บุรีรัมย์ - ตำรวจ สภ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ จ่อออกหมายเรียกลูกสาว ผอ.ร.ร.เท้าแชร์ “บ้านกิ๊ฟซี่” สุดแสบโกงลูกแชร์กว่า 60 ราย เสียหายกว่า 15 ล้าน ครอบครัวและญาติสามียันไม่รู้เห็นเกี่ยวกับการกระทำของเท้าแชร์ และไม่รู้เจ้าตัวหายไปไหนแค่โทร.มาบอกช่วยดูแลร้านขายของให้ แต่ไม่ได้อธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้น
ความคืบหน้ากรณีแม่ค้าในอำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ ได้ทยอยนำหลักฐานทั้งข้อความแชตสนทนา และสลิปการโอนเงินเข้าแจ้งความที่ สภ.บ้านกรวด โดยกล่าวหาถูก น.ส.กิ๊ฟ อายุประมาณ 30 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวของผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอบ้านกรวด ตั้งตัวเป็นเท้าแชร์ “บ้านกิ๊ฟซี่” โกงเงินลูกแชร์หลายจังหวัดไม่ต่ำกว่า 60 คน สูญเงินรายละตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักล้านบาท รวมมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 15 ล้านบาท ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (27 ต.ค. 67) ทีมข่าวได้เดินทางไปยัง สภ.บ้านกรวดเพื่อติดตามความคืบหน้าคดี ร.ต.อ.พนัส โกรดประโคน รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านกรวด ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบปากคำผู้เสียหาย และรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งตอนนี้ในอำเภอบ้านกรวดมีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความแล้ว 5 ราย อยู่ระหว่างการสอบสวนผู้เสียหายและรวบรวมพยานหลักฐาน ทางด้านเท้าแชร์กิ๊ฟซี่ที่ถูกแจ้งความกล่าวหา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดต่อไปให้มาพบพนักงานสอบสวนแล้ว แต่ยังไม่เห็นเข้ามาพบ ซึ่งจะต้องออกหมายเรียกให้มาพบพนักงานสอบสวนตามขั้นตอน เบื้องต้นจากพฤติการณ์ก็เข้าข่ายความผิดข้อหา ฉ้อโกงประชาชน และ พ.ร.บ.การเล่นแชร์
ขณะผู้เสียหายเปิดเผยว่า ขณะนี้มียอดผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความแล้วทั่วประเทศรวมถึงต่างประเทศประมาณ 66 ราย แต่ในเฉพาะอำเภอบ้านกรวดผู้เสียหายมีมากกว่า 10 ราย บางส่วนแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรบ้านกรวด และบางส่วนไปแจ้งต่อกองปราบปราม สอบสวนกลาง
จากนั้นทีมข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของเท้าแชร์ที่ถูกแจ้งความกล่าวหา ซึ่งเปิดเป็นร้านค้าสะดวกซื้อขนาดใหญ่อยู่ในหมู่บ้าน แต่ไม่พบ น.ส.กิ๊ฟ ขณะที่น้องชายสามีของ น.ส.กิ๊ฟบอกว่า ไม่รู้ว่า น.ส.กิ๊ฟอยู่ที่ไหนแค่ได้โทรศัพท์มาบอกว่าฝากดูแลร้านให้เท่านั้น จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย และยืนยืนว่าคนในครอบครัวรวมถึงฝั่งสามี ไม่มีใครรู้เรื่องที่เกิดขึ้นเพราะ น.ส.กิ๊ฟไม่เคยพูดหรือเล่าอะไรให้ฟัง
