"ดีเอสไอ" เร่งตรวจสอบคลิปเสียงเทวดาจ่ายสินบนเจ้าหน้าที่ โยง "ดิไอคอน"

MGR Online - คกก.ตรวจสอบข้อเท็จจริง เผยกรณี “เทปเสียงเทวดาความจริงใกล้ปรากฏมีจริงหรือไม่” ส่วน ทนายบอสพอล เลื่อนพบดีเอสไอ เป็นวันที่ 4 พ.ย. นำพยาน 20 ปาก มาให้ข้อมูลด้วย

วันนี้ (1 พ.ย.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เผยแพร่เอกสาร โดยระบุว่า "ตามที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน และนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ในฐานะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้นำบุคคลซึ่งเป็นแหล่งข่าว เข้าพบอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2567 กรณีที่มีการให้ข่าวต่อสื่อสาธารณะ เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2567 ว่าตนมีข้อมูลการจ่ายสินบนเจ้าหน้าที่โดยมีเนื้อหาว่า น่าจะเป็นอดีตผู้บริหารระดับสูงในหน่วยงานของรัฐเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง รวมทั้งของกรมสอบสวนคดีพิเศษด้วย นั้น

คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวได้เปิดเผยว่า พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษไม่ได้นิ่งนอนใจได้มีคำสั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ กรณีดังกล่าวแล้ว ตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม 2567 เนื่องจากเป็นกรณีที่กระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนและกระทบต่อความรู้สึกของเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษเอง ขณะนี้มีความคืบหน้าไปมากโดยได้ทำการสอบปากคำ นายเอกภพฯ และพยานที่นายเอกภพนำมา และนายวรัตน์พล หรือบอสพอลแล้ว ประกอบกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่งเป็นหน่วยงานภายนอกก็ได้มีการสอบสวนกรณีดังกล่าวด้วย

ซึ่งหากพบว่ามีมูลตามที่ร้องเรียนมาจะดำเนินการตามกฎหมายและตามระเบียบอย่างแน่นอน ในขณะเดียวกันหากไม่มีมูลความจริง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงจะมีความเห็นเสนออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษให้ดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ให้ข่าวอย่างแน่นอน"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่าย นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ “บอสพอล” ผู้ต้องหาคดีบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป ได้ยกเลิกหมายเดินทางมา กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อหารือเกี่ยวกับความพร้อมการนำพยานฝั่งของตนเอง 2,000 กว่าคน สามารถรับจำนวนการสอบปากคำได้วันละกี่คน โดยเปลี่ยนกำหนดการเดินทางมายังดีเอสไอ เป็นวันที่ 4 พ.ย.นี้แทน พร้อมจะนำพยานฝั่ง "ดิไอคอน" จำนวน 20 ปาก มาสอบปากคำกับพนักงานสอบสวน ตั้งแต่เวลา 10.00 น.

ส่วนสาเหตุการเลื่อนนัด เนื่องจาก นายวิฑูรย์ ยังอยู่ในระหว่างการให้ปากคำกับตำรวจกองปราบเกี่ยวกับคดีนักร้องสาวขู่กรรโชกทรัพย์ รวมทั้งแจ้งว่าจะให้ข้อมูลที่มีการกล่าวหาว่า มีตำรวจเรียกรับเงินจำนวน 9 ล้านบาทจากหนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหา ซึ่งการให้ปากคำดังกล่าวนั้นยังไม่แล้วเสร็จในช่วงบ่าย