xs
xsm
sm
md
lg

จัดหนัก! รัสเซียส่งขีปนาวุธ 90-โดรน 100 บอมบ์ยับโครงข่ายไฟฟ้ายูเครน 1 ล้านครัวเรือนเดือดร้อน ขณะ ‘ปูติน’ ระบุมุ่งตอบโต้ที่ใช้อาวุธตะวันตกโจมตีแดนหมีขาว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:


ชายผู้หนึ่งถ่ายภาพหลุมกว้างที่เกิดขึ้นจากขีปนาวุธซึ่งรัสเซียยิงเข้ามาตกใส่ ในบริเวณชานเมืองโอเดสซา เมืองท่าทางภาคใต้ของยูเครน เมื่อวันพฤหัสบดี (28 พ.ย.) ทั้งนี้รัสเซียบอกว่าการโจมตีในช่วงคืนวันพุธต่อกับเช้าวันพฤหัสฯ แดนหมีขาวใช้ขีปนาวุธกว่า 90 ลูกและโดรน 100 ลำถล่มยูเครน
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แถลงในวันพฤหัสบดี (28 พ.ย.) ว่า รัสเซียจัดหนัก ใช้ขีปนาวุธกว่า 90 ลูก โดรน 100 ลำ ถล่มใส่ยูเครนในช่วงคืนวันพุธต่อกับก่อนรุ่งสางวันพฤหัสฯ เพื่อเป็นการ “ตอบโต้” ที่ฝ่ายเคียฟเล่นงานแดนหมีขาวด้วยขีปนาวุธยุทธวิธีทำการไกลของตะวันตกอย่างอะแทคซิมส์ ของสหรัฐฯ ก่อนหน้านี้ ขณะที่ยูเครนโวยลั่น การโจมตีของรัสเซียคราวนี้ทำให้โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานเสียหายหนัก ประชาชนกว่า 1 ล้านครัวเรือนในยูเครนตะวันตกไม่มีไฟฟ้าใช้อย่างน้อยก็ชั่วคราว ขณะที่อุณหภูมิลดต่ำถึง 0 องศาเซลเซียส

“เราดำเนินการโจมตีอย่างครอบคลุม” ปูตินบอกกับเหล่าพันธมิตร ระหว่างที่เขาเดินทางไปเยือนคาซัคสถาน หลายชั่วโมงภายหลังการถล่มยูเครน

“มันเป็นการตอบโต้ต่อการโจมตีที่ยังดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่องใส่ดินแดนของเราโดยใช้ขีปนาวุธอะแทคซิมส์ (ATACMS ขีปนาวุธทางยุทธวิธีของสหรัฐฯ ที่สามารถยิงได้ไกลราว 300 กิโลเมตร)” เขาระบุในการแถลงซึ่งมีการถ่ายทอดทางโทรทัศน์

เขากล่าวด้วยว่า กองทัพรัสเซียกำลังพิจารณาที่จะโจมตีใส่พวกศูนย์กลางการตัดสินใจในกรุงเคียฟ เพื่อแก้เผ็ดเอาคืนการโจมตีใดๆ ของฝ่ายยูเครนในอนาคต

ปูตินบอกว่า รัสเซียโจมตีคราวนี้โดยใช้ขีปนาวุธกว่า 90 ลูก และโดรน 100 ลำ และมีเป้าหมายต่างๆ 17 เป้าที่ถูกถล่ม อันเป็นการให้รายละเอียดซึ่งน้อยครั้งนักที่เขาจะระบุเจาะจงแบบนี้ ขณะที่ทางฝ่ายยูเครนบอกว่า เป้าหมายที่โดนถล่มหนักก็คือโครงข่ายด้านกระแสไฟฟ้า

ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ยังกล่าวหาว่า รัสเซียโจมตีด้วยขีปนาวุธร่อนติดระเบิดลูกปรายหรือคลัสเตอร์บอมบ์ และเป็นการยกระดับขยายขอบเขตการทำสงครามอย่างน่ารังเกียจ สำหรับกองทัพอากาศยูเครนเผยว่า สามารถสอยขีปนาวุธรัสเซีย 79 จาก 91 ลูก และโดรน 35 ลำ แต่ก็ยอมรับว่ามีบางส่วนที่หลุดรอดเข้าสร้างความเสียหายให้ยูเครน

ทางด้านกิจการผู้ประกอบการจ่ายกระแสไฟฟ้าของยูเครนประกาศว่า ความเสียหายที่เกิดจากการโจมตีทำให้ต้องระงับการจ่ายไฟฟ้าอย่างฉุกเฉิน ซึ่งส่งผลให้บ้านเรือนกว่า 1 ล้านหลังในยูเครนตะวันตกไม่มีไฟฟ้าใช้ชั่วคราว

ขณะที่สำนักงานบริการรับมือเหตุฉุกเฉินของยูเครนกล่าวว่า การโจมตีได้ก่อความเสียหายใน 14 แคว้นทั่วประเทศ ซึ่งเซเลนสกีกล่าวในข้อความที่โพสต์บนแพลตฟอร์มเทเลแกรมว่า ในหลายแคว้น ได้ถูกโจมตีด้วยระเบิดลูกปรายอย่างหนักที่สุดเป็นสถิติใหม่ โดยที่ฝ่ายรัสเซียพุ่งเป้าเล่นงานโครงสร้างพื้นฐานพลเรือน

เซเลนสกียังกดดันพวกผู้นำตะวันตกอีกครั้งหนึ่งให้จัดส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศมาให้ยูเครนมากขึ้น เพื่อรับมือกับการโจมตีของรัสเซียตลอดฤดูหนาว

ปูตินขู่โจมตีศูนย์ตัดสินใจของยูเครนในกรุงเคียฟ

ระหว่างการแถลงข่าวที่คาซัคสถานครั้งนี้ ปูตินยังอ้างว่า มอสโกทราบดีว่ามีการมอบอาวุธทำการไกลให้แก่เคียฟเป็นจำนวนเท่าใด และ “มันอยู่ที่ไหน” พร้อมกับระบุว่า รัสเซีย “ถูกบังคับให้ทดสอบ” ขีปนาวุธพิสัยทิ้งตัวพิสัยปานกลางรุ่นใหม่แบบ “โอเรสนิก” ใส่ยูเครนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และพร้อมจะโจมตี “เพื่อการทดสอบ” เช่นนี้อีก

ปูติน บอกว่ากองทัพรัสเซียกำลังอยู่ระหว่างเลือกเป้าหมายที่จะโจมตีในยูเครน ซึ่งรวมถึง “พวกศูนย์กลางการตัดสินใจในเคียฟ” และกล่าวหาว่า ตลอดระยะเวลาการสู้รบขัดแย้งคราวนี้ ยูเครนได้พยายายามที่จะโจมตี “อาคารสำคัญๆ ของภาครัฐในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และในกรุงมอสโก”

เขาคุยด้วยว่า ขีปนาวุธโอเรสนิก สามารถที่จะทำให้อะไรที่ถูกมันโจมตี “กลายเป็นฝุ่น” และการใช้อาวุธนี้หลายๆ ลูกโจมตีด้วยกันจะ “เปรียบเทียบได้กับการโจมตีด้วยนิวเคลียร์”

ปูตินอ้างว่า โอเรสนิกสามารถเดินทางด้วยความเร็ว “ราว 3 กิโลเมตรต่อวินาที” และส่วนประกอบต่างๆ สำหรับโจมตีของมันจะมีอุณหภูมิสูงเกือบ “เท่ากับพื้นผิวของดวงอาทิตย์”

“ถ้ายังมีการโจมตีมากขึ้นต่อดินแดนรัสเซียโดยใช้พวกขีปนาวุธทำการไกลของพวกฝ่ายตะวันตกแล้ว ... เราก็จะตอบโต้ ซึ่งรวมถึงความเป็นไปได้ที่จะดำเนินการทดสอบโอเรสนิกในเงื่อนไขของการสู้รบอย่างต่อเนื่อง” ปูติน ขู่

การโจมตีล่าสุดครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาทั้งสองฝ่ายผลัดกันปล่อยอาวุธใหม่เพื่อชิงความได้เปรียบก่อนที่โดนัลด์ ทรัมป์ จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนมกราคมปีหน้า

ทั้งนี้ ยูเครนโจมตีลึกเข้าไปในรัสเซียด้วยขีปนาวุธทำการไกลอย่างน้อย 3 ครั้งนับจากได้รับอนุญาตจากอเมริกาและอังกฤษให้ใช้อาวุธประเภทนี้ที่จัดหาให้โจมตีดินแดนรัสเซีย ซึ่งได้แก่ อะแทคซิมส์ ของวอชิงตัน และขีปนาวุธร่อนยิงจากอากาศแบบ “สตอร์ม แชโดว์” ของลอนดอน

ทางฝั่งรัสเซียตอบโต้ด้วยโอเรสนิก ที่เป็นขีปนาวุธทิ้งตัวซึ่งติดหัวรบหลายหัว และมีความเร็วระดับไฮเปอร์โซนิก (เร็วกว่าความเร็วเสียง 5 เท่าตัวขึ้นไป) ในเมืองดนิโปร ทางตอนกลางของยูเครน

ทรัมป์ตั้ง ‘คีธ เคลล็อก’ รับผิดชอบการยุติสงครามยูเครน

การถล่มยูเครนด้วยขีปนาวุธระลอกล่าสุดของรัสเซียครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันพุธ (27 ) ทรัมป์เสนอชื่อคีธ เคลล็อก พลโทปลดเกษียณที่แสดงความจงรักภักดีเรื่อยมา เป็นผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดี ในการดำเนินการให้เกิดการยุติสงครามในยูเครน

นับจากถูกรัสเซียรุกรานเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ยูเครนได้รับความช่วยเหลือจากอเมริกาเกือบ 60 ล้านดอลลาร์ ทว่า การกลับสู่ทำเนียบขาวของทรัมป์กระตุ้นความกังวลว่า เคียฟอาจไม่ได้รับความช่วยเหลือเหมือนเก่า เนื่องจากทรัมป์ไม่เห็นด้วยกับการทุ่มเงินช่วยเหลือเคียฟ อีกทั้งประกาศระหว่างหาเสียงว่า จะทำให้สงครามในยูเครนยุติลงโดยเร็วที่สุด

เคลล็อก ซึ่งปัจจุบันอายุ 80 ปีเคยรับตำแหน่งต่างๆ ในคณะบริหารทรัมป์ 1 ซึ่งรวมถึงหัวหน้าคณะทำงานของสภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว และที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในขณะนั้น

เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เคลล็อกประกาศในที่ประชุมใหญ่พรรครีพับลิกันว่า ทางเลือกของยูเครนชัดเจนมากคือยอมเจรจา หรือยอมรับว่า เมืองต่างๆ จะถูกทำลายและประชาชนจะล้มตายไปกว่าสองแสนคน

ขณะที่รอยเตอร์รายงานว่า เคลล็อกได้ร่างแผนการของเขาเกี่ยวกับยูเครน โดยร่วมมือกับ เฟรด ไฟลซ์ ซึ่งก็เคยเป็นหัวหน้าคณะทำงานของสภาความมั่นคงแห่งชาติในยุค ทรัมป์ 1.0 เช่นกัน โดยเสนอยุทธศาสตร์ให้สหรัฐฯ บอกกับยุเครนว่าจะได้รับอาวุธอเมริกันเพิ่มขึ้นต่อเมื่อยอมเข้าเจรจาสันติภาพ เวลาเดียวกันนั้นสหรัฐฯ ก็จะเตือนมอสโกว่าการปฏิเสธไม่ยอมเจรจาจะส่งผลให้สหรัฐฯ เพิ่มความช่วยเหลือแก่ยูเครน ขณะที่เรื่องการเข้าเป็นสมาชิกนาโตของยูเครน ก็จะระงับไม่นำมาพิจารณาในอนาคตเฉพาะหน้านี้

ทีมไบเดนเสนอยูเครนลดอายุทหารเกณฑ์

ในวันพุธเช่นกัน มีรายงานว่าคณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เรียกร้องให้ยูเครนลดอายุในการเกณฑ์ทหารจาก 25 ปี เป็น 18 ปี เท่ากับอายุการเข้ารับราชการทหารในอเมริกา เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนกำลังพลอย่างรุนแรงตลอดแนวรบระยะทาง 1,000 กิโลเมตร

เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ คนหนึ่งระบุว่า ยูเครนต้องระดมกำลังพลเพิ่มอย่างน้อย 160,000 นายเพื่อทดแทนทหารที่บาดเจ็บล้มตายก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ดี ในเวลาต่อมา จอห์น เคอร์บี้ โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ แถลงยืนยันว่า ความช่วยเหลือทางทหารก้อนใหญ่ของอเมริกาจะไม่ผูกติดกับเงื่อนไขการเปลี่ยนแปลงอายุในการเกณฑ์ทหารของยูเครน

(ที่มา : เอเอฟพี, รอยเตอร์)
กำลังโหลดความคิดเห็น