่เอไม่ใช่คนที่จะไปโกงใครอยู่แล้ว เขาสายธรรมะ สายทำบุญ มีแต่ให้กับให้ รายละเอียดตรงนี้รอคุยพร้อมกันทุกคนดีกว่า
ถามว่าหลักหลายล้านไหม อันนี้ผมไม่รู้จริงๆ ครับว่าใช้จ่ายเท่าไหร่ แต่ก็น่าจะเยอะอยู่ ซึ่งทางนั้นก็ไม่ได้มีการติดต่อมาทางผมเลย เขามีไลน์ผม แต่เขาก็ไม่ได้โทร. ไม่ได้คุยอะไรมา ถามว่ารู้จักกันเป็นการส่วนตัวไหม จริงๆ เขาเป็นน้องซาวด์เอ็นจิเนียของวงที่เล่นแบ็กอัปให้ศิลปินหลายๆ คนนะครับ แต่วงไม่เกี่ยวนะครับ แต่คนนี้เวลาไปทัวร์ต่างประเทศ เขาก็จะไปพูดคุยกับทางผู้จัดงานท้องถิ่นแต่ละประเทศ และอยากจะเป็นโบรกเกอร์
จริงๆ เรื่องความชุลมุนวุ่นวายตลอดการเดินทางเราไม่ได้ซีเรียสเลย เพราะเรารู้กันอยู่แล้วว่าถ้าเป็นมือใหม่มันคงต้องมีความผิดพลาดบ้างอยู่แล้ว เราก็พยายามจะช่วย แต่ในการเดินทางเรื่องข้อมูลก็ไม่มีให้ และค่าห้องต่างๆ ก็ต้องจ่ายแพง เพราะเขาไม่ได้จองไว้ล่วงหน้า รวมถึงจริงๆ แล้วการที่จะให้ผมไปทัวร์ต่างประเทศ ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พัก ค่าอาหารเขาก็ต้องดูแล แต่ผมก็จ่ายเองทุกอย่าง เพื่อให้ทัวร์มันจบให้ได้”
บอกขอให้อีกฝ่ายออกมาพูดความจริงกันดีกว่า
“ถามว่าโกรธไหม เอาจริงๆ ตั้งแต่เราตัดสินใจเดินหน้าต่อเพื่อแฟนคลับที่รอเราอยู่ เราก็ปล่อยวางแล้ว แต่พอกลับมาแล้วไปบอกกับคนอื่นว่าผมไปเที่ยวเฉยๆ แต่ไปขึ้นเวทีแล้วลงมาทวงค่าตัว ผมว่ามันไม่ใช่นะครับ ซึ่งคนนี้เขาก็อยู่กับเราทุกวัน เดินทางทุกวัน แล้วก็ทะเลาะกับพี่เอทุกวัน เพราะมีหลายอย่างที่มันไม่เรียบร้อย พี่เอก็พยายามแนะนำ อันนี้ก็ต้องไปถามทางพี่เออีกที ซึ่งจริงๆ แล้วกลายเป็นว่าพี่เอต้องจัดการในหลายๆ เรื่อง ซึ่งมันไม่ใช่หน้าที่เขา เขาไม่ใช่โบรกเกอร์งานนี้
ถามว่าเขาไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน เขาก็คงรู้สึกแหละครับ ก็มีช็อตนึงทะเลาะกัน พี่เอก็ว่าจนเขาร้องไห้ บอกว่าสำนึกผิด แต่จริงๆ แล้วผมก็ไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรเปลี่ยนมากนะครับ คือผมอยากให้เขาไม่โกหก ไม่ใช่มาโบ้ยศิลปิน มาหาว่าศิลปินอย่างนั้นอย่างนี้ หรือว่าพี่เจนั่นนี่ แต่พี่เจเขาจ่ายค่าตั๋วเอง จ่ายค่าห้องเอง แต่เขามาเคลมว่าไปกินโควต้า ไปใช้เงินของเจ้าภาพ ไปอยู่ดีกินหรู ซึ่งมันไม่ใช่ครับ ก็อย่าโกหกเลย พูดความจริงเถอะ”
ไม่คาดหวังว่าจะได้เงินคืน
“ถามว่าอยากได้ค่าตัวที่เราควรจะได้ไหม ก็ถ้าเขามีอยู่ เราก็ควรจะได้แหละ ผมก็ไม่รู้ว่ามันหายไปไหน และตอนนี้เรากำลังรวบรวมข้อมูลอยู่ครับ มันก็มีที่คนนั้นคนนี้มาเล่าเพิ่ม เราก็งงว่าทำไมเป็นแบบนั้น เราไม่เคยพูด ไม่เคยทำแบบนั้น ซึ่งคนที่เขามาเล่าให้ฟังก็รู้จักพวกเราดี ว่าพวกเราไม่ใช่คนแบบนั้นแน่นอนอยู่แล้ว ทีนี้ก็เลยงงว่าข้อมูลมันมีอะไรบ้าง เราก็เสียความรู้สึกแหละ ผิดหวัง เพราะว่าตลอดการเดินทางทั้งทริปเลย ทุกคนพยายามช่วย พยายามแนะนำว่าทำอย่างนั้น อย่างนี้สิ อันนี้ประหยัดกว่านะ อันนั้นดีกว่า
เจ้าภาพยืนยันว่าจ่ายครบแล้ว แต่เงินหายไปไหนผมไม่รู้ แต่เขาติดเงินพี่เออยู่เท่าไหร่ไม่แน่ใจ แต่พี่เอรูดบัตรไปเป็นล้านเหมือนกัน แต่ถามว่าจะได้เงินคืนไหม เอาจริงๆ ถ้าคนเราอยากจะทำให้มันถูกต้อง ถ้ามันมีการขาดทุนอะไรก็พูดกันตรงๆ เรื่องเงินเราค่อนข้างจะตัดใจตั้งแต่แรกแล้ว จะได้ไม่ได้ไม่สำคัญ เพราะมีช่วงนึงที่เราคุยกันว่าเราจะลุยต่อ หรือจะไม่เล่นเลย ซึ่งจริงๆ ตรงนี้ไม่ถูกต้อง เพราะศิลปินไม่ได้รับเงิน แล้วพี่เอ พี่อี๊ดก็ไม่ได้ค่าตัวเลย และมีอีกเวทีนึงที่เราคุยกันว่าถ้าไม่ได้รับค่าตัว เราก็ไม่ขึ้น แต่มันมีปัญหาว่าเจ้าภาพเขาจ่ายไปแล้ว ปัญหามันก็เลยเกิดขึ้น แต่ถ้าเราไม่ขึ้นเวทีเจ้าภาพเขาก็ลำบาก เขาเสียหาย แต่ถ้าเราขึ้นไปแล้วก็ไม่รู้ว่าจะได้เงินหรือเปล่า มันก็เลยมีความชุลมุนวุ่นวายหน้าเวทีอยู่ประมาณ 2-3 ที่ครับ”
บอกต่อไปคงต้องมีการคุยตกลงกันให้ดีกว่านี้
“แต่เราก็ขึ้นทั้ง 5 ประเทศนะ จริงๆ แล้วผมจะไปแค่ 2 ประเทศแรก แต่พอมาสรุปความวุ่นวายเสร็จ ผมก็คุยกับพี่อี๊ด คุยกับแคทและหาทางออก ก็ประคองกันไปจนสุดท้าย ผมก็เลยไปแจมอีก 3 เวทีที่สวิตเซอร์แลนด์ เบลเยี่ยม และแฟรงก์เฟิร์ต ส่วนที่แคทบอกว่ามีการปลอมแปลงเอกสาร เท่าที่ผมเข้าใจนะ เขาพยายามจะบอกว่าโอนเงินมา 2.1 ล้านบาท แต่สลิปที่เขาส่งให้คนอื่นมันซ้ำๆ กันให้มันได้ยอด 2.1 ล้าน แต่อันนี้ผมไม่แน่ใจนะ ต้องไปถามพี่เออีกที เขาพยายามจะยืนยันว่าโอนเท่านี้จริงๆ ซึ่งมันไม่ใช่
ก็ต้องขอขอบคุณผู้จัดที่กอเทนเบิร์กนะครับ คุณนาเดีย ผู้จัดที่สวีเดน ที่มาลุยกับเราจนจบทริปและช่วยจัดการทุกอย่าง แต่ถามว่าเข็ดกับการรับงานไหม ก็ไม่ครับ แต่อาจจะต้องจัดการให้มันเรียบร้อยตั้งแต่แรก ใครที่จะติดต่องานที่ยุโรป ก็รบกวนผ่านคุณนาเดียแล้วกันครับ ใครที่เป็นผู้จัดที่โน่นก็น่าจะรู้จักคุณนาเดียดี แต่ครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรกที่โดน ไม่เคยโดนแบบนี้มาก่อน ทุลักทุเลมาก (หัวเราะ)”
