ผบช.ก.เผยยังไม่ออกหมายจับใครเพิ่มร่วม "ทนายตั้ม" โกง "พี่อ้อย" สั่งอายัดเงินสดในบัญชี 28 ล้าน พร้อมบ้านหรู 43 ล้าน ซึ่งเชื่อว่าได้มาจากการฉ้อโกงพี่อ้อย 71 ล้าน รวมทั้งรถยนต์และสิ่งของ ส่วนมือถือเครื่องเดิมยังไม่พบ
ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เผยอายัดทรัพย์สินทนายตั้ม เงินในบัญชีธนาคาร 28 ล้านบาท และบ้านหรู 43 ล้านบาทที่เชื่อมโยงการกระทำความผิด เผยมือถือเครื่องเดิมที่มีข้อมูลบิ๊กตำรวจยังหาไม่พบ เชื่อมีประสบการณ์ รู้จักตำรวจเยอะ แต่สอบสวนกลางไม่เกี่ยวข้อง
วันนี้ (11 พ.ย.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ว่า ได้รับแจ้งทั้งหมด 4 คดี คือ 1. คดีหลอกลวงให้ลงทุนขายสลากกินแบ่งรัฐบาลทางออนไลน์ ความเสียหาย 71 ล้านบาท 2. คดีคริปโตเคอเรนซี 39 ล้านบาท 3. คดีส่วนต่างรถเบนซ์ 4. คดีส่วนต่างค่าออกแบบโรงแรม รวม 4 คดี ขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน
เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่ามีตัวละคร (ผู้ต้องหา) เพิ่มขึ้นมาอีก พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน จะมีหรือไม่มีก็รอชมกันต่อไป การจะดำเนินคดีกับใครหรือไม่ จะออกหมายจับหรือหมายเรียก อยู่ระหว่างการพิจารณาตามขั้นตอน ถ้าข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเข้าองค์ประกอบก็จะดำเนินการเต็มที่ ตรงไปตรงมา แต่จะไม่บอกว่าออกหมายเรียกใคร ออกหมายจับใคร คงไม่ทำขนาดนั้น แต่เมื่อดำเนินการแล้วก็จะมีการแถลงข่าวให้ทราบ
เมื่อถามว่า ขณะนี้มีข้อมูลเบาะแสเกี่ยวกับนายนุ คนสนิทนายษิทรา และ น.ส.สารินี ภรรยานายนุ เพิ่มเติมหรือไม่ พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า จากที่ได้รับรายงานเบื้องต้น บุคคลดังกล่าวได้รับข้อมูลว่ายังอยู่ในประเทศ
เมื่อถามว่า ทรัพย์สินที่ตรวจยึดมามีมากน้อยแค่ไหน เนื่องจากมีการถ่ายโอนทรัพย์สิน พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า มีการอายัดเงินในบัญชีธนาคาร 28 ล้านบาท และบ้านในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง มูลค่า 43 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าได้มาจากเงินในคดี 71 ล้านบาท นอกนั้นก็จะเป็นรถยนต์และทรัพย์สินเป็นสิ่งของที่ตรวจยึดมา ส่วนตู้เซฟขนาดใหญ่เปิดเข้าไปไม่มีสิ่งของด้านในก็เป็นไปได้หลายอย่าง ส่วนนาฬิกาหรูที่นายษิทราสวมใส่ยังไม่เจอ
เมื่อถามว่า โทรศัพท์มือถือเครื่องเดิมของนายษิทราตรวจพบหรือไม่ พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า เครื่องเดิมยังตามหาไม่ได้ ได้แต่เครื่องปัจจุบัน ขอเรียนว่าผู้ต้องหามีประสบการณ์ มีความรู้พอสมควร คงไม่ให้เราหาได้ง่ายๆ ส่วนคำถามที่ว่า โทรศัพท์เครื่องเดิมของนายษิทรามีข้อมูลของบิ๊กตำรวจหลายบิ๊ก มีการให้การช่วยเหลือหรือไม่จึงมีการสลับเครื่องได้ พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า เพิ่งเรียนไปว่าเครื่องเดิมยังไม่ได้
ถามว่าบิ๊กตำรวจมีการให้ความช่วยเหลือผู้ต้องหาหรือไม่ พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า ทางเรา (ตำรวจสอบสวนกลาง) ไม่ได้ช่วยเหลืออยู่แล้ว มีแต่จะหาพยานหลักฐานมาให้มากที่สุด แต่หาไม่ได้จริงๆ เขามีประสบการณ์ รู้จักตำรวจเยอะ ก็คงรู้เทคนิค เราพยายามเต็มที่แล้วแต่ว่ายังไม่ได้ถึงปัจจุบัน ถ้าเราทราบและเจอโทรศัพท์ และพบว่ามีใครไปช่วยก็จะดำเนินคดีได้ ในข้อหาปกปิดอำพรางก็ดำเนินคดีได้