MGR Online - ทนาย พา "พ่อสามารถ" มาเยี่ยมลูกชาย แต่ยังไม่มีชื่อในระบบ จึงฝากสื่อสารให้กบับมาทานข้าว วันละมื้อ ยืนต้องการประกันตัวต่อสู้คดีฟอกเงิน
วันนี้ (3 ธ.ค.) เวลา 15.50 น. บริเวณด้านหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ร.อ.ธีรศานต์ แก้วสง ทนายความของนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช เปิดเผยหลังเข้าเยี่ยม ว่า วันนี้ทางคุณพ่อของนายสามารถ ยังไม่ได้เยี่ยมลูกชาย เนื่องด้วยชื่อญาติที่นายสามารถได้ระบุไว้ยังไม่เข้าระบบ ต้องรอขั้นตอนของทางเรือนจำฯ ก่อน ทำให้วันนี้คุณพ่อยังไม่ได้เยี่ยมลูกชาย แต่คุณพ่อก็ได้ฝากสื่อสารไปกับทางตนว่ามีความเป็นห่วงลูกชาย และรอให้นายสามารถได้กลับออกมา และก็อยากให้กลับมาทานอาหาร ส่วนนายสามารถก็เป็นห่วงคุณพ่อ เพราะพ่ออายุเยอะ ป่วยหลายโรค หลักๆ ก็โรคหัวใจ ทั้งนี้ ในส่วนของคุณแม่เองก็ยังไม่สามารถเข้าเยี่ยมได้ เพราะชื่อยังไม่เข้าบันทึกในระบบเช่นกัน ทั้งนี้ สำหรับรายชื่อญาติที่นายสามารถได้ระบุไว้กับเรือนจำฯ ได้แก่พ่อและแม่ และบุคคลสนิทใกล้ชิดกับนายสามารถ รวม 3 ราย แต่ไม่มีนักการเมืองในรายชื่อ
ร.อ.ธีรศานต์ เผยว่า ส่วนสภาพจิตใจของนายสามารถตอนนี้ยังคงมีอาการเครียดที่ยังคงอยู่ และร่างกายค่อนข้างผอมลงกว่าเดิม มีอาการอ่อนเพลีย อย่างไรก็ตาม นายสามารถ ยอมจิบน้ำแล้ว แต่เรื่องการรับประทานอาหารนั้น ตนเองและคุณพ่อของนายสามารถ ก็ได้ย้ำเตือนให้นายสามารถกลับมารับประทานอาหาร อย่างน้อยวันละ 1 มื้อก็ยังดี เพราะนายสามารถอดอาหารมาตั้งแต่วันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ พร้อมยืนยันว่าสถานการณ์ภายในเรือนจำฯ นายสามารถยังไม่ถูกใครรังแก เพราะทางเรือนจำฯ ก็ดูแลค่อนข้างดี
ร.อ.ธีรศานต์ เผยต่อว่า ด้านความคืบหน้าการทำคำให้การต่อสู้คดีของดีเอสไอนั้น ขณะนี้อยู่ในระหว่างการขอคัดเอกสารจากดีเอสไอ ว่าดีเอสไอได้ไปตรวจค้นบ้านและได้ตรวจยึดเอกสารอะไรไปบ้าง ทราบเบื้องต้นว่าเอกสารส่วนใหญ่เป็นเอกสารเกี่ยวกับเส้นทางการเงิน ดังนั้น หากคัดเอกสารมาไม่ทัน ตนก็อาจจะต้องยืดขยายเวลายื่นคำให้การออกไปก่อน ซึ่งจะขยายเวลากี่วันนั้น ก็ขึ้นอยู่กับความเมตตาของดีเอสไอ ถ้าหากได้เอกสารเร็วขึ้น ก็จะสามารถทำคำให้การได้เร็วขึ้น
ร.อ.ธีรศานต์ เผยด้วยว่า สำหรับข้อต่อสู้ของนายสามารถ ก็ยังคงยืนยันในประเด็นเดิม คือ ข้อหามูลฐานที่ถูกดำเนินคดีร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงินนั้น ยังไม่ชัดเจนว่า บริษัท ดิไอคอน เข้าข่ายแชร์ลูกโซ่หรือไม่ และนายสามารถ ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี ไม่เคยยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน โดยเฉพาะเงินในบัญชีที่ถูกอายัดไปแล้วก็ไม่สามารถไปยุ่งได้
ส่วนกรณีที่มีการออกมาเปิดโปง ว่า พบเส้นทางการเงินของหวานใจนักการเมืองรายใหญ่ชื่อดังที่กำลังตกเป็นประเด็นในขณะนี้ มีความเชื่อมโยงกับนายสามารถ นั้น ร.อ.ธีรศานต์ ระบุว่า เรื่องนี้ตนทราบมาจากข่าว ตนยังไม่ทราบรายละเอียดใดๆ จากนายสามารถเลย เพราะตนรับผิดชอบเพียงแค่คดีร่วมกันฟอกเงินฯ แต่ตนได้รายงานเรื่องดังกล่าวให้นายสามารถรับทราบแล้ว โดยนายสามารถ ก็ยืนยันว่าเส้นเงินที่มีความเชื่อมโยงกับหวานใจนักการเมืองและรีสอร์ตนั้น นายสามารถไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
สำหรับประเด็นที่เมื่อวานนี้ (2 ธ.ค.) ที่มีผู้ไปร้องเรียนกับดีเอสไอ ว่า นายสามารถตบทรัพย์บริษัทขายปุ๋ย 30,000 บาทต่อเดือนนั้น ร.อ.ธีรศานต์ ระบุว่า ตนได้นำเรื่องดังกล่าวเรียนเบื้องต้นนายสามารถเช่นเดียวกัน ซึ่งนายสามารถ ระบุว่า เงินจำนวนดังกล่าวเป็นค่าจ้างของการเป็นที่ปรึกษา แต่ยังไม่ได้พูดคุยลงรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเรื่องรถยนต์หรู (อัลพาร์ดสีดำ) ที่นายสามารถนำมาใช้แล้วถูกดีเอสไอตรวจยึดไว้ ก่อนพบว่าไม่ใช่รถของนายสามารถนั้น ประเด็นนี้ตนได้แจ้งประเด็นดังกล่าวให้ดีเอสไอรับทราบแล้ว ดีเอสไอทราบว่าไม่ใช่รถของนายสามารถ ซึ่งในส่วนของนายสามารถ เขาแค่ยืมรถคันดังกล่าวมาใช้ ไม่ใช่รถของนายสามารถเอง ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างนายสามารถและบริษัทรถนั้น เรื่องนี้ตนไม่ทราบ
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงกรณีที่นายตำรวจได้ออกมาแถลงเกี่ยวกับเรื่องเส้นทางการเงิน 100 ล้านบาทก่อนหน้านี้ที่นายสามารถอาจจะมีความเชื่อมโยงกับการพนันนั้น ร.อ.ธีรศานต์ กล่าวว่า ตนเองยังไม่เห็นเอกสารหลักฐานทั้งหมด แต่เชื่อว่าจะเป็นกรณีเงินหมุนเวียนในบัญชีมากกว่าเงินเข้ามาในบัญชี ส่วนเรื่องพนันนั้น น่าจะเป็นเรื่องของการเล่นพนัน ซึ่งหลังจากตนนำเรียนเรื่องนี้กับนายสามารถ นายสามารถยอมรับว่า ก็มีเล่นพนันทั่วไปบ้างเกี่ยวกับกีฬาและเป็นไปตามที่แม่ของนายสามารถเคยออกมาให้สัมภาษณ์
ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามต่อไปว่า แล้วเส้นเงินดังกล่าวพบในช่วงที่นายสามารถดำรงตำแหน่งเป็นข้าราชการการเมืองหรือไม่ ร.อ.ธีรศานต์ ระบุว่า เส้นเงินดังกล่าวพบภายหลังการเป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ซึ่งไม่ใช่ตำแหน่งข้าราชการการเมือง ดังนั้น ช่วงที่พบเส้นเงินดังกล่าวนั้น จึงเป็นช่วงที่ไม่ได้ดำรงตำแหน่งแต่อย่างใด ส่วนจะโอนเข้าบัญชีของแม่นายสามารถหรือไม่ เรื่องนี้ตนไม่ทราบ