xs
xsm
sm
md
lg

“ไผ่” นักสู้ผู้ไม่อายทำกิน จากผู้ช่วยพยาบาล สู่สาวโรงงาน ถึงแม่ค้าขายขนม สู้ทุกทางเพื่อพาลูกพิการไปต่อให้ได้!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ 7 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา พาคุณผู้ชมไปที่ย่านหนองจอก กทม. เพื่อรู้จัก “ไผ่” แม่เลี้ยงเดี่ยวหัวใจนักสู้ผู้เติบโตมากับความยากจน จึงไม่อายทำกิน พร้อมทำทุกอย่างเพื่อมีรายได้เลี้ยงลูกพิการ แม้ต้องแลกด้วยความเหนื่อยยากและอุปสรรคต่างๆ ก็ตาม





“ตอนคลอดออกมา หัวใจน้องหยุดเต้น เข้าไอซียูเกือบ 3 อาทิตย์ น้องหยุดหายใจประมาณ 3 ครั้ง ส่งผลให้ขาดออกซิเจน สมองตายไปช่วงหนึ่ง ต้องอยู่ในตู้อบประมาณ 1 เดือน... ตั้งแต่เกิดมา เขาไม่ขยับเลย ไม่ขยับแขนขา ไม่ร้อง ไม่ส่ายหน้า นอนท่าไหนก็ท่านั้น ฝึกให้ดูดนม ก็ไม่ดูด อมไว้เฉยๆ หมอก็เอะใจ เลยเอาเลือดไปตรวจโครโมโซม เขาว่าโครโมโซมผิดปกติ”


“ไผ่” เยาวลักษณ์ ชอบใจ แม่เลี้ยงเดี่ยววัย 38 เล่าความผิดปกติของ “น้องออมสิน” ลูกชายตั้งแต่แรกเกิดจนกลายเป็นเด็กพิการ หลายโรครุมเร้า เช่น กล้ามเนื้ออ่อนแรง, ไทรอยด์ ฯลฯ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ และกินได้แต่นมเท่านั้น


พื้นเพเดิม ไผ่เป็นคนอุดรธานี ด้วยฐานะที่ค่อนข้างยากจน ทำให้เธอพยายามหางานที่สร้างรายได้มากกว่างานที่ร่ำเรียนมา แม้จะต้องแลกด้วยความเหนื่อยยากมากกว่าก็ตาม ซึ่งความจน ทำให้เธอไม่มีทางเลือกมากนัก


จาก..ผู้ช่วยพยาบาล สู่..สาวโรงงาน!

“เรียนจบผู้ช่วยพยาบาลมา (ถาม-แล้วได้มีโอกาสทำงานด้านนั้นไหม?) ครั้งเดียว ที่ รพ.เอกชน ที่อุดรฯ (ถาม-ทำไมออกจากงานตรงนั้นล่ะ?) สมัยนั้นได้เงินน้อย หนูเลยออก เพราะเราเป็นแค่ผู้ช่วยพยาบาล เราไม่ได้เป็นพยาบาล แต่ถ้าจะต่อเป็นพยาบาลวิชาชีพกับพยาบาลเทคนิคก็ได้ แต่เราไม่มีตังค์ที่จะต่อ ก็ออกมาทำงานโรงงานที่กรุงเทพฯ โรงงานในนิคมลาดกระบัง”


หลังพบรักและใช้ชีวิตคู่กับหนุ่มโรงงานจนมีลูกชายที่เกิดมาพิการ ไผ่ตัดสินใจออกจากงานประจำที่โรงงานเพื่อมาดูแลลูก เพราะลูกต้องเข้า รพ.บ่อย แม้จะมีแม่ช่วยดูแลบ้างก็ตาม


“ตอนนั้นหนูทำงาน 3 กะ เลิกบ่ายสาม ถ้าน้องเข้า รพ. ก็ไปเปลี่ยนแม่ เพื่อเฝ้าลูก (ถาม-แล้วสามี?) ผู้ชายเขาไม่ให้เฝ้า เราก็อาบน้ำอยู่นั่น แต่งตัวไปทำงานต่อ ทั้งทำงานด้วยดูแลลูกด้วย ก็เทียวอย่างนี้จนเราเริ่มไม่ไหว ยาย(แม่)ก็ไม่ไหว เพราะนอน รพ.นาน แล้วเข้า รพ.บ่อย เข้าแต่ละที 1-2 เดือน”


หลังออกจากงานประจำ ไผ่พยายามหารายได้ด้วยการเป็นแม่ค้าขี่มอเตอร์ไซค์เร่ขายขนม เพื่อให้มีรายได้ดูแลลูก


“ก็ขายทุกอย่าง เอาตะกร้าใส่ของผูกไว้ท้ายมอเตอร์ไซค์ ขับไปขายตามปั๊มน้ำมันบ้าง ตรงโน้นตรงนี้บ้าง ไปเรื่อยๆ จนกว่าของจะหมด (ถาม-ขายอะไรบ้าง?) ขายน้ำด้วย พวกเครปเย็นด้วย รับเขามาด้วย ทำเองด้วย บางทีก็ทำขนมจีนไปขายชุดละ 30”


“(ถาม-แล้วสามีเป็นยังไงบ้าง?) ช่วงนั้นก็ระหองระแหงกันหลายเรื่อง ตอนนั้นยังอยู่ด้วยกัน แต่แยกทางกันมาปีกว่าแล้ว เหมือนอยู่ด้วยกันแล้วไม่เข้าใจกัน ก็เลยคุยกันว่า ถ้าอย่างนั้นต่างคนต่างไปเถอะ”


ปัจจุบันไผ่ยังคงยึดอาชีพแม่ค้าขายขนม แต่เปลี่ยนจากการเร่ขาย เป็นมีจุดขายประจำ หลังได้รับโอกาสให้ไปขายของที่สนามบินสุวรรณภูมิ โซนของบริษัท การบินไทย ฝ่ายบริการอุปกรณ์ภาคพื้น โดยไม่ต้องเสียค่าเช่าที่ ซึ่งเป็นสิทธิที่ทางบริษัทให้แก่ผู้พิการหรือผู้ดูแลคนพิการได้มีอาชีพ


ทุกวัน ไผ่ต้องตื่นทำขนมตั้งแต่ตี 2 และต้องใช้เวลาทำขนมหลายชั่วโมงยันเช้า เพราะแต่ละวัน เธอทำขนมหลายอย่างเพื่อไปขาย เช่น เต้าส่วน, ข้าวเหนียวเปียกลำไย, ขนมตาล, ลูกเดือย, แซนด์วิช ฯลฯ แล้วแต่ว่า วันไหนจะทำขนมอะไรบ้าง บางวันก็ทำของคาวบ้าง เช่น ขนมจีน, ข้าวเหนียวไก่ทอด ฯลฯ


เพราะห้องที่เช่าอยู่ค่อนข้างเล็ก เวลาจะทำขนมยามดึกดื่นค่อนคืน ก็ต้องทำนอกบ้าน ท่ามกลางยุงที่แสนชุม จุดยากันยุง ก็ยังแทบไม่อยู่!


นอกจากต้องทำขนมหลายอย่างแล้ว ไผ่ยังต้องดูแลให้นมให้ยาลูกทางสายที่เจาะผ่านหน้าท้อง ก่อนเดินทางไปขายขนม ณ จุดขาย ซึ่งอยู่ห่างจากห้องเช่าย่านหนองจอกค่อนข้างไกลประมาณ 40 กม. ซึ่งโชคดีว่า ช่วงที่ไผ่ไปขายของ ไม่ต้องห่วงลูก เพราะมีแม่ที่เช่าห้องอยู่ไม่ห่างกันมาช่วยดูแลลูกจนกว่าเธอจะกลับ


แรกๆ ขายดี แต่ตอนนี้นี้เริ่มซบเซา!

“(ถาม-ขายของที่นี่มานานเท่าไหร่แล้ว?) ปีนี้เข้าปีที่ 4 (ถาม-รายได้ดีไหม?) แต่ก่อนเยอะ แต่ตอนนี้เหมือนดร็อปลง เพราะร้านค้าขึ้นมาเยอะ คู่แข่งเราก็จะเยอะ (ถาม-เวลาขายไม่หมด แล้วทำยังไงกับของ?) ก็แจกแถวๆ นั้น รปภ.บ้าง (ถาม-คุ้มทุนไหม?) บางทีก็ขาดทุนย่อยยับ (ถาม-แล้วอย่างนี้มันพอกับค่าใช้จ่ายหรือการดำรงชีวิตไหม?) ก็เดือนชนเดือน (ถาม-ตอนนี้ค่าใช้จ่ายเรามีอะไรบ้างหลักๆ?) ก็มีงวดรถ ค่าห้อง และลูก”


หากถามว่า เหนื่อยไหมกับการขายของที่รายได้ไม่แน่นอน?“เหนื่อยเรื่องค่าใช้จ่าย ขายของไม่ได้ จะเอาตังค์ที่ไหนกิน จะเหนื่อยตรงนี้ แต่เหนื่อยก็ต้องทน (ถาม-เคยคิดอยากกลับไปทำงานประจำบ้างไหม?) ก็อยากทำงานประจำ แต่คงกลับไปไม่ได้ เพราะมีลูกต้องดูแล ก็คิดเสียว่า งานไหนมันก็ดีหมดนั่นแหละ มันก็เป็นอาชีพสุจริต จะค้าขาย จะงานโรงงาน งาน รพ. จะงานอะไรก็เท่าเทียมกันหมด แค่ว่า คุณจะชอบในสิ่งที่คุณทำไหม ถ้าคุณชอบในสิ่งที่คุณทำ คุณก็มีความสุข แต่ถ้าคุณไม่ชอบ คุณก็ไม่มีความสุข (ถาม-แล้วทุกวันนี้ไผ่ชอบงานที่ทำอยู่ไหม?) หนูก็สนุกนะ หนูอาจจะมีเครียดบ้างเวลาขายไม่ได้ แต่หนูก็จะเปลี่ยนจากความเครียด เป็นการที่เรามาหาว่า เราจะทำยังไงให้ของเราทยอยออกหมด ดีกว่ามานั่งเศร้าว่า ทำไมเราถึงขายไม่ได้”


“(ถาม-เวลาเครียด เรามีวิธีออกจากความเครียดยังไง?) มองหน้าลูก แล้วยิ้ม คิดเสียว่า จะทุกข์ไปทำไม ทุกข์แล้วได้ตังค์ไหม เครียดแล้วได้ตังค์ไหม ต้องสู้เท่านั้นถึงจะรอด”


หากท่านใดต้องการอุดหนุนขนมของไผ่เพื่อให้มีรายได้ไว้ดูแลลูก โทรไปได้ที่ 061-405-1416 หรือหากต้องการช่วยเหลือ โอนไปได้ที่ ธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชี น.ส. เยาวลักษณ์ ชอบใจ เลขที่บัญชี 989-8-45436-9


คลิกชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ตอน “คุณแม่นักสู้”
https://www.youtube.com/watch?v=owq5YMRk0bg


ติดตามรับชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ได้ ทุกวันเสาร์ เวลา 09.00-09.30 น. ทางสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ( IPM ช่อง 64 / PSI ช่อง 211 )

หรือรับชมรายการย้อนหลังได้ที่เพจ ฅนจริงใจไม่ท้อ https://web.facebook.com/KonJingJaimaitor/
หรือยูทูบฅนจริงใจไม่ท้อ https://www.youtube.com/channel/UCsb4sLqdHs35km4uQ_tOCjQ/videos
กำลังโหลดความคิดเห็น