xs
xsm
sm
md
lg

“ทนายเดชา” ท้า “สนธิ” อยากแฉก็เชิญเลย ส่วนตัวไม่มีเรื่องอะไรนอกจากขี้เมา อวย “ตั้ม” แถลงครบทุกประเด็น มีหลักฐานพร้อมสู้ไม่งั้นหนีไปแล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



“ทนายเดชา” ท้า “นายสนธิ” อยากแฉก็เชิญเลยรออยู่ ตนเองไม่มีเรื่องอะไรให้แฉ นอกจากเป็นทนายขี้เมา แถมอวย ตั้ม” แถลงข่าวันนี้ครบถ้วนทุกประเด็น มีหลักฐานเพียงพอสู้คดี ไม่งั้นหนีไปแล้ว

ที่สำนักงานทนายคลายทุกข์ นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ ทนายเดชา ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ ให้สัมภาษณ์หลังจากที นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน ปรากฏตัวที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน กรณีที่ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ เจ๊อ้อย แจ้งความว่าทนายตั้มฉ้อโกงเงิน 71 ล้านบาท

ทนายเดชา ระบุว่า การที่ทนายตั้มออกมาปรากฏตัวก็แปลว่าทนายตั้มมีความพร้อมที่จะต่อสู้คดี ส่วนการที่ทนายตั้มออกมาปรากฏตัวเร็วกว่าที่หลายๆ คนคิดนั้น ทนายเดชา มองว่า มีกระแสข่าวรายงานออกมาว่าจะมีการออกหมายจับทนายตั้มภายในวันนี้ ทนายตั้มอาจจะเห็น และทำให้ทนายตั้มออกมาปรากฏตัว

โดยส่วนตัวมองว่า การปรากฏตัวครั้งนี้ของทนายตั้ม มีความหมายอะไรหรือไม่ ทนายเดชา ระบุว่า ทนายตั้มเตรียมความพร้อมมานานแล้ว อย่างที่ตนเคยบอกไปก่อนหน้านี้ ทนายตั้มมีการเตรียมสู้คดีมานานแล้ว และทนายตั้มก็ได้มีการเตรียมทีมทนายความไว้ต่อสู้คดี ซึ่งมองว่า ถ้าทนายตั้มมีพยานหลักฐานที่ไม่เพียงพอ และถ้าคิดว่าตัวเองสู้ไม่ไหวก็น่าจะหลบหนีไปแล้ว พร้อมบอกว่า การแถลงข่าวของทนายตั้ม วันนี้ค่อนข้างที่จะตอบคำถามครบถ้วนทุกประเด็น ทั้งที่มาของเงิน 71 ล้านบาท ที่มาของเงิน 39 ล้านบาท รวมถึงรถหรูอย่างรถเบนซ์

นอกจากนี้ การให้สัมภาษณ์ของทนายตั้มวันนี้ ยังเหมือนมีท่าทีที่ยังไม่อยากตอบคำถามที่กระทบกระเทือนจิตใจเจ๊อ้อยอยู่ ทนายเดชา มีความเห็นอย่างไร ทนายเดชา มองว่า ตอนนี้สถานะของทนายตั้มเองก็เหมือนตกเป็นสถานะผู้ต้องหา เวลาจะตอบคำถามอะไรก็ควรจะต้องระมัดระวังคำพูด

ส่วนแนวทางของคดีหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร ทนายเดชา ระบุว่า อยู่ที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะมีการออกหมายจับหรือไม่ พร้อมบอกว่าถ้าหากดูการให้สัมภาษณ์ของทนายตั้มก็จะเห็นได้ว่าทนายตั้มปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เมื่อถามว่า จะมีการออกหมายจับอยู่หรือไม่ ส่วนตัวทนายเดชา ทางพนักงานสอบสวนน่าจะมีการออกหมายเรียกไม่ก็หมายจับ เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีอาญา แต่การที่ทนายตั้มมาปรากฏตัวศาลอาจจะไม่ออกหมายจับก็ได้ซึ่งเป็นความเชื่อส่วนตัวของตนเอง

ส่วนที่มีการสอบปากคำเจ๊อ้อยมาราธอน ทนายเดชามองทั้งประเด็นนี้อย่างไร ทนายเดชา ระบุว่า การที่สอบปากคำนานขนาดนี้แสดงว่า การให้การในเรื่องเดียวกันนั้น เจ๊อ้อยให้ปากไม่อยู่กับร่องกับรอย และเชื่อว่า พนักงานสอบสวนเกิดความไม่มั่นใจ จึงต้องสอบปากคำนานกว่าปกติ ตามปกติแล้วในคดีฉ้อโกงจะใช้การสอบปากคำเพียงแค่ 2-3 ชั่วโมงก็น่าจะรู้ผลแล้ว เชื่อว่า การสอบปากคำที่นานขนาดนี้น่าจะต้องมีอะไรที่มีปัญหา

จึงอยากให้กลับไปดูที่จุดเริ่มต้นของคดี 71 ล้านบาท มองว่า เจ๊อ้อยจะต้องชี้แจงให้ชัดเจนว่า เงิน 71 ล้านบาท ว่าตอนที่ไปทวงกันเรื่องอะไรยื่นโนติสเรื่องอะไร สรุปแล้วเป็นเรื่องอะไรกันแน่อีกทั้งยังมีการรวบรวมพยานหลักฐานในคดีฉ้อโกงที่มีการรวบรวมมากมายขนาดนี้แสดงว่าพยานหลักฐานที่มีอยู่นั้นไม่เพียงพอ และไม่ชัดเจน

ส่วนเมื่อถามว่า มองว่า เงิน 71 ล้านบาทนั้น จะให้โดยเสน่หาหรือไม่ ทนายเดชา กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ตอบได้ยากว่าเงินจำนวนดังกล่าวให้จากสาเหตุอะไร เพราะเป็นเงินที่มีเป็นจำนวนมากและให้หลายครั้ง ซึ่งทนายตั้มมองว่าเรื่องของตนเองไม่เข้าการฉ้อโกงอย่างแน่นอน และวันนี้ทนายตั้มก็ขยายความว่าเป็นการให้เงินโดยไม่มีข้อผูกมัดที่ ไม่ต้องใช้คืน ดังนั้นหากผู้เสียหายมีเอกสารหลักฐานว่าทนายตั้มต้องใช้เงินคืนก็ต้องเอามาแสดง

ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า มีการอุ้มเลขาเบียร์ ไปสอบปากคำ เรื่องนี้ทนายเดชามีข้อมูลว่า เลขาเบียร์เป็นคนสนิทของทนายตั้ม และรู้ข้อมูลหลายอย่าง แต่มองว่าไม่น่าจะซัดทอดมาถึงทนายตั้ม

หากคดีเข้าข่ายฉ้อโกงเป็นปกติธุระหรือไม่ ทนายเดชา ส่วนตัวมองว่า ข้อหานี้ไม่น่าจะเข้ายกเว้นว่าจะหลอกลวงไปหลายคน จึงทำให้มีองค์ประกอบ การกระทำความผิดที่ยังไม่ครบถ้วน ส่วนจะทำเป็นขบวนการหรือไม่นั้นก็จะต้องดูว่ามีพยานหลักฐานที่ครบถ้วนหรือไม่ และส่วนตัวทนายเดชามองว่า หมายจับน่ามี ทนายตั้ม ภรรยาทนายตั้ม พีภรรยาทนายตั้ม และบุคคลอื่นๆ ที่เส้นทางการเงินไปถึงกัน

เมื่อถามว่า คดีนี้อาจจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถ้าหากไม่มีมูลความจริง สามารถเกิดขึ้นได้หรือไม่ ทนายเดชา ตอบว่า ก็เป็นไปได้ต้องรอดูฝั่งทนายตั้มว่าจะให้การหักล้างกับผู้กล่าวหาได้หรือไม่ และเมื่อถามว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเพราะมีคนสั่งใบสั่งมาถึงทนายตั้มหรือไม่ ทนายเดชามาว่าทนายตั้มเองก็เป็นคนที่มีศัตรูเยอะไปร้องเรียนเรื่องต่างๆ มามากมาย จึงทำให้ทนายตั้มอาจจะมีความเชื่อว่าเป็นการเช็คบิลล้างแค้น

ส่วนกรณีที่ทนายตั้มมีการกล่าวถึง นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ทนายเดชา มองว่า ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนก็สนิทกันดี อาจจะเป็นเพียงแค่การแซะกันเล่น

ก็แสดงว่า มีถามว่า การที่ทนายตั้มออกมาปราฏตัวจะทำให้ทนายตั้มเป็นต่อหรือเป็นรอง ทวง เรื่องของการฉ้อโกงหรือผิดสัญญา ถ้าเป็นเรื่องของการผิดสัญญามันก็จะเข้าข่ายคดีแพ่ง ความหนักเบาของกฎหมายนั้นต่างกัน

ส่วนกรณีที่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ มาบอกว่า จะมีการแฉทนายเดชานั้น ทนายเดชา ระบุว่า อยากแฉก็เชิญเลย รออยู่ ตนเองไม่มีเรื่องอะไรให้แฉ นอกจากเป็นทนายขี้เมา ไม่มีประเด็นตบทรัพย์ ไม่มีเมีย มีแค่หมาสี่ตัว อยากแฉก็เชิญเลย
กำลังโหลดความคิดเห็น